The Ultimate Guide to Visiting : MACAO

The Ultimate Guide to Visiting : MACAO

22โลเคชั่นถ่ายรูปชิค ๆ กับมาเก๊าฉบับ 2023

ถ้าอยากไปเที่ยวประเทศที่เที่ยวง่าย ถ่ายรูปสวย อยู่ใกล้เมืองไทย บินไปง่าย ไม่แพง แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน ลองมาเที่ยวมาเก๊าดูสิ เปิดประเทศแล้ว เดินทางเข้าได้ง่าย ใครที่เป็นสายชิลชอบเที่ยวแบบสบาย ๆ ยิ่งต้องมา เพราะช่วงนี้คนไปไม่เยอะ ไม่ต้องเตรียมตัวไปให้ยุ่งยาก เตรียมแค่ชุดสวย ๆ ลุคปัง ๆ ไปถ่ายรูปก็พอ เพราะมาเก๊ามุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เยอะมาก 
สำหรับคนที่เป็นสายกินก็เตรียมแค่กระเพาะไว้ไปตะลุยร้านเด็ด อาหารก็อร่อยถูกปากคนไทย ร้านคาเฟ่ชิค ๆ ก็มีให้เลือกนั่งเยอะ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้ การเดินทางในประเทศก็แสนง่ายดายนั่งเมล์หรือเดินก็ไม่ลำบากอย่างที่คิดเพราะถนนหนทางเขาเอื้ออำนวยกับการเดินเที่ยวสุดๆ อากาศก็ดี เดินเม้ามอยแป๊บๆ ก็ถึงที่หมายแล้ว สายประหยัดงบแต่อยากเที่ยวเยอะต้องเก็บมาเก๊าไว้ในใจเลย

Flitgh

ทั้งหมดนี้ว่าสะดวกสบายแล้ว การเดินทางยิ่งง่ายกว่า เพราะสายการบินแอร์เอเชียมีเที่ยวบินตรงถึงมาเก๊า วันละ 2 เที่ยวบิน แถมมีที่นั่งพรีเมี่ยมแฟลตแสนสบาย ที่ได้ทั้งที่นั่ง Hot Seat อาหารและน้ำหนักกระเป๋าถึง 20 KG ขนเสื้อผ้าปัง ๆ ไปถ่ายรูปที่มาเก๊าแบบจุก ๆ ใครอ่านถึงตรงนี้แล้วสนใจ เริ่มบินได้เลย 1 เมษานี้!


ไฟล์ทนี้ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง 35 นาที เพราะฉะนั้นเราจะไปถึงมาเก๊าช่วงสาย ๆ ยิ่งเราใช้แพคเกจ Premium Flex ยิ่งทำให้การเที่ยวมาเก๊าของเราในรอบนี้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะเค้ามีทั้งอาหารบน ขึ้นเครื่องก่อนใครแถมได้กระเป๋าไวอีกด้วย เรียกได้ว่าเติมพลังบนเครื่องแล้วสามารถออกไปเที่ยวได้เลยหลังจากเครื่องแลนดิ้งสู่แผ่นดินมาเก๊า

เส้นทางจอง : https://www.airasia.com/th/th

Destination

001 TeamLAB Macao – Interactive Art Space

เริ่มต้นที่แรกกับการมาที่มาเก๊าครั้งนี้เราจะอยากพาทุกคนไปดื่มด่ำกับจินตนาการ จากการสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านเทคโนโลยีโดยใช้คอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้เข้ามาเยี่ยมชมสามารถเล่นและมีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่จัดแสดงได้ จะน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน ตามมาดูกัน

