เดินทางทริปต่างประเทศง่าย ๆ กับ “กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย” 3 วัน 2 คืนได้แบบชิล ๆ กับงบหมื่นนิด ๆ ก็เที่ยวสนุก ไปกับคอนเซ็ปต์ KUL IS SURPRISING CITY เมืองท่องเที่ยวใกล้บ้าน ราคาสบายกระเป๋า แต่ได้รับประสบการณ์สุดเซอร์ไพรส์แบบที่ไม่คิดว่าจะได้เจอจากประเทศนี้
ทริปนี้ราจะชวนทุกคนตะลุยชิมอาหารร้าน MICHELIN เจ้าดัง เช็คอินคาเฟ่สุดเท่ เดินเล่นชมงานศิลปะ แวะสตรีทอาร์ต ถ่ายรูปตึกแลนด์มาร์คหลัก ๆ อย่างอาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด ตึกแฝดปิโตรนาส และสะพาน Pintasan Saloma สถาปัตยกรรมสุดล้ำ ปิดท้ายด้วยสวนสนุก GENTING SKYWORLDS สวนสนุกสุดน่ารักที่มีอากาศดีตลอดปี
เมืองนี้มีแต่ที่เที่ยวสวยงามและเรื่องราวน่าสนใจ จะถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาดูดี แถมไม่ต้องนั่งเครื่องนานๆ ให้เมื่อย ยิ่งมีสายการบินแอร์เอเชีย ที่สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ), เชียงใหม่, หาดใหญ่ และภูเก็ต มาพร้อมบริการพิเศษให้เลือกบินได้สบายกว่าเดิม กับที่นั่งแบบ Premium Flatbed* ไปถึงกัวลาลัมเปอร์ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พร้อมการันตีสายการบินที่ตรงเวลาที่สุด เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์คนมีเวลาเที่ยวจำกัดแบบเราที่สุด
ถ้าอยากรู้ว่าทริปนี้เราไปเช็กอินที่ไหนบ้าง ก็ตามมาดูกันได้เลย!
*เฉพาะเที่ยวบิน BKKKUL D7 171 & KULBKK D7 170
การเดินทางในรอบนี้เราเลือกไปกับสายการบิน AirAsia ที่มาพร้อมบริการพิเศษที่นั่งแพ็กเกจ Premium Flatbed ทำให้เอนหลังพักผ่อนได้แบบเต็มที่ ด้วยที่นั่งขนาดกว้างกว่า 20 นิ้ว แถมยังปรับเอนนอนราบได้ ไม่รู้สึกปวดหลัง แถมยังนอนสบาย เป็นการชาร์จแบตบนเครื่อง ทำให้เวลาออกไปเที่ยวตามแพลนที่วางไว้ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป ยิ่งใครขายาว ๆ ในโซนที่นั่งของเราก็จะมีพื้นที่สำหรับพักเท้าให้เราได้เหยียดขาสบาย ๆ
ราคาเริ่มต้น 6,990 บาท/เที่ยวบินเท่านั้น สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ : https://www.airasia.com
