Best Place to Visit : SHANGHAI

Best Place to Visit : SHANGHAI

ชวนไปเช็กอินเมืองสุดชิคฟีลยุโรปที่ “เซี่ยงไฮ้” แบบฉบับ 6 วัน 5 คืนกับ 24 โลเคชั่นถ่ายรูปแบบฉ่ำ ๆ กินแบบฟิน ๆ  พร้อมเสพบรรยากาศวิวเมืองที่มีสถาปัตยกรรมสวย ๆ เที่ยวได้ครบทุกกิจกรรม เดินทางก็ง่าย ตั๋วราคาไม่แพง แถมฟรีวีซ่า ใครกำลังมองหาที่เที่ยวต่างประเทศ แนะนำเซี่ยงไฮ้เลย

ทริปนี้ เลือกมาเฉพาะแลนด์มาร์คปัง ๆ แจกพิกัดร้านอาหาร คาเฟ่สุดเก๋ ได้เช็กอินสวนสนุกดิสนีย์แลนด์สุดคิ้วท์ พร้อมอาคารทรงยุโรปสุดหรู ให้ทุกคนได้ไปถ่ายรูปเท่ ๆ แบบไม่ต้องไปไกลถึงยุโรป พร้อมกับเดินทอดน่องตะลุยกินอาหารท้องถิ่นชื่อดัง เดินดูวัฒนธรรมและผู้คน ซึมซับบรรยากาศ แล้วเก็บภาพสวย ๆ กลับมาอวดลงโซเชียลแบบรัว ๆ กัน

ใครมีแพลนอยากเปิดซิงจีนครั้งแรก แต่ไม่รู้ไปเมืองไหน ขอยกมือโหวตเซี่ยงไฮ้แบบสุดใจ จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย!

Flight Bangkok to Shanghai

ไปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ เราเลือกบินกับ AirAsia สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก 14 ปีซ้อน ที่เค้ามีเส้นทางบินตรงจากทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมืองสู่ท่าอากาศยานนานาชาติซ่างไห่ผู่ตงทุกวัน ใช้เวลาบินแค่ 4.30 ชั่วโมงแบบตรงเวลาเป๊ะ นอกจากนั้นแอร์เอเชียเค้ายังมีบินตรงสู่จีนมากที่สุด 12 ปลายทางอีกด้วย ใครสะดวกที่ไหนกดจองได้เลยยย

ตารางบินจากสนามบินดอนเมือง (เริ่มให้บริการตั้งแต่ 1 ก.ค. 2024) 

ขาไป FD 470 21:25 (DMK) – 02:45 (PVG) และขากลับ FD 471  03:45 (PVG) – 07:20 (DMK)

ตารางบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ 

ขาไป XJ 760  00:10 (BKK) – 05:30 (PVG) และขากลับ XJ 761  06:50 (PVG) – 10:15 (BKK)

ใครเป็นสายประหยัด แนะนำให้ซื้อแพ็คเก็จ Premium Flex ไปด้วยเลย คุ้มค่าสุด ๆ เพราะได้ทั้งน้ำหนักกระเป๋า 20 กก. จะขนพร็อบไปถ่ายรูป หรือจะเอาของฝากจากเซี่ยงไฮ้กลับมาฝากเพื่อน ๆ กับครอบครัวเท่าไหร่ก็ไหว รวมทั้งอาหารเสิร์ฟร้อน ๆ บนเครื่อง บริการสุดประทับใจ แถมสามารถเปลี่ยนวันเวลาเดินทางได้ พร้อมกับเลือกที่นั่งที่ถูกใจ เป็นแพ็คเก็จที่เหมาะกับสายเที่ยวอย่างเรามาก ๆ
เส้นทางการจอง : airasia.com และแอป AirAsia MOVE

การเดินทางในเซี่ยงไฮ้ 

1.รถไฟใต้ดิน

อันนี้สะดวก และราคาถูกมาก ราคาเริ่มต้นเที่ยวละ 3 หยวนเท่านั้น สามารถซื้อได้ที่เครื่องอัตโนมัติในสถานีได้เลย หรือใครแพลนเดินทางเยอะก็สามารถซื้อตั๋วเป็น Pass ได้เช่นกัน 