TeamLAB Macao หรือ Interactive Art Space ออกแบบอาคารและพื้นที่ภายในอาคารให้สามารถโต้ตอบแบบสามมิติกับนักท่องเที่ยวได้ หมายความว่าเราสามารถเล่น แตะ สัมผัส กับลำแสงและภาพที่ตกกระทบได้ โดยแต่ละจุดก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามที่เราได้แตะหรือสัมผัส ซึ่งที่นี่ทำออกมาได้ดีมาก รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในมิติที่เราสามารถจินตนาการได้ตามใจชอบ แต่ละโซนมีการนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องคริสตัลที่เต็มไปด้วยผลึกสีขาวใสรอบตัวแบบ 360 องศา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน หรือห้องให้ฟีลเหมือนอยู่ในหุบเขาแห่งดอกไม้ 

รู้ตัวอีกทีก็ใช้เวลากับที่นี่ไปนานมาก ๆ ด้วยความสวยงามและน่าสนใจ  ทำให้หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการถ่ายรูป ถ้าใครต้องการเข้าถึงเรื่องราวและการนำเสนอให้ลึกซึ้งมากขึ้น ทาง TeamLAB ก็ได้จัดเตรียม App ให้ได้ดาวน์โหลดเพื่อเสริมให้การเข้าชมภายในนั้นสนุกมากขึ้นอีกครับ

002 เมืองจำลอง Cotai

ใครจะไปคิดว่าการมาเที่ยวมาเก๊าครั้งจะได้รูปสวย ๆ เหมือนกำลังเดินเล่นในยุโรปกลับไป เพียงแค่เราแต่งตัวเท่ ๆ แล้วไปเดินถ่ายรูปในย่านเมืองจำลองของมาเก๊า ที่มีตั้งแต่บิ๊กเบนไปจนถึงหอไอเฟลแบบจำลอง แต่มีขนาดใหญ่คล้ายของจริง เป็นสถาปัตยกรรที่สวยงาม เดินเล่นถ่ายรูปได้แบบไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะมุมไหนของถนน ภาพที่ได้ออกมาก็ให้ความรูสึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในประเทศฝั่งยุโรปจริง ๆ แม้จะอยู่ที่มาเก๊า 

โดยแต่ละจุดขอบอกเลยว่าถ่ายรูปได้แบบปังมาก ตัวของหอไอเฟลจะตั้งอยู่บริเวณโรงแรม The Parisian ช่วงกลางคืนเค้าจะมีการแสดงไฟ Grand Illumination Show ตั้งแต่ 18:15 – 24:00 น.อีกด้วยนะ

และกิจกรรมไฮไลต์ที่เราประทับใจไม่แพ้กันคือการล่องเรือกาโดล่าสุดหรู ชมวิวเมือง แม่น้ำอันเงียบสงบกับเรือที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม พาเรานั่งชมวิวเมืองไปแบบชิล ๆ ไม่รีบร้อน เราสามารถใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการดื่มด่ำบรรยากาศรอบ ๆ ผ่อนคลายจากการล้าที่เดินเที่ยวมาทั้งวันได้เป็นอย่างดี บอกตรง ๆ ว่ากิจกรรมนี่ ทำให้เราหลงใหลที่นี่มากขึ้นไปอีก

003 Happiness Street

ถ้าใครอยากสัมผัสถึงความเป็นมาเก๊าฉบับดั่งเดิม เราแนะนำให้รีบมุ่งหน้าตรงไปชมความงามของสถาปัตยกรรมจีนกันก่อนเลยที่ “Happiness Street” ที่เที่ยวมาเก๊าที่ใคร ๆ มาถึงแล้วก็ต้องมาเยือน เพราะเป็นย่านที่โดดเด่นเรื่องตึกเก่าที่มีประตูหน้าต่างสีแดงสดใสเรียงรายกันอยู่บนเนิน ราวกับว่าทั้งย่านนี้เขานัดธีมสีกันว่า ประตูบ้านน่ะ ทาได้แต่สีแดงเท่านั้น ถ้าใครทาสีอื่นจะไม่คุยด้วย แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพราะว่าย่านนี้เคยเป็นย่านโคมแดงมาก่อน แต่ตอนนี้กลายเป็นย่านการค้าน่ารัก ๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปและเดินชิมกินแหลกกัน

004 Senado Square

เที่ยวชมสถาปัตยกรรม แบบจีนไปแล้ว เรามาวาร์ปไปเที่ยวยุโรป ชมความงามของสถาปัตยกรรม แบบโปรตุเกสกันบ้างดีกว่า ที่นี่ไม่ไกลจากHappiness Street เท่าไหร่นัก เราก็จะเจออีกหนึ่งที่เที่ยวมาเก๊าที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ “Senado Square” ที่นี่เป็นจุดพบปะของชาวมาเก๊ามาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะพื้นที่มีลักษณะ เป็นลานกว้าง ปูด้วยกระเบื้องสีสวยเป็นลายคลื่น นั่ง ๆ นอน ๆ ถ่ายรูปได้ ยังไงก็สวย ตรงกลางมีน้ำพุขนาดใหญ่ให้ผู้คนใช้เป็นจุดนัดพบ

ใครที่ตั้งใจมาชอปปิ้ง ถ้ากำลังมองหาอะไรอยู่ ได้กลับไปครบแน่นอน ไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง ขนม ของฝาก เดินลัดเลาะตรอกซอกซอยไปตามหากันได้เลย แต่อย่าเพิ่งเหมามาเยอะเกินไปนะ เพราะวันนี้เรายังมีที่เที่ยวมาเก๊ารออยู่ในลิสต์อีกเพียบ เดี๋ยวจะแบกของเหนื่อยกันซะก่อน

005 Ruins of St.Paul’s

อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญที่ถ้ามาเที่ยวมาเก๊าแล้วไม่แวะ จะผิดมาก ๆ เพราะ “Ruins of St.Paul’s” ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ ของมาเก๊าเลยนะ (ที่จริง ถ้าไม่แวะก็ไม่ผิดหรอก แต่ถ้าไปเชียงใหม่แล้วไม่ไปพระธาตุดอยสุเทพมันก็ยังไงอยู่นะ นั่นแหละ ฟีลเดียวกัน ไปแล้วก็ไปอีกได้) Ruins of St.Paul’s โบสถ์ที่หลงเหลือเพียงซากประตูด้านหน้า ส่วนด้านหลังประตูโบสถ์จะมีพิพิธภัณฑ์ ศาสนาที่จัดแสดงอุปกรณ์ ทางศาสนาและภาพวาดต่าง ๆ เอาไว้ นอกจาก Senado Square แล้ว แลนด์มาร์กสำคัญของมาเก๊าก็คือที่นี่นี่แหละ การเดินทางก็ง่ายดาย เพราะอยู่ใกล้กับ Senado Square ระดับที่เดินไปนิดเดียวก็ถึงเลย

ที่เที่ยวมาเก๊าแห่งนี้นอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้ว ยังเป็นจุดรวมของอร่อยอีกด้วย ถ้าใครอยากได้รูปสวย ๆ เก็บประตูสีแดงเต็ม ๆ ให้เลือกมาในตอนเช้า ๆ หรือสาย ๆ ที่ร้านรวงยังไม่เปิด และนักท่องเที่ยวยังมากันไม่เยอะมากนัก แต่ถ้าใครกะมาเก็บของกินให้เรียบก็มาหลังช่วงเที่ยงเป็นต้นไปนะ

006 Rua Nova a Guia

ใครอยากได้รูปสวย ๆ แนวหนังไซไฟมาทางนี้เลย ตามเรามาเที่ยว “Rua Nova a Guia” ถนนที่ตึกรามบ้านช่องยังคงความคลาสสิก เก่าแก่ สวยงามตามสไตล์มาเก๊า มีแสงไฟสลัว ๆ แต่ด้านหลังกลับเป็นตึกสูงดีไซน์ล้ำสมัย “Grand Lisboa” คาสิโนชื่อดังของมาเก๊า ความคอนทราสของตึกพวกนี้เลยทำให้ทุกคนอยากมาถ่ายรูปที่นี่ แต่นอกจากถ่ายรูปสวยแล้ว ย่านนี้ยังมีของกินอร่อย ๆ ให้เราได้ลองชิมอีกเพียบ