นอกจากที่นั่งกว้างสบายแล้วยังมีปลั๊กไฟให้ใช้แบบส่วนตัว มีหมอนนุ่มๆ พร้อมผ้าห่มให้เราได้ห่มแบบฟิน ๆ ส่วนเรื่องของสิทธิพิเศษต่าง ๆ ผมบอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆ ตั้งแต่อาหารและเครื่องดื่มที่สามารถสั่งล่วงหน้าได้แล้ว ยังมีน้ำหนักกระเป๋าที่ได้มาถึง 40 กิโลกรัม ขนของเต็มกระเป๋าได้แบบไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนักเกิน มีเคาน์เตอร์เช็คอินเป็นแบบ Fast Lane สะดวก รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวยาว ที่ประทับใจสุด ๆ คือการได้ขึ้นเครื่องและลงเครื่องก่อนใคร แถมยังได้รับกระเป๋าสัมภาระก่อน ตบท้ายด้วยประกันการเดินทางโดย Tune Protect อีกด้วย
การจองตั๋วที่นั่งแบบ Premium Flatbed ครั้งนี้ ทำให้การไปเที่ยวกัวลาลัมเปอร์ของเราสะดวกสบายมาก ๆ ถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไปกับสิ่งที่ได้รับกลับมา บอกได้คำเดียวว่าคุ้มสุด ๆ ใครไม่อยากจ่ายแพงเกินไป แต่อยากได้ที่นั่งคุณภาพแบบนี้ แนะนำให้ลองจองตั๋วแบบเราเลย รับรองไม่ผิดหวัง แถมยังได้พักผ่อนเก็บแรงเอาไว้เที่ยวได้แบบเต็มที่ รู้แบบนี้แล้วผมแนะนำว่าต้องมาลองสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งครับ แล้วจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง
Day 1
001 MORI KOHI
มาเริ่มทริปกันด้วยการหาอะไรรองท้องสักหน่อย กับร้าน MORI KOHI ตึกแถวสองชั้นสีขาวดูสบายตา บรรยากาศร้านดูสะอาดสะอ้าน ตกแต่งเรียบ ๆ ในสไตล์มินิมอล มีเคานท์เตอร์บาร์ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวตัดกันดีกับโทนของเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทางร้านใช้ส่วนใหญ่ เห็นแล้วรู้สึกสดชื่น เหมาะกับการเริ่มวันดี ๆ มานั่งรับประทานอาหารเช้าเพิ่มพลังงานแบบง่าย ๆ ก่อนตะลอนเที่ยวกัน
ร้านนี้เด็ดที่เมนูอาหาร เพราะเค้ามีให้เลือกเยอะมาก ๆ แถมราคาก็ไม่แพง แนะนำเมนูสลัดราเมงเย็นพร้อมไข่ออนเซ็นเหมาะกับมื้อเช้า ๆ ที่สุด ส่วนใครเป็นสายกาแฟแนะนำให้สั่งเครื่องดื่มร้อน ๆ ที่ทางบาริสต้าจะค่อย ๆ บรรเลงทำลวดลายต่าง ๆ ด้วยคุณภาพของเมล็ดกาแฟบอกเลยคุ้มค่ากับราคาแก้วละไม่ถึงร้อยมาก ส่วนครัวซองแป้งเค้าก็ดีอีกด้วย ใครมา KL เราแนะนำร้านนี้ปักหมุดลำดับแรก ๆ ไปเลย
002 SULTAN ABDUL SAMAD BUILDING
เติมพลังงานกันจนอิ่มก็ได้เวลามาเสพงานสถาปัตยกรรมสวย ๆ กันบ้าง กับอาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด แลนด์มาร์คยอดฮิตของนักท่องเที่ยว แน่นอนว่ามากัวลาลัมเปอร์ทั้งที ไม่มาแวะถ่ายรูปคู่กับอาคารแห่งนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Moorish ที่สร้างขึ้นมาในยุคการปกครองของอังกฤษ ทำให้ที่นี่สวยงามและดูเด่นเป็นเอกลักษณ์ประจำเมือง ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าเป็นอาคารที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ของมาเลเซียเลยก็ว่าได้