วิธีดูการเดินทางก็ง่าย ๆ ให้โหลดแอปฯ Baidu Map เพื่อดูสถานีที่เราจะลง และ Shanghai Metro เพื่อดูว่าเราต้องไปสายสีไร และต่อสายไหนบ้าง

2.รถแท็กซี่ 

สามารถเรียก DiDi ในแอปฯ Alipay ตัดผ่านบัตรได้เลย สะดวกสบาย ยิ่งไปกันหลาย ๆ คนคือหารแล้วถูกมาก

ข้อควรรู้ก่อนมาเซี่ยงไฮ้ 2024

1.เวลาเซี่ยงไฮ้เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

2.สังคมแบบไร้เงินสด แอปฯ Alipay สำคัญมาก เพราะใช้จ่ายแทบทุกอย่างตั้งแต่การเดินทาง ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สามารถผูกกับบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตจากไทยได้เลย

3.การเดินทางที่เซี่ยงไฮ้ส่วนมากใช้รถไฟใต้ดิน แนะนำแอปฯ Shanghai Metro ใช้ควบคู่กับ Baidu Map ( เหมือนกับ Google Map ) แต่จะเป็นภาษาจีนทั้งหมด ต้องหาชื่อโลเคชั่นนั้นเป็นภาษาจีนก่อน

4.การเดินทางด้วย Taxi สามารถเรียกใน DiDi ในแอปฯ Alipay ได้เลย

5.Google Translate  สำคัญมาก เพราะพี่จีนเค้าส่วนมากจะไม่ใช้ภาษาอังกฤษ

6.ห้องน้ำที่เซี่ยงไฮ้ 95% ในห้าง หรือร้านคาเฟ่คือสะอาดมากกก

7.ค่าเงิน 1 หยวน เท่ากับ 5 บาท คิดง่าย ๆ แบบนี้ไปเลย

8.อินเตอร์เน็ตแนะนำให้เปิดโรมมิ่งของค่ายมือถือบ้านเราไปเลยสามารถเล่นได้ทุกอย่าง แต่ถ้าใช้ WiFi จะเล่น Facebook , IG , Line ไม่ได้

9.โรงแรมแนะนำให้จองติดกับสถานีรถไฟ สามารถจองผ่าน Booking , Agoda , Trip.com ได้เลย

10.สุดท้าย Shanghai Disneyland ควรค่าแก่การไปมาก แนะนำให้ไปช่วงเช้า ๆ และอยู่ถึงจุดพลุช่วงกลางคืนไปเลย เครื่องเล่น บรรยากาศ ความน่ารัก เอาไปเลยแบบเต็มสิบไม่หัก

Day 1

001 ย่าน Hengfu Historical Area 

ถ้าใครมีอยากมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ แต่ยังไม่มีที่เที่ยวหรือจุดเช็คอินชิค ๆ  เราขอแนะนำให้มาเริ่มต้นกันที่ Hengfu Historical Area ย่านสุดคูลของวัยรุ่นเซี่ยงไฮ้ ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เหมาะกับคนชอบสไตล์วินเทจนิด ๆ เนื่องจากเป็นย่านเก่าแก่ แต่ก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความทันสมัยได้เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว แถมยังมีฝาท่อพิมพ์นูนสูงเป็นรูปอาคาร Wukang Mansion อีกด้วย ให้ความรู้สึกเก๋ไก๋ ฟีลเด็กอเมริกันสุด ๆ 

และไหน ๆ ก็พูดถึง Wukang Mansion ต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นอาคารที่เป็น Icon มาก ๆ ของย่าน Hengfu Historical Area ทั้งรูปทรงตึก สีที่โดดเด่น ใครเห็นก็ต้องมาถ่ายรูปเช็คอิน ใครแวะมาเยือนเขตเมืองเก่าแบบนี้ รับรองได้รูปสวย ๆ กลับไปเพียบแน่นอน

002 ย่าน Anfu Road

มาต่อกันที่ Aufu Road ย่านที่มีเสน่ห์ด้วยถนนที่มีต้นไม้เรียงรายสวยงาม เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมธรรมชาติและบรรยากาศในเมือง ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของสถาปัตยกรรมไม่แพ้กัน เหมาะกับการมาถ่ายรูปเช็กอิน และนอกจากนักท่องเที่ยวจะมาเดินเล่นถ่ายรูปกันแล้ว ยังสามารถมาเดินช็อปปิ้ง แวะนั่งชิล ๆ ในคาเฟ่และร้านต่างๆ  ที่ตกแต่งไว้มีความทันสมัย ดูดีมีสไตล์ได้อีกด้วย