007 Edf. Comercial Holland Jardim

บริเวณใกล้ ๆ กันเราจะพบกับ “Edf. Comercial Holland Jardim” จุดถ่ายรูปมาเก๊าที่ถ่ายยังไงก็สวย ชิค เหมือนทราเวลบล็อกเกอร์แน่นอน ทั้งตัวตึกที่มีสีสันสดใส พื้นที่ถูกปูด้วยหิน สถาปัตยกรรมและการตกแต่งต่าง ๆ ทำให้เรานึกว่าตอนนี้กำลังเดินเล่นอยู่ที่โปรตุเกสยังไงยังงั้น สายถ่ายรูปต้องไม่พลาด ได้รูปกลับไปลงจนล้นไอจีแน่นอน!

008 Albergue SCM

มุมถ่ายรูปทริปนี้ยังไม่จบง่ายๆ สำหรับคนที่ชอบศิลปะและตึกโปรตุเกสสีเหลืองๆที่มีอายุกว่า 200 ปี แนะนำอย่าพลาดที่นี่ โดยในอดีตที่นี่เคยเป็นที่พักสำหรับผู้ลี้ภัยและบ้านพักคนชรา นอกจากสีสันตึกที่ดูน่าถ่ายรูปคู่แล้วด้านในยังเป็นห้องแสดงศิลปะนิทรรศการที่สร้างสรรค์และงานสัมมนาต่างๆ อีกด้วย

009 Taipa Village

เที่ยวมาเก๊าแบบน่ารัก ๆ กันที่ “Taipa Village” หมู่บ้านเก่าแก่ทางตอนใต้ของมาเก๊าที่ยังคงเอกลักษณ์ ของสถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้านไว้ได้ดีมาก ๆ จุดเด่นของที่นี่คือบ้านหลังเล็ก ๆ สีพาสเทล และเส้นทางการเดินสำรวจที่แตกต่างกันไป จะศึกษาวัฒนธรรม ตามหาของกินอร่อย ๆ หรือดูวิถีชีวิต ชาวบ้านแบบชิล ๆ เลือกสไตล์ที่ใช่ที่ชอบได้เลย

ในอดีต Taipa Village เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงและสถานที่ประกอบดอกไม้ไฟมาก่อน แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มีเส้นทางเดินศึกษาประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ ร้านรวงต่าง ๆ ทั้งของกินของใช้ก็ทยอยเข้ามาเปิด เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวมาเก๊าที่น่าสนใจ

010 A-Ma Temple

ถ้าขาดวัดไปทริปนี้คงไม่สมบูรณ์ เราจึงนั่งรถเมล์มาต่อกันที่ วัดอาม่าหรือศาลเจ้าแม่ทับทิม วัดชื่อดังที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า อายุกว่า 500 ปี เชื่อเถอะว่าถ้าใครไม่มาไหว้พระขอพรที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงมาเก๊าดีๆ นั้นแหละ วัดนี้มีการผสมผสานทางความเชื่อทางศาสานาหลายๆอย่างเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO เลยแหละ

FOOD

011 Lord Stow’s Bakery

มาเที่ยวมาเก๊า ก็ต้องกินทาร์ตไข่สิ และเราก็ไม่พลาดที่จะไปตามล่าหาร้านทาร์ตไข่ที่เขาว่ากันว่าเด็ดอย่าง “Lord Stow’s Bakery” ทาร์ตไข่เนื้อนุ่มแน่น กลิ่นหอมหวนไปทั่วถนน

เขาว่ากันว่าเป็นต้นตำรับจากโปรตุเกสที่เปิดร้านมาอย่างยาวนาน ชิมแล้วก็เห็นด้วยในทันทีว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากไปร้านนี้ จะซื้อกินที่นี่ หรือซื้อกลับไปฝากเพื่อน ๆ ก็เป็นของฝากจากมาเก๊าที่คนรับจะต้องดีใจแน่ ๆ ส่วนเราขอเหมากลับบ้านสักโหลนึงไปเลย!