ด้วยอาคารถูกใช้งานราชการสำคัญ ๆ มาหลายยุคสมัย ทำให้ปัจจุบันสถาปัตยกรรมแห่งนี้ถูกรักษาให้ยังมีสภาพที่งดงามสมบูรณ์อยู่ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้มาชื่นชมความงดงามและได้ถ่ายรูปเช็กอินเป็นที่ระลึกด้วย
จุดเด่นของอาคารนี้อยู่ที่หอนาฬิกา และโดมขนาดใหญ่ด้านบนส่วนยอด จะถ่ายรูปออกมาเป็นมุมกว้างให้เห็นความยิ่งใหญ่อลังการ หรือจะถ่ายให้เห็นตรงบริเวณหอนาฬิกาก็ได้ ไม่ต้องไปถึงดินแดนตะวันตก ก็มีรูปเท่ ๆ ไว้อัปลงโซเชียลได้
003 RIVER OF LIFE
ไม่ไกลจากอาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด ยังมีพื้นที่สตรีทอาร์ตในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มีจุดเด่นตรงที่เป็นจุดเช็คอินวิวแม่น้ำ ที่ถูกปรับปรุงจากเดิมที่เป็นแค่คลองธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นแหล่งเที่ยวชมงานศิลปะ จนกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่ชื่อว่า River of Life บรรยากาศโดยรวมชิลมาก เหมาะกับการมาเดินเล่นพักผ่อน ปล่อยใจให้สบาย ๆ กับงานอาร์ตริมแม่น้ำ
ช่วงกลางวันจะเน้นเดินชมสตรีทอาร์ตภาพวาดบนผนังตึกสวย ๆ ส่วนช่วงกลางคืนบริเวณนี้จะย้อมไปด้วยสีฟ้าจากไฟที่เปิดโดยรอบ สะท้อนลงบนผิวน้ำมองดูแล้วสวยงามมาก มีน้ำพุที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันกับมัสยิดเก่าแก่ มีฉากหลังเป็นตึกสูงใหญ่เปิดไฟสวยงาม เป็นภาพที่ดูโรแมนติกและน่าตื่นตาตื่นใจในเวลาเดียวกัน
ใครกำลังมองหาที่เดินย่อยแบบชิล ๆ น่าจะชอบที่นี่ จะมาเดินเล่นกันตอนเย็น ๆ ก็ได้เพราะอากาศไม่ร้อนมาก พอฟ้ามืดแนะนำให้หาเครื่องดื่มเย็น ๆ มานั่งจิบชมบรรยากาศแสงไฟยามค่ำคืน ก็เปลี่ยนมู้ดไปอีกแบบ เป็นจุดเช็กอินที่ปิดท้ายทริปของวันได้ดีสุด ๆ
004 BOOKXCESS
จากตึกโรงหนังเก่าได้ถูกดัดแปลงมาเป็นอาคารที่รวบรวมร้านค้าต่าง ๆ และไฮไลต์คงหนีไม่พ้นร้านหนังสือสุดครีเอทที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตึก RexXL ที่ถูกแปรงโฉมให้เป็นจุดท่องเที่ยวถ่ายรูปอันโด่งดัน โดยที่นี่เค้าเป็นร้านที่ขายหนังสือจริง ๆ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปกับมุมสุดชิค ใครที่มามาเลเซียช่วงนี้คงต้องมีรูปกับที่นี่ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันนะ ที่สำคัญที่นี่เข้าถ่ายรูปได้ฟรี!