003 13De Marzo

ภายในย่าน Aufu Road จะมีร้านเสื้อผ้า และคาเฟ่เก๋ ๆ เรียงรายมากมาย แต่วันนี้เราขอพาทุกคนมาชมร้านแบรนด์เสื้อผ้า Hi-En ชื่อดังจากปารีส ที่ตอนนี้เค้าเพิ่งเปิดตัวร้านกาแฟสุดน่ารักที่มีกิมมิคน้องหมีเกาะอยู่ในทุก ๆ คืนสุดน่ารัก ใครแวะมาต้องห้ามพลาดร้านนี้เลย

004 RAC Coffee & Bar

อีกหนึ่งร้านอาหารเช้าที่อยากแนะนำให้มาลองกันในย่าน Anfu Road ตัวร้านมีจุดเด่นตรงที่สถาปัตยกรรม การใช้สีให้ดูสวยงามตัดกันระหว่างเขียวและเหลือง มีที่นั่งทั้ง In Door และ Out Door แบบชิลล์ ๆ ยิ่งช่วงสาย ๆ บรรยากาศในร้านจะครึกครืนมาก เหมาะแก่การมานั่งจิบกาแฟให้สมกับเป็นวัยรุ่นเซี่ยงไฮ้ที่สุด

ส่วนเมนูขอยกความอร่อยยามเช้าให้กับ Complete Ham&Egg ที่มาในรูปแบบแป้งบางกรอบ มีตัวไข่ที่สุกกำลังดี และแฮมที่หอมฉุย ทานคู่กับ Avocado Toast ที่มีรสชาติสุดฟินเหมาะแก่สายเฮลตี้สุด ๆ ส่วนตัวกาแฟก็หอมเตะจมูกทุกเมนู เอาเป็นว่าใครมาเที่ยวย่าน Anfu Road นี้ ต้องหาเวลามาลองกันแล้วแหละ


005 The Bund
 

เที่ยวย่านสุดชิคแล้วก็มาถ่ายรูปปกับแลนด์มาร์คยอดฮิตอย่าง The Bun กันต่อ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือเรียกได้ว่าเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ ดูน่าสนใจมาก ๆ ในเซี่ยงไฮ้ เพราะตอนกลางวันจะเห็นตึกสไตล์ยุโรปเรียงรายอยู่ตรงหน้า ดูเป็นเมืองใหญ่ เหมาะกับการมาถ่ายรูปปักหมุด เพื่อให้รู้ว่ามาถึงเซี่ยงไฮ้แล้ว จุดเด่นของ The Bund คือบรรยากาศและสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบยุโรป ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ว้าปไปยุโรปจริง ๆ 

ส่วนตอนกลางคืนก็บอกเลยว่าเผลอ ๆ อาจจะถูกใจใครหลาย ๆ คนกว่าตอนกลางวันซะอีก เพราะว่าบรรดาอาคารต่าง ๆ จะถูกย้อมไปด้วยไฟสีสันสวยงาม ตึกสูงในย่านนั้นจะมีการเปิดไฟโชว์ความสวยงามอลังการเพื่อเอาใจคนดูแบบไม่กลัวบิลค่าไฟกันเลยทีเดียว ด้วยโลเคชั่นของที่นี่อยู่ติดริมน้ำเลยยิ่งทำให้บรรยากาศดีขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แสงไฟที่กระทบกับผิวน้ำ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาสวยงามกว่าเดิมอีก

006 Zhapulu Bridge

ถัดมาอีกนิดเราจะได้เห็นมุมตึกไข่มุขที่มีสะพาน Zhapulu Bridge เป็น Foreground ที่สวยละมุนไปอีกแบบ นอกจากนั้นบริเวณนี้เรายังสามารถมานั่งเล่นชิลล์ ๆ หรือพาคู่รักมาเดินเล่นริมแม่น้ำช่วงเย็นจนถึงค่ำ ๆ ได้อีกด้วย

