อัลบั้มนี้เราจะชวนทุกคนมาชม 5 ความสวยงามของฟูจิซัง ภูเขาไฟเก่าแก่อันศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น
ภูเขาไฟที่ได้ชื่อว่ามีความสูงที่สุดในบนแผ่นดินแดนปลาดิบพร้อมยอดเขาสีขาวที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะนานกว่าห้าเดือน คงเป็นภาพที่คุ้นชินกันมาไม่มากก็น้อย แต่ใครจะรู้มั้ยว่าที่นี่นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนทุกคนจากทั่วโลกต่างยอมเดินทานมาแสนไกลเพื่ออยากมาเห็นที่นี่ด้วยตาเปล่ากันสักครั้งแล้ว สถานที่นี้ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และโมเมนต์พิเศษต่าง ๆ ที่ใครมาเยือนที่นี่แล้วจะหลงรักแบบเราในครั้งนี้
Pannorama Ropeway
ภายในเมืองนี้อาจจะมีมุมที่สามารถเห็นวิวภูเขาฟูจิอยู่เต็มไปหมด แต่ใครจะรู้ว่าการได้มาขึ้น Ropeway บริเวณตรงป้ายรถบัสหลายเลข 9 ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วจุดนี้เป็นจุดที่เราแค่แอบอยากแวะดื่มกาแฟและชิมคุ้กกี้ที่ร้าน Fujiyama Cookies เท่านั้น แต่ระหว่างที่กระเช้ากำลังไต่ความสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ วิวด้านหน้าเป็นทะเลสาบคาวากุจิโกะและด้านหลังเป็นวิวฟูจิซังแบบพาโนรามาที่สามารถมองเห็นสุดลูกหูลูกตา นอกจากคุ้มค่าแก่การได้ขึ้นมาชม บางทีเราก็แอบสงสัยนะว่าบางทีการได้ออกนอกเส้นทางมันก็ไม่ได้แย่เสมอไป เฉกเช่นเส้นทางนี้ที่เราบังเอิญมาได้เจอกัน
Lake Kawaguchi
กดกริ่งรถบัสที่ป้ายหมายเลข 16 แล้วความรักจะรอคุณอยู่เบื้องหน้ากับทะเลสาบคาวากุจิโกะที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของผู้คนที่มาเยือนเมืองนี้ เอาจริง ๆ ความสุขของการมาเที่ยวที่นี่คือการได้เดินลัดเลาะริมทะเลสาบบริเวณนี้ไปเรื่อย ๆ เจอมุมไหนสวยก็แค่แวะยืนชมและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำแบบไม่ต้องรีบร้อน ได้เจอชาวบ้านและเหล่าเด็กน้อยที่ต่างพากันมานั่งปิกนิคในวันหยุดหรือตลาดนัดริมทะเลสาบที่มีขายอาหารมาตั้งซุ้มขายกัน ได้เห็นผู้คนที่ต่างพากันมีความสุขพร้อมกับสถานที่สวย ๆ ก็อดใจไม่ได้ที่อยากจะชวนให้ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านนี้ได้ลองสัมผัสโมเมนต์แบบนี้กันมั่ง
Kawaguchi Asama Shrine
Asama ชื่อที่ถูกเรียกกันจนคุ้นปากเพราะทั่วประเทศญี่ปุ่นมีมากกว่า 1,000 ศาลเจ้าที่ใช้ชื่อนี้ โดยความหมายก็เพื่ออุทิศและบูชาต่อภูเขาไฟอันศักศักดิ์ให้มีความสงบ จนที่นี่ก็ถูกสร้างเมื่อปี 865 เพื่อบรรเทาความโกรธและการปะทุของภูเขาไฟฟูจิที่เปรียบเหมือนสักญลักษณ์ในประเทศตอนนี้ ต่อมาเมื่อปี 2013 ที่นี่ก็ถูกกำหนดว่าให้เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาฟูจิมรดกโลก UNESCO
หลังจากอ่านประวัติมาก็ยิ่งอยากทำให้เรามาเยือนที่นี่มากยิ่งขึ้น แต่แอบบอกว่าอย่าหาเดินขึ้นมานะ มันเหนื่อยและทางชันโคตร ๆ ถ้าจะให้ดีการขับรถยนต์น่าจะตอบโจทย์สุดสำหรับโลเคชั่นนี้ที่สุด เมื่อเรามาถึงบริเวณศาลเจ้าจะพบกับต้นซีดาร์ญี่ปุ่นที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปีเรียงรายพร้อมกับวิวภูเขาไฟฟูจิที่มีเสาโทริอิตั้งอยู่โดดเดี่ยว ส่วนตัวว่าที่นี่เป็นจุดชมวิวแสงเย็นที่สวย
Hostel Fujisn FBH
โฮสเทลน่ารัก ๆ ที่มีคุณลุงคอยต้อนรับด้วยหน้าตาอันเป็นมิตร ส่วนราคาถ้าจำไม่ผิดอยู่ราว ๆ 1,000 บาท ห้องที่เราได้เป็นห้องนอนเดี่ยวสำหรับหนึ่งคน แต่ใช่ห้องน้ำด้วยกันบริเวณชั้น 2 โดยรวมแล้วทุกอย่างโอเคเลย ยิ่งวิวที่เรามองผ่านบานกระจกใส ยิง่ทำให้การพักผ่อนที่นี่ของเราคุ้มค่า
Kawaguchiko Station
มุมที่ใครหลายคนกดชัตเตอร์ครั้งแรกเมื่อมาถึงเมืองนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเราด้วยเช่นกัน ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยวเมืองนี้เลย ทั้งเส้นทางรถไฟที่มาจากทั่วสารทิศและยังเป็นศูนย์กลางของรถบัสหลายสายที่ใช้สัญจรอีก บริเวณระแวกนี้เราจะเจอกับร้านเช่าจักรยานและแพ็คเกจทัวร์ต่าง ๆ อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งมุมของภูเขาไฟฟูจิที่มีความหมายมาก ๆถ้าไม่มีที่นี่เมือง Kawaguchiko นี้คงไม่สมบูรณ์แบบเหมือนทุกวันนี้แน่นอน