ภายในร้านหนังสือได้ออกแบบให้คล้ายกับเขาวงกตที่มีชั้นหนังสือและซอกซอยอยู่เต็มไปหมด เปิดตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน ใครไม่รู้จะเที่ยวที่ไหน เราแนะนำให้เตรียมกล้องพร้อมหาเรฟเก๋ ๆ มาเก็บบรรยากาศภายในร้านกันได้เลย
005 CHAINA TOWN
ถนนที่ครึกครื้นตั้งแต่เช้าจรดกลางคืน ที่นี่เป็นหนึ่งในถนนที่โด่งดังลำดับต้น ๆ ของที่เมืองนี้เพราะนอกจากขายของต่าง ๆ มากมายแล้ว ที่นี่ยังรวมร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ต่าง ๆ บนถนนที่ทอดยาวหลายกิโลไว้อีกด้วย ใครคิดไม่ออกว่ามื้อเย็นจะทานอะไร แนะนำให้นั่งรถมาลงแล้วเดินตั้งแต่ต้นซอยไปจนท้ายซอย รับรองว่าอยากจะแวะชิมทุกร้านแบบเราแน่นอน
และแล้วหวยก็มาออกที่ร้าน Han Kee Restaurant เป็นร้านอาหารสไตล์จีนที่รสชาติค่อนข้างถูกปากเรา โดยเฉพาะเมนู Roast Pork Chow Mein ที่เป็นบะหมี่หมูกรอบราดซอสหวาน ตัวหมูกรอบคือกรอบหวานอร่อยมาก ยิ่งตัวเส้นบะหมี่จะเป็นเส้นแบบสไตล์จีนเมื่อทานคู่กันมันอร่อยลงตัวสุด ๆ และแนะนำให้สั่ง Steam Tofu With Mince Meat เต้าหู้ราดซอสหมูมาลองอีกเมนูนึงด้วยนะ และไม่ต้องกลัวว่าราคาจะแพงเพราะแต่ละเมนูราคาอยู่ที่ 80 – 120 บาทไทยเอง
Day 2
006 KL Sentral
เช้านี้เรามีแพลนออกนอกเมืองไปเที่ยวที่ GENTING กัน ใครที่เลือกเดินทางด้วยรสบัสจากสถานี KL Sentral เราอยากให้เผื่อเวลาแล้วมาถ่ายรูปมุมบันไดเลื่อนสุดชิคกัน โดยมุมนี้เป็นอีกหนึ่งมุมที่ฮิตกันในหมู่คนมาเลเซีย ตัวอาคารจะออกแบบด้วยไม้สีเข้มที่ให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้ แต่ถ้าใครมาถ่ายช่วงกลางวันก็ต้องสู้กับผู้คนที่ใช้บริการกันเยอะตลอดวัน แนะนำให้มาช่วงเช้า ๆ หรือไม่ก็ดึกไปเลย
007 GENTING SKYWORLDS
เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง ชิลมาหลายที่แล้ว ลองมารับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สวนสนุกบนยอดเขาอย่าง Genting Skyworlds สวนสนุกที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์มากนัก โดยการเดินทางจะมีรถบัสหลายสายให้เลือกมาลงที่ Awana Bua Terminal แล้วซื้อกระเช้าขึ้นมายังด้านนี้ โดยที่นี่มีไฮไลต์ตรงที่เป็นสวนสนุก ห้างและที่พักตั้งอยู่บนยอดสูงสุด ใครโชคดีอยากจะได้เจออากาศเย็น ๆ ที่มาพร้อมไอมหมอกแบบเราก็ได้นะ
ราคารถบัสไปกลับคนละ 160 บาท สำรองที่นั่งรถบัตรได้ที่ : https://www.busonlineticket.com
ราคากระเช้าไปกลับคนละ 150 บาท สามารถซื้อได้ที่ Awana Bua Terminal ได้เลย