Day 2

007 Disneyland Shanghai

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสให้สมกับไฮไลต์ที่เราจะได้ไปสัมผัสกับวันนี้กันหน่อย กับ Disneyland Shanghai สถานที่ในฝันของใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ที่คิดเอาไว้ว่าต้องได้ไปเที่ยวสักครั้ง แน่นอนว่าเซี่ยงไฮ้เองก็เป็นอีกจุดเช็กอิน ที่สามารถตอบโจทย์คนที่หลงใหลในโลกแห่งจินตนาการตามแบบฉบับของดิสนีย์สุดคิ้วท์ที่แค่เห็นเหล่าตัวการ์ตูนย์ก็ทำให้ใจฟูแบบไม่รู้ตัวเลย

ที่นี่เครื่องเล่นส่วนใหญ่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเอ็นจอยกันได้ทุกวัย ยิ่งใครเป็นสาวก Toy Story ต้องรักโซนนี้แบบเรา ตัวเครื่องเล่นก็น่ารักไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Woody’s Roundup รถม้าลากหมุนในหมู่บ้านคาวบอย และ Rex’s Racer ที่ให้คะแนนความเสียวแบบเต็ม 10 ไปเลย

นอกจากจะมีเครื่องเล่นหลากหลายแล้ว บรรยากาศภายในสวนสนุกเค้าก็ประดับตกแต่งภายในให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวา มาพร้อมขบวนพาเหรดสุดอลังการ บวกกับเสียงเพลงที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นและรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ โดยขบวนจะเริ่มต้นที่โซน Toy Story ที่มีทั้งหมด 2 รอบคือ 12:15 น. และ 15:45 น. แนะนำให้จับจองที่ หามุมดี ๆ ก่อนเลยเพราะขบวนนี้จะหอบความน่ารักจนเราหยุดยิ้มไม่ได้เลยแหละ

โดยเหล่าตัวการ์ตูนในขบวนก็ล้วนเป็นตัวการ์ตูนในฝันวัยเด็กของเราทั้งนั้นเริ่มตั้งแต่มิกกี้ มินนี่ หมีพูห์ เอลซ่า นีโม่ มู่หลาน และเหล่าแก๊งค์ทอยสตอรี่ บอกเลยว่าจัดเต็มจนต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรัว ๆ 

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่สายผจญภัยต้องพลาดไม่ได้กับ Tron เครื่องเล่นสุดตื่นเต้น ได้แรงบันดาลใจมากจากภาพยนตร์ เป็นการปรับปรุงรถไฟเหาะให้เป็นมอเตอร์ไซค์แห่งอนาคต ไม่ว่าจะเพลงประกอบ ที่ทำให้เราอินไปกับการเตรียมตัว แสงนีออนสีฟ้าอ่อน ๆ ที่มาจากห้องปล่อยตัว ทำให้รู้สึกเหมือนกับเราได้อยู่กับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสุด ๆ แนะนำว่าเล่นทั้งรอบกลางวัน และกลางคืนไปเลย สนุกแบบคนละฟีล

ขอปิดท้ายด้วยโซนใหม่อย่าง Zootopia ที่เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยตัวละครสุดน่ารัก เหมือนเดินเข้าไปในโลกของการ์ตูน ได้เจอกับผู้หมวดจูดี้ ฮ๊อป และสล็อตแห่งกรมการขนส่งที่เร็วที่สุดในโลก Zootopia

ตบท้ายด้วยความประทับใจยามค่ำคืนกับการแสดง แสง สี เสียง พลุ แบบอลังการงานสร้าง  ‘ILLUMINATE! A Nighttime Celebration’ บริเวณปราสาทดิสนีย์ ที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติก และน่าตื่นเต้น เป็นการปิดท้ายวันที่สวยงามอลังการมาก เปิดประสบการณ์สุด ๆ 

Day3 

008 St.Ignatius Cathedral

ทั้งย่านชิค สวนสนุกก็ไปมาแล้ว เช้านี้เลยขอไปเที่ยวโบสถ์คาทอลิกชื่อดังเมืองนี้ที่ออกแบบสไตล์ Gothic โดยสถาปนิกชาวอังกฤษ William Doyle และเหล่าคณะเยซูอิตกันหน่อย  โบสถ์ St. Ignatius Cathedral หรือที่คนจีนเรียกกันว่า Xujiahui Cathedral เค้าว่ากันว่ามีอายุมากกว่า 110 ปีแล้ว ตัวภายนอกสร้างด้วยอิฐแดงให้ฟีลแบบยุโรป และบริเวณด้านหน้ายังมีสวนขนาดย่อมให้เราได้นั่งเสพบรรยกาศ สูดลมเย็น ๆ ยามเช้าได้อีกด้วย

