INE : A Small Fishing Village in Kyoto

INE : A Small Fishing Village in Kyoto

อิเนะ “ หมู่บ้านชาวประมงสุดโรแมนติกที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างภูเขาและทะเลอันแสนจะเงียบสงบ

อาคารไม้โบราณฟุนายะที่มีอู่เก็บเรืออยู่ด้านล่างเรียงรายนับร้อยหลังคาเรือนโค้งเป็นตัวยูถูกโอบล้อมด้วยอ่าวอิเนะ ตอนเหนือของเกียวโต อาจจะเป็นภาพที่คุ้นชินตาสำหรับใครหลายคน แต่ใครจะรู้มั้ยว่าเสน่ห์ของดินแดนแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ภาพบ้านเรือนสวย ๆ เท่านั้น การได้มาเดินชมวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่น ทานข้าวหน้าปลาสด ๆ พร้อมกับล่องเรือเสพบรรยากาศ รับลมทะเล ปล่อยใจนั่งดูแสงระยิบระยับสะท้อนบนพื้นน้ำ ทั้งหมดที่พูดมามันคือนิยามความน่ารักของหมู่บ้านนี้ในฉบับเรา

นอกจากความสวยงามของที่นี่แล้ว ทริปนี้เรายังเลือกใช้กระเป๋าเดินทาง Unimax ที่มีดีไซน์หรู สุดคลาสิคที่ไม่ว่าจะลากไปไหนมาไหนก็ไม่หลุดธีม นอกจากนั้นยังมาพร้อมความคล่องตัวจากเทคโนโลยีรอบด้าน ไม่ว่าจะย้ายกี่เมืองก็สะดวกสบาย ตอบโจทย์ทริปนี้ของเราที่สุด

บอกเลยว่าทริปนี้การย้ายสัมภาระของเราจะไม่มีปัญหาอีกต่อไปเพราะรอบนี้เรามีกระเป๋าคู่ใจใบโปรด Unimax ขนาด 28 นิ้ว ที่มาพร้อม ความคล่องตัวจากเทคโนโลยีรอบด้าน สามารถใส่เสื้อผ้าจัดพร๊อบกันได้แบบจัดเต็มแถมเค้ายังมีระบบกันสะเทือนแบบดูดซับแรงกระแทก ช่วยให้ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน เสริมด้วยระบบเบรคล้อหน้า เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขนย้าย จะเปลี่ยนที่พักสักกี่ครั้งก็สะดวก ใครมาเที่ยวต่างประเทศและต้องเปลี่ยนเมืองบ่อย ๆ แบบญี่ปุ่น ตัวนี้คือตอบโจทย์การใช้งานมาก ๆ

ด้วยความที่เค้าใส่ใจและให้ความสำคัญกับการปกป้องสัมภาระด้านใน ตัวกระเป๋ามีการเก็บรายละเอียดสร้างแผ่นป้องกันกระแทกหลายจุดแม้จะเป็นตรงมุมกระเป๋าก็มี ส่วนตัวด้านหน้าที่สามารถล็อคได้ พร้อมเติมดีไซน์ลูกเล่นด้วยโลโก้เรียบหรู ดูแล้วเป็นกระเป๋าที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ๆ และแข็งแรงทนทานมาก

ถึงจะออกแบบมาดูเรียบง่ายแต่ก็ยังให้ความรู้สึกคลาสสิก การันตีได้จากรางวัล “BEST OF THE BEST ด้านการออกแบบที่โดดเด่นที่สุดระดับนานาชาติจาก RED DOT DESIGN AWARD 2022” จะลากกระเป๋าไปเช็กอินที่ไหนก็ดูดี ตอบโจทย์นักเดินทางไลฟ์สไตล์สุดชิคอย่างเราจริง ๆ

สามารถดูสินค้าได้ที่ : https://www.samsonite.co.th/th/samsonite/unimax/spinner-55/20-fp/ss-147415-2848.html

กระเป๋าพร้อมเตรียมตัวจัดเสื้อผ้าดี ๆ แล้วมาตะลุยเที่ยวกัน! หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต โดยที่นี่ใครที่อยากมาเสพบรรยากาศแบบจัดเต็ม แนะนำให้จองที่พักล่วงหน้าไว้ได้เลยเพราะทางหมู่บ้านมีห้องพักค่อนข้างน้อย แต่ถ้าใครอยากมาเช้าเย็นกลับแบบเรา สามารถนั่งรถไฟมานอนที่เมือง Miyamuru แล้วนั่งรถเมล์มาเที่ยวอิเนะช่วงเช้าได้เช่นกัน แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วอยากแนะนำให้พักกันสัก 1 คืน ยิ่งวันไหนอากาศดี ๆ ช่วงเช้าของที่นี่จะฮีลใจพวกเราได้ดีขนาดไหนกัน แค่คิดก็รู้สึกดีแล้ว

เสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้ คือความเงียบสงบ ใกล้ชิดกับบรรยากาศธรรมชาติที่ถูกโอบล้อมด้วยป่าเขาและทะเลอิเนะ ชาวเมืองที่นี่ยังคงอนุรักษ์อาชีพประมงดั้งเดิมเอาไว้อยู่ ทำให้เราสามารถเข้าเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชนชาวประมงได้ ผ่านผู้คน วัฒนธรรมด้านอาหาร และสถาปัตยกรรม “ฟุนายะ”ที่เป็นชื่อบ้านไม้ริมน้ำที่มีอู่เก็บเรืออยู่ด้านล่างเรียงตัวยาวกว่า 230 หลังเลยนะ

ไฮไลต์ของเมืองนี้ คือการปั่นจักรยานชมเมืองที่มีบริการฟรีบริเวณศูนย์นักท่องเที่ยวใกล้ ๆ ป้ายรถเมล์และด้วยเป็นเมืองเล็ก ๆ ในชนบท ถนนหนทางก็ทำให้เราเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ไม่วุ่นวาย รวมถึงที่นี่เค้ายังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและวิถีชีวิตแบบเดิมเอาไว้ ทำให้ผู้คนภายในนี้ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย นักท่องเที่ยวที่มาก็แวะเช็กอินกันด้วยความสงบ เน้นปั่นจักรยานดื่มด่ำ เสพบรรยากาศของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

แวะเสพบรรยากาศภายในเมืองและชมเรือที่ชาวประมงใช้ออกหาปลากันจริง ๆ กันเล็กน้อย พอเริ่มหมดแรง พวกเราก็แวะนั่งชิลล์ที่ร้านกาแฟยอดฮิตประจำเมือง อย่างร้าน Ine Cafe มานั่งพักเหนื่อยจิบกาแฟชมวิวทะเลที่สวยงามและเงียบสงบเป็นฟีลที่ดีสุดของวันนี้เลยก็ว่าได้

ที่แม้ตัวคาเฟ่จะถูกดัดแปลงขึ้นมาใหม่บริเวณด้านใน ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ใหม่ที่ทำจากไม้ในอิเนะ แต่ตัวอาคารด้านนอกยังดีไซน์ให้มีความกลมกลืนกับบ้านเรือนของที่นี่ได้ดี โดยเฉพาะชั้น 2 ของร้าน ที่ตกแต่งเป็นกระจกบานใหญ่ เหมาะกับการมานั่งชมวิวอ่าวอิเนะมุมกว้างพร้อมกาแฟดี ๆ ที่สุด

ชิลล์ ๆ กันที่ร้านกาแฟกันแล้วก็ถึงเวลาแวะลิ้มอาหารทะเลสด ๆ กันที่ร้าน Unagimaru ที่การันตีเลยว่าของสดใหม่แน่นอน เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้าน ชาวประมงที่แวะเวียนกันมาแบบไม่ขาดสาย ตัวเมนูที่นี่จะมีทั้งอาหารชุดนาเบะและข้าวหน้าปลาต่าง ๆ โดยเฉพาะปลาบุริที่นำมาจากอ่าวอิเนะที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งประมงใหญ่ 1ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น บอกเลยว่าสดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

หากยังชมวิวกันไม่จุใจพอ ก็สามารถมาล่องเรือชมวิวหมู่บ้านจากกลางทะเล ได้ยืนรับลมเสพบรรยากาศธรรมชาติ โดยบนเรือนี้เราจะได้เห็นภาพบ้านเรือนสไตล์ฟุนายะเก่าแก่สองชั้น ที่ออกแบบด้านล่างให้เป็นโรงจอดเรือ ตั้งเรียงรายสวยงาม มีฉากหน้าเป็นทะเลสีฟ้าคราม และมีฉากหลังภูเขาใบไม้หลากหลายสีสัน รวม ๆ แล้วเป็นภาพความประทับใจที่ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งจริง ๆ

เรือจะขับวนรอบอ่าวหนึ่งรอบใช้เวลาราว ๆ 30 นาที โดยขณะที่เรือแล่นอยู่นั้นกัปตันก็จะคอยชี้และบอกเล่าประวัติของบ้านเก่าแก่แต่ละหลังให้เราฟัง เป็นการล่องเรือ 30 นาทีที่มีความสุขจนอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนั้นนาน ๆ เลย

วิธีขึ้นเรือไปยังกลางทะเลก็ไม่ยากเพราะจุดขึ้นเรือจะมีบริการเรือพาเที่ยวเป็นรอบ ๆ ตลอดเกือบทั้งวัน กิมมิคน่ารัก ๆ นอกจากการชมวิวแล้วก็มีฝูงนกนางนวลที่รอเล็งกินขนมฮานามิของเราอยู่ โดยก่อนขึ้นเรือพนักงานจะแจกขนมถุงเล็ก ๆ ให้เราคนละห่อ อยากบอกว่านกที่นี่เล็งขนมแม่นเว่อ ไม่ว่าจะเราโยนองศาแบบไหน สูงต้ำยังไงนางก็สามารถบินมางับได้ทันทุกที เป็นความมหัศจรรย์ที่เราก็ยังงงเลย 

ใครที่กำลังมองหาทริปฮีลใจ เราว่า “อิเนะ” หมู่บ้านชาวประมงสุดคลาสสิคนี้ จะทำให้เรามีความทรงจำดี ๆ กลับไปแน่นอน 🙂

,

Leave a Reply

Your email address will not be published.