GENTING SKYWORLDS เป็นสวนสนุกที่ทำออกมาได้น่ารักมากตั๋วเข้าเราแนะนำให้จองออนไลน์มาก่อนเลยเพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าซื้อหน้างานแล้ว
( ราคาออนไลน์คนละ 1,140 ซื้อที่สวนสนุกคนละ 189 ริงกิตหรือเกือบ 1500 บาทเลย ) แถมยังสามารถสแกนเข้าแบบไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวอีกด้วย
ที่นี่นอกจากจะได้เล่นเครื่องเล่นให้จุใจกว่า 20 กว่าเครื่องเล่นแล้ว ยังได้ชมวิวบรรยากาศจากมุมสูงได้อีกด้วย ภายในสวนสนุกถูกออกแบบให้ตรงกับธีมหนังชื่อดังมากมายถึง 9 เรื่องด้วยกัน เหมาะกับเหล่าแฟนคลับที่ชื่นชอบหนังได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศสุดฟินแบบใกล้ชิด เหมือนหลุดเข้าไปอีกมิติที่สนุกสนานจนแทบไม่อยากออกมา
และหนังในธีมที่เป็นการ์ตูนขวัญใจเราตอนเด็กก็คือโซน ICE AGE ที่มีมุมถ่ายรูปกับน้อง ๆ แบบน่ารักเยอะมาก จะเดินไปทางไหนก็น่าเล่น น่าถ่ายรูปไปซะหมด เอาดี ๆ ใครมีเวลาเต็มวัน เราแนะนำให้มานอนบนนี้เลยเพราะจะได้มีเวลาเต็มที่กับที่นี่แถมอากาศด้านบนก็เย็นสบาย
สวนสนุกแห่งนี้เหมาะกับการมาเที่ยวเป็นครอบครัว เพราะมีเครื่องเล่นมากมายที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ รับรองว่าเดินเล่นกันจนเหนื่อยแบบไม่รู้สึกเบื่อ มีจุดเช็คอินถ่ายรูปเยอะมาก
มาเที่ยวที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าฝนตกแล้วจะไม่ได้เล่น เพราะภายในสวนสนุกได้มีการแบ่งโซนเครื่องเล่นไว้ชัดเจน มีทั้งเครื่องเล่นกลางแจ้งและเครื่องเล่นในร่ม เรียกได้ว่าเล่นได้เรื่อย ๆ แบบไม่พักถ้าแรงเหลือ ส่วนใครเป็นสายชิลและมีเวลาไม่เยอะแบบเราก็แค่ขึ้นขึ้นมาชมวิวดูบรรยากาศธรรมชาติพร้อมมองวิวจากกระเช้าที่ได้ทั้งภูเขาและสวนสนุกจากด้านบน แค่นี้ก็คุ้มและได้ภาพวิวปัง ๆ กลับบ้านอีกด้วย
008 WONG MEI KEE
ถ้าจะให้พูดถึงร้านอาหารที่โด่งดัง มีคนมาต่อแถวกันตั้งแต่ร้านเปิดประตู คงหนีไม่พ้น WONG MEI KEE ที่มีเมนูหมูกรอบและไก่ย่างที่การันตีรางวัล MICHELIN Guide 2023 ใครที่เป็นสายกินคงต้องมีร้านนี้อยู่ในลิสต์การมาเที่ยวเมืองนี้เลยนะ
ทางร้านจะมีเมนูแค่ 2 ตัวคือหมูกรอบที่เนื้อนุ่ม หนังคือกรอบมาก เสิร์ฟมาแบบพอดีคำและไก่ย่างที่ราดซอสฉ่ำ ๆ มา แนะนำให้สั่งพร้อมข้าวเปล่าพร้อมจิ้มซอสพริกสูตรเด็ด ถึงร้านจะได้รางวัล MICHELIN Guide 2023 มาแต่ราคาหมดนี่ไม่ถึง 300 บาทนะ บอกเลยว่าใครไม่มาร้านนี้คือพลาดมาก แนะนำให้เผื่อเวลามาเยอะ ๆ เพราะทางร้านเปิดตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสามโมงเท่านั้น !