012 Sei Kee Cafe’

ส่วนอีกร้านที่อยู่ใกล้ๆคนก็เด็ดไม่แพ้กัน ” Sei Kee Cafe’ ” ที่เป็นเบอร์เกอร์ที่สอดใส้หมูทอดชิ้นใหญ่ที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 50 ปี กินคู่กับชานม บอกเลยว่าฟินสุดๆ

013Miramar

มื้อค้ำถ้าใครใช้พลังงานกันไปพอสมควร แนะนำให้มาฝากท้องกันที่ร้านอาหารมื้อแรกกันเลยกับ Miramar ร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศสวนและต้นไม้สีเขียว ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ผ่อนคลาย พอเดินเข้าร้านมาสัมผัสได้ว่าร้านดูดี ดูเป็นระเบียบ ภายในร้านกว้างขวาง มีโต๊ะรับประทานอาหารที่ถูกจัดไว้เป็นอย่างดีพร้อมให้บริการลูกค้าจำนวนมาก

ร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารสไตล์โปรตุกีส  ด้วยร้านตั้งอยู่ใกล้กับทะเล ทำให้หลาย ๆ เมนูเป็นวัตถุดิบจากทะเลซะส่วนใหญ่ อย่างเมนูสลัดปลาหมึกที่เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ส่วนใครที่ไม่อยากรับประทานอาหารทะเล เมนูง่าย ๆ อย่างสเต็กไก่ และเมนูของว่างอื่น ๆ ไม่ต้องกลัวว่าการหาของกินในต่างแดนจะลำบาก เพราะร้านนี้มีเมนูให้เลือกสั่งเยอะมาก ๆ ครับ

014 LaFamiglia

ใครที่กำลังมองหารสชาติอาหารสไตล์มาเก๊า แนะนำร้านนี้เลย LaFamiglia ตั้งอยู่ในย่านไทปา บอกไว้ก่อนเลยว่าร้านนี้เป็นขั้นกว่าของอาหารจีนสไตล์มาเก๊ามาก ๆ เพราะเป็นผสมผสานระหว่างอาหารโปรตุกีสและมาเก๊า จนออกมาเป็นสไตล์แมคกานีส ด้วยวัตถุจากทั้งสองฝั่งที่ดีมีคุณภาพ ทำให้ร้านนี้กลายเป็นร้านในดวงใจของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่มาเยือนย่านนี้

ถ้านึกภาพไม่ออกว่าสองสไตล์นี้พอมาฟิวชั่นกันแล้วจะออกมาเป็นยังไง ลองมาดูจานหลักที่ใครมาก็สั่งอย่าง ไก่แอฟริกัน เมนูไก่ย่างราดซอสสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติที่เข้มข้นบ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการปรุง คั่นเมนูรสจัดด้วยของว่าง 6 อย่าง ที่รวมกันมาแบบจุก ๆ ในจานเดียว นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นเมนูเด็ดของทางร้าน มาเยือนมาเก๊าทั้งที ไม่ลองอาหารสไตล์แมคกานีสก็เหมือนมาไม่ถึง แนะนำเลยว่าต้องมาให้ได้ครับ!

015 Fontana Restaurant

มาลองจัดบุฟเฟ่ต์สักมื้อที่มาเก๊า ก็ฟินไม่แพ้ร้านอื่น เริ่มจากการเข้าโรงแรมก่อนเลย นั่นคือการนั่งกระเช้าลอยฟ้า หรือ Skycab เข้าไปในโรงแรม เป็นอะไรที่เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างความประทับใจมาก ๆ ตอนเข้ามาว่าฟินแล้ว พอได้เข้ามาอยู่ในโรงแรมยิ่งรู้สึกฟินกว่าเดิม เพราะ WynnPalace ที่เป็นโรงแรม 5 ดาว ตกแต่งภายในได้ยิ่งใหญ่อลังการ โปร่งโล่งและกว้างขวางในสไตล์ตะวันตก ด้วยสีส่วนมากที่ใช้ออกแบบเป็นสีแดง ยิ่งเสริมให้ที่แห่งนี้ดูหรูหรามากขึ้น

ในที่สุดก็มาถึง Fontana Restaurant ร้านอาหารบริการอย่างดี ให้ความรู้สึกส่วนตัวแม้จะอยู่ในบรรยากาศการตักอาหารแบบบุฟเฟต์ ไลน์อาหารที่จัดไว้อย่างสวยงาม เป็นระเบียบ เดินตักได้สะดวก พูดถึงเรื่องหน้าตา คือน่ารับประทานมาก ๆ วัตถุดิบดี ยิ่งโซนอาหารทะเลรู้สึกได้เลยว่าสด สะอาด ได้ลิ้มรสล็อบเตอร์ หอย และขาปูพร้อมไวน์ขาวสักแก้ว เท่านี้นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วครับ

016 Wong Chi Kei Restaurant

ถ้าอยากให้แนะนำร้านบะหมี่เกี๋ยวทีเด็ดของมาเก๊าต้องที่นี่เลย  “Wong Chi Kei Restaurant” ที่เสิร์ฟบะหมี่ไข่สไตล์กวางตุ้งมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1946 และมาเปิดสาขาในมาเก๊าในปี 1959 เรียกได้ว่าเป็นเจ้าเก่าอย่างแท้จริง บะหมี่ของเขาเด่นดังในเรื่องเส้นเล็กแต่เหนียวนุ่ม เฟิร์ม จะกินกับเกี๊ยวหรือเนื้อตุ๋นก็อร่อย ชามใหญ่ ให้เยอะ กินหมดนี่อิ่มไปถึงเย็นเลยทีเดียว

017 Stanley’s Café

คาเฟ่ในมาเก๊า ที่ดึงเราให้ย้อนเวลากลับไปในยุค 60s-70s ด้วยการตกแต่งร้านและการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ หรือโซฟาสีแดงตัวเด่นในร้าน ก็คุมคอนเซ็ปต์ความคลาสสิกของสไตล์วินเทจได้เป็นอย่างดี จะเดินผ่านมุมไหนก็สวย ถ่ายรูปปัง แค่บรรยากาศร้านก็กินขาดแล้ว เรื่องของรสชาติเองก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน

ร้านนี้สามารถเป็นที่พึ่งได้ทั้งในเรื่องอาหารเช้าและดินเนอร์ มีเมนูที่น่าสนใจหลายเมนูให้เลือกสั่ง ใครที่อยากเริ่มวันใหม่ด้วยมื้อเช้าแบบง่าย ๆ ใน สามารถสั่งขนมปังยัดไส้ที่อัดแน่นซะจนล้นขนมปังออกมา หรือสั่งทาร์ตมาสักชิ้นสองชิ้นก็ได้ หรือใครอยากผ่านมื้อเที่ยงไปแบบง่าย ๆ เร็ว ๆ ก็มีเมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีการปรุงสุดแปลกไม่เหมือนกับบ้านเราให้ได้ลองรับประทาน 

018 360 Café

มาต่อกันที่บุฟเฟต์นานาชาติ อาหารกลางวันที่จัดหนักจัดเต็มทั้งอาหารและวิว ที่ 360 องศา Café ชั้นที่ 60 ของมาเก๊าทาวเวอร์ เรียกได้ว่าพิเศษสุด ๆ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาที่นี่ ลิฟต์แก้วที่จะพาเราไปยังชั้นที่ 60 ในความเร็วสูงไม่เกิน 60 วินาที หลังจากมาถึงแล้ว เราจะได้สัมผัสความพรีเมี่ยมยิ่งกว่านั่นคือวิว 360 องศา ที่สามารถมองเห็นเมืองมาเก๊าได้รอบ ยิ่งมาตอนพระอาทิตย์ใกล้จะตก ยิ่งโรแมนติก เพราะจะได้เห็นทั้งวิวยามเย็น และวิวแสงไฟของตัวเมืองในยามค่ำคืนด้วย