009 Spillstone Coffee
เติมพลังมื้อเที่ยงกันเสร็จก็มาต่อกันที่คาเฟ่สุดเก๋ที่อยู่ไม่ไกลกัน โดยที่นี่ตกแต่งบรรยากาศร้านได้เท่มาก โทนสีที่ใช้เป็นสีขาว ให้ฟีลเรียบง่าย แต่มีกิมมิคคือหลังคาที่เป็นแผ่นกระจกใส มองทะลุออกไปด้านนอก มองเห็นท้องฟ้าสีสดใสได้ ทำให้ลูกค้าที่มานั่งจิบเครื่องดื่มรู้สึกผ่อนคลาย ได้รับแสงธรรมชาติ แถมยังได้พักสายตา เงยหน้ามองบรรยากาศรอบ ๆ อีกด้วย
และความเก๋ของร้านยังไม่หมดแค่นี้ เพราะเค้ายังมีมุมถ่ายรูปเช็กอินสวย ๆ อีกหลายมุมให้ทุกคนได้ไปยืนถ่ายรูปโพสต์ท่าเท่ ๆ ด้วย อย่างอุโมงค์ทางเข้า ที่เดินเชื่อมไปยังบริเวณโต๊ะนั่งเรือนกระจก และบันไดวนสุดอาร์ต ที่ออกแบบมาไว้ให้คนมาถ่ายรูปบันไดสีขาวตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีลูกค้าเข้าออกร้านกันไม่ขาดสาย
ส่วนเรื่องของกาแฟ ร้านนี้ใส่ใจและพิถีพิถันเป็นพิเศษ คัดเมล็ดกาแฟพันธุ์ดี มาไว้ตอบโจทย์ลูกค้าคอกาแฟโดยเฉพาะ มีเมนูกาแฟให้เลือกหลากหลายแบบ นอกจากนี้ยังมีเมนูเบเกอรี่ และอาหารสำหรับมื้อหลักอย่างข้าว และเครื่องดื่ม Non-Coffee ไว้บริการอีกด้วย เป็นอีกคาเฟ่ที่อยากแนะนำทุกคนถ้ามีโอกาสมาเที่ยวที่กัวลาลัมเปอร์เลย
010 PINTASAN SALOMA
เชื่อแล้วว่าเมืองกัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองที่เหมาะกับคนรักการถ่ายภาพอย่างเราจริง ๆ เพราะแต่ละจุดเช็คอินที่ไปมามีแต่จุดที่ถ่ายรูปสวย ๆ ถ่ายออกมาแล้วดูมีเรื่องราวและเห็นความสวยงามของสถาปัตยกรรมอย่างชัดเจน เช่นเดียวกันกับที่ PINTASAN SALOMA สะพานชื่อดังยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เพราะรูปทรงสุดแปลก ดูโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล การดีไซน์สุดล้ำอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้สะพานธรรมดา ๆ ที่ใช้สำหรับให้คนเดินข้ามและปั่นจักรยานผ่านไปผ่านมา กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมากัวลาลัมเปอร์ก็ต้องแวะมาเดินเล่นถ่ายรูปด้วย
สะพานแห่งนี้มีไว้เชื่อมระหว่างสองฟากฝั่งของแม่น้ำ พาดผ่านถนนลอยฟ้า มีการออกแบบไว้อย่างสวยงาม ได้แรงบันดาลใจมาจาก Sirih Junjung ซึ่งเป็นช่อดอกไม้มงคล ที่เอาไว้ใช้ในพิธีแต่งงาน ถ้ามองดูดี ๆ จะเห็นว่ารูปร่างคล้ายกับใบพลูที่พับซ้อน ๆ กัน
011 KLCC PARK
ช่วงเย็นขอแนะนำให้เดินมาพักกาย พักใจกันที่สวนสาธารณะที่มีวิวตึกแฝด PETRONAS TWIN TOWERS ตั้งอยู่เป็นพื้นหลังกัน โดยที่นี่เปิดให้ทุกคนได้มานั่งเล่น ออกกำลังกายกัน ภายในสวนนี้มีหลากหลายโซนให้เราได้เดินชมความน่ารักของผู้คนมาเลเซียที่บ้างก็พาเด็กน้องมาเล่นสวนน้ำ บ้างก็ชวนคนรักมานั่งปิกนิกกัน เป็นโมเมนต์ที่น่ารัก ๆ ที่อยากให้ทุกคนได้มาเห็นที่นี่ด้วยตากันสักครั้ง
012 PETRONAS TWIN TOWERS
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คประจำมาเลเซีย ที่หากไม่แวะก็เหมือนมาไม่ถึง นั่นก็คือตึกแฝดปิโตรนาส หรือ PETRONAS TWIN TOWERS ตึกสูงที่อยู่คู่กันโดยมีสะพานเชื่อมตรงกลาง ที่สามารถขึ้นไปเดินเล่นชมวิวมุมสูงเมืองกัวลาลัมเปอร์ได้ เป็นอีกจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งนึงเคยมาเยือนกัวลาลัมเปอร์
หลังจากชมบรรยากาศพร้อมถ่ายรูปคู่กับตึก PETRONAS TWIN TOWERS รอบ ๆ ในมุมกว้าง เราจะได้สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสวยงาม ตกแต่งผสมผสานระหว่างสไตล์ตะวันตกและเอเชีย รวม ๆ แล้ว ช่วงมืด ๆ บริเวณ KLCC PARK เค้าจะมีโชว์น้ำพุเต้นระบำที่เราได้นั่งเพลิดเพลินกับแสงสีที่อลังการอีกด้วย
ถ้าใครมีเวลาแนะนำให้เดินข้ามมายังสะพาน PINTASAN SALOMAแห่งนี้อีกรอบเพราะที่นี่ไม่ได้ดูสวยงามแค่เฉพาะตอนกลางวันเท่านั้น ตอนกลางคืนเองก็ได้มีการเปิดไฟที่ติดตั้งเอาไว้ให้สลับเปลี่ยนสีและลวดลายได้ตลอดคืน เรียกได้ว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่นอกจากจะใช้ประโยชน์ให้กับผู้คนในเมืองได้แล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้คนจากทั่วโลกแวะมาเช็คอินถ่ายรูป เดินชมความงดงามของสถาปัตยกรรมได้อีกด้วย
013 NAM HEONG CHICKEN RICE
ร้านข้าวมันไก่ไหหลำที่การันตีรางวัล MICHELIN Guide 2023 อีกร้าน ไฮไลต์คือตัวเนื้อไก่ที่นุ่ม ฉ่ำโดยร้านนี้เค้าจะขายแบบเป็นชุด ชุดละประมาณ 80 บาท เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงและน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม มีทั้งเมนูไก่ย่างและไก่ต้มให้เราได้เลือกลองกัน ใครมาเที่ยวกัวลาลัมเปอร์อยากให้ลิ้มเมนูนี้ดูกัน รับรองทุกคนต้องติดใจแบบเรา
Day 3
014 BATU CAVES
วันสุดท้ายแล้วสถานที่ถ่ายรูปสวย ๆ ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีบันไดสายรุ้งถ้ำบาตู สถานที่สำคัญทางศาสนาของชาวมาเลเซีย ใครจะไปรู้ว่าสีสันมากมายนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเปรียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือเป็นเหมือนวัดบ้านเรา ที่ภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้กราบไหว้สักการะขอพร
บันไดที่เราเห็นค่อนข้างสูงชัน มีจำนวนขั้นมากถึง 272 ขั้น ด้วยสีสันที่หลากหลายทำให้ศาสนสถานแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งไม่แพ้ที่อื่น ๆ ด้วยความสูงชันของบันไดทำให้เรามองเห็นความแตกต่างระหว่างสีสันในแต่ละขั้นได้ชัดเจน รวมถึงพระขันธกุมารองค์ใหญ่ ที่น่าจะสูงที่สุดเลยก็ว่าได้ และด้วยความเชื่อของศาสนาฮินดูว่า ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งใกล้กับสวรรค์มากเท่านั้น ทำให้บันไดแห่งนี้มีจำนวนขั้นเป็นหลักร้อย