ในส่วนของอาหาร ไลน์บุฟเฟต์ที่นี่ก็จัดเต็มเช่นกัน มีทั้งอาหารโปรตุเกส อินเดีย และอาหารทะเลแบบสด ๆ ไฮไลต์เด็ดของที่นี่คือการนั่งรับประทานอาหารไปด้วย และชมวิวเมืองไปด้วย เพราะทาวเวอร์ชั้นนี้จะค่อย ๆ หมุนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เราได้นั่งรับประทานอาหารไปพร้อม ๆ กับการชมวิว 360 องศาแบบจุใจ ถ้าถามถึงความคุ้มค่า ดูจากเมนูอาหารที่หลากหลายแล้ว วิวที่หาชมกันไม่ได้ง่าย ๆ ในมาเก๊า ก็ถือว่าควรค่ากับการมาลองสักครั้งครับ

CAFE

019  ร้าน ROOFTOP MACAU (Taipa)

มาส่งท้ายทริปมาเก๊าแบบชิล ๆ กันที่ร้าน ROOFTOP MACAU ร้านกาแฟเท่ ๆ ที่ตั้งอยู่บนรูฟท็อปในไทปา บรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเองของร้านนี้ ทำให้เราได้นั่งปล่อยตัวปล่อยใจ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ พร้อมกับชมวิวเมืองเพลิน ๆ เมืองนี้ตกแต่งให้มีสีสันสวยงามด้วยการวาดลวดลายเก๋ ๆ ลงบนผนัง ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็จะเห็นลวดลายสวย ๆ แทรกอยู่ตามทางเดินหรือมุมตึกต่าง ๆ

บรรยากาศภายในร้าน อบอุ่นเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ร้านที่ไม่ได้กว้างมาก แต่มีการตกแต่งสวยงามในโทนฟ้าขาว ที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ลูกค้าสามารถนั่งดื่มชั้นล่างโซนเคาน์เตอร์สั่งเมนูเครื่องดื่ม หรือจะเดินขึ้นมานั่งชมวิวที่รูฟท็อปชั้นบนได้ บรรยากาศด้านบนมีจัดวางต้นไม้ตามมุมต่าง ๆ เพื่อให้ดูร่มรื่นสบายตา สำหรับเมนูเครื่องดื่มของที่นี่ ก็มีให้บริการพร้อมทั้งชา กาแฟ เมนูโซดา และอื่น ๆ อีกมากมาย

020 Pace Coffee

ร้านคาเฟ่คูล ๆ ที่เราบังเอิญไปเจอ “Pace Coffee” ร้านกาแฟมาเก๊าสไตล์มินิมอลในตรอก Guanqian ที่เต็มไปด้วยอาคารเก่า เราเดาว่าร้านนี้ก็น่าจะเคยเป็นอาคารเก่ามาก่อน แต่เขาดีไซน์ใหม่ได้น่ารักมาก ๆ ตกแต่งด้วยสีขาว สลับกับกระจกไม้ แต่ก็ยังคงซ่อนกิมมิคเล็ก ๆ ไว้ในชื่อ “Pace Coffee” ที่จะสื่อถึงการก้าวเดินที่จะส่งความคลาสสิกในอดีตไปสู่ความโมเดิร์นของยุคปัจจุบัน ลองมองไปรอบ ๆ ตัวจะเจอมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก น่าจะถูกใจสาว ๆ ส่วนเมนูกาแฟก็มีให้เลือกพอประมาณ ถ้าใครยังไม่อิ่มก็เลือกขนมไปกินด้วยก็ได้นะ!