ใครที่แวะมาถ่ายรูป แนะนำว่าให้ถ่ายจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน จะได้เห็นความงดงามของสีสันบนขั้นบันไดอย่างชัดเจน แถมยังได้เห็นบรรยากาศโดยรอบที่เป็นถ้ำมีต้นไม้สีเขียวแทรกอยู่ตามหินผา ให้รู้สึกได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ หรือจะเดินขึ้นบันไดไปสักหน่อยเลือกสีที่ชอบ แล้วยืนโพสต์ท่าสวย ๆ คู่กับขั้นบันไดก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
015 Lai Fong Lala Noodles
วันสุดท้ายแล้วก็ขอปิดท้ายเมนูที่อยู่คู่บ้านคู่กับมานานนับ 10 ปีกับร้าน Lai Fong Lala Noodles ที่มีโคมไฟสีแดงประดับประดาบนเพดานบนถนน China Town กัน บอกเลยถ้าไม่ดีจริงคนไม่เยอะและไม่ได้รางวัล MICHELIN Guide 2023 แน่ ๆ
Lala ที่หมายถึง “หอย” ในภาษามาเลย์ ที่นี่เมนู Lala Bihun จึงเป็นไฮไลต์ที่ใครผ่านมาต้องแวะลิ้มลองกัน โดยเมนูนี้เค้าจะมาพร้อมเส้นหมี่ขาวและน้ำซุปที่มีกลิ่นหอมไวน์จีนผสมกับขิงบาง ๆ ที่ทำให้ตัวน้ำซุปหอมและมีรสชาติที่อร่อยอย่างลงตัว ส่วนอีกเมนูที่ใครชอบทานกุ้ง แนะนำ Prawn Bihun ที่จะเสิร์ฟกุ้งตัวโต ๆ มาแบบไม่กั๊กคุ้มค่ากับราคาชามละ 150 บาทมาก
015 NATIONAL ART GALLERY
ปิดท้ายทริปสุดประทับใจ ด้วยงานศิลปะเอาใจสายอาร์ตสักหน่อย กับ National Art Gallery หอศิลป์แห่งชาติในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ( เช้าชมฟรี ) ถ้าให้อธิบายบรรยากาศ ก็ให้ฟีลหอศิลป์บ้านเรานิด ๆ แต่มีความแตกต่างตรงผลงานศิลปะที่จัดแสดง งานศิลปะในนี้มีให้เราได้เดินชมเยอะมาก ๆ แต่ละผลงานก็มีความสวยงามต่างกันออกไป บางภาพสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวมาเลเซีย บางภาพก็สื่อความหมายให้เราได้คิดตาม
แต่โดยรวมคือดีมาก ๆ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ ได้มานั่งนิ่ง ๆ มองภาพศิลปะไปเรื่อย ๆ เหมือนกับได้มาพักผ่อนไปในตัว เพราะแต่ละโซนก็จะมีม้านั่งให้เราได้ดื่มด่ำกับงานศิลป์อย่างเต็มที่ บอกตรง ๆ เลยว่าสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันเลย เพราะอาร์ตแกลลอรี่แห่งนี้มีการนิทรรศการผลงานปัง ๆ ไว้หลากหลายรูปแบบ ใครที่อยากหาแรงบันดาลใจก่อนเดินทางกลับบ้าน แนะนำให้แวะมาเลย
จบกันแล้วกับทริปกัวลาลัมเปอร์ เป็นเมืองที่มาแล้วอยากจะอยู่ต่อนาน ๆ เพราะที่เที่ยวเยอะมาก ใครที่วางแผนอยากไปเที่ยวต่างประเทศสักที่ด้วยเวลา 3 วัน 2 คืนและงบหมื่นต้น ๆ ที่รวมทั้งตั๋วเครื่องบิน ค่าเดินทาง ค่าโรงแรมและอาหารการกินแบบจัดเต็ม ลองมาเที่ยวที่นี่กันดูนะ ยิ่งมีสายการบินแอร์เอเชียที่มีเส้นทางให้เราสามารถบินตรงได้แบบนี้ ยิ่งสะดวก แล้วก็ประหยัดมาก ๆ ไม่ต้องวางแผนเดินทางหลายต่อให้เหนื่อย เตรียมจองตั๋วแล้วเดินทางกันได้เลย รับรองได้รูปสวย ๆ กลับมาเพียบแบบเราแน่นอน!