เราขอแอบกระซิบบอกว่า เมื่อเดินออกจากร้านมาแล้วเดินต่อไปทางขวา จะเจอกับร้านรองเท้าแบรนด์ยอดฮิตเยอะมาก ใครที่กำลังตามหารองเท้า จะใส่เองหรือเพื่อนฝากหิ้ว ก็มาซื้อหากันได้แถวนี้ ต้องได้ติดไม้ติดมือ กลับไปสักคู่แหละ

Hotel

021 Rock Hotel 

โรมแรมที่เราใช้พักในทริปมาเก๊าครั้งนี้ที่มาพร้อมการตกแต่งสไลต์หรูหราที่ราคาจับต้องได้แถมทำเลยังดีอีกเพราะอยู่ใกล้ ๆ กับมาเก๊า ฟิช เชอร์วาร์ฟ ที่ใครที่อยากพักผ่อนเราว่าที่นี่ตอบโจทย์นะ

ความดีงามคืออาหารเช้าเค้าสามารถเสิร์ฟให้เราได้ถึงห้องอีกด้วย นั่งจิบกาแฟชมวิวยามเช้าบนระเบียง เป็นโมเมนต์ที่เก๋มากเลยแหละ

Activity

022  Go Airborne 

กิจกรรมสุดท้ายเราเชื่อว่าทุกคนคงเคยเห็นกิจกรรมกระโดดร่ม Skydiving หรือกีฬา Extreme ที่เล่นกับแรงโน้มถ่วงของโลกกันมาบ้าง ความน่าตื่นเต้นของกิจกรรมเหล่านี้คือการวางเดิมพันเป็นชีวิตของเราเอง!!

การมาที่มาเก๊าครั้งนี้ผมได้รู้จักกับกิจกรรมที่เรียกว่า Go Airborne กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่จำลองการดิ่งพสุธาจากความสูง 12,000 จนถึงระดับ 3,000 ฟุต ด้วยการให้เราได้ทดลองกระโดดไปบนกระแสลม ที่ให้ฟีลเหมือนเตียงล่องหนรองรับเราอยู่ เราจะสัมผัสได้ถึงแรงดันของอากาศที่มีความเร็วลมสูงสุดที่ 180 ไมล์ต่อชั่วโมง ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังกระโดดลงจากเครื่องบิน

เป็นประสบการณ์ที่เหนือจินตนาการ เหมาะกับคนเริ่มต้นหัดทำกิจกรรมแบบ Extreme เรื่องความปลอดภัยที่นี่ก็ให้ความสำคัญมาก ๆ มีโค้ชคอยให้คำแนะนำก่อนเล่น ระหว่างเล่น พร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันครบชุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะสนุกกับกิจกรรม Go Airborne ได้อย่างเต็มที่

เป็นยังไงกันบ้างกับทริปมาเก๊าครั้งนี้ เป็นการเปิดหูเปิดตา เจอประสบการณ์แปลกใหม่มาก ๆ ทั้งเรื่องอาหาร จุดเช็กอินถ่ายรูปเท่ ๆ หรือกิจกรรมสุดว้าวน่าประทับใจ ใครจะไปคิดว่ามาเก๊า ที่เราได้ยินชื่อผ่านหูกันบ่อย ๆ พอได้มาสัมผัสเองจริง ๆ แล้ว รู้สึกว่าคุ้มค่ากับการมา เพราะมาเช็กอินที่เดียว แต่ไม่รู้สึกเบื่อเลย ด้วยมาเก๊ามีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย มีจุดชมวิวสวย ๆ มีงานอาร์ตให้เดินชม มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก แถมอาหารที่เราได้ลองก็เปิดโลกใหม่ ๆ และถ้าอยากให้ทริปนี้สบายมากขึ้นเราแนะนำให้จองแพ็คสุดคุ้มที่รวมทั้งการโหลดน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล จองที่นั่งล่วงหน้าดูวิวงามๆ เมนูอาหารจานร้อนบนเครื่องมีให้เลือกหลากหลายและประกันการคุ้มครองการเดินทาง เรียกได้ว่าขนพร็อพไปถ่ายรูปได้แบบจุใจกันทีเดียว

, ,

Leave a Reply

Your email address will not be published.