009 ย่าน Xintiandi 

มาถึงเซี่ยงไฮ้ทั้งที ก็ต้องมาหาของกินแบบดั้งเดิม ในย่าน Xintiandi ย่านที่ตกแต่งเป็นสไตล์ฝรั่งเศส เป็นย่านไฮโซเก่าแก่ของคนเซี่ยงไฮ้ ฟีลยุโรปเบา ๆ เหมาะกับการมาเดินเล่นชิล ๆ หาร้านเด็ดกิน ส่วนใหญ่วัยรุ่นฮิปเตอร์ทั้งหลาย ชอบมาเดินช็อปปิ้งและเช็กอินถ่ายรูปกันที่นี่เพราะสถาปัตยกรรมสุดเท่ดูมีสไตล์ไม่เหมือนที่ไหน

010 ร้าน 顶特勒粥面馆 

แน่นอนว่าเป็นย่านดังขนาดนี้ ก็ต้องมีอาหารเด็ด ๆ การันตีด้วยร้านมิชลินชื่อดัง นั่นคือร้าน 顶特勒粥面馆 ที่มาแล้วต้องสั่งเมนูบะหมี่ปลา เป็นเมนูมิชลิน หลังจากได้ลองชิม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นเมนูมิชลิน ด้วยความสดของเนื้อปลาและบะหมี่ ปลาชิ้นโต และเส้นที่ลวกมาได้พอดี อยู่ในน้ำซุปเข้มข้น ที่แค่วางเสิร์ฟก็ได้กลิ่นหอมยั่ว ๆ ของเจ้าปลานี้แล้ว ถ้าใครมาร้านนี้แนะนำให้สั่งเมนูนี้เลย รับรองไม่ผิดหวัง

นอกจากเมนูมิชลินแล้ว ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่รสชาติดีไม่แพ้กันอย่าง โจ๊ก และปลาทอดเทมปุระ ตัวโจ๊กหอมเข้มข้นไม่แพ้บะหมี่ปลาเลย ส่วนปลาทอดเทมปุระก็ทอดมาได้เหลืองกรอบพอดี หากพูดถึงร้านนี้ต้องยกให้ในเรื่องวัตถุดิบที่มีคุณภาพและสดมาก ๆ ถ้าพอมีเวลาต้องแวะมาลองกันให้ได้เลย

011 The street of 1,000 red jars

สำหรับใครที่อยากได้จุดเช็กอินเท่ ๆ คูล ๆ ไว้ถ่ายรูปไปอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลแล้วหล่ะก็ ต้องห้ามพลาดที่นี่ The Street of 1,000 Red Jars แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร  ที่มองเผิน ๆ จากภายนอกจะเห็นเป็นอาคารทรงเก่าแก่ แต่ถ้าได้ลองเข้าไปด้านในกลับมีความซับซ้อน ดูมีสไตล์สุด ๆ ที่นี่จัดเป็นจุดที่ต้องมาถ่ายรูปกันให้ได้ ด้วยอาคารที่สร้างแบบมีแพทเทิร์นดูเก๋ คุมโทนด้วยสีแดงที่ดูสะดุดตา สีสันฉูดฉาดเหมาะกับสายโซเชียลที่ชอบแต่งตัวแฟชั่นจัดเต็มมายืนโพสต์ท่าสวย ๆ อาคารนี้มีมุมถ่ายรูปสวยหลายมุม ทุกคนสามารถเข้าไปดูเรฟตามโซเชียลมีเดีย แล้วเลือกถ่ายมุมที่ตัวเองชอบได้

ส่วนใครที่สงสัยที่มาของชื่อ 1,000 Red Jars ถ้าสังเกตดี ๆ ตามระเบียงหรือกำแพงจะมีขวดหรือแจกันรูปทรงแบบจีนวางประดับอยู่ บางใบก็ใช้ปลูกต้นไม้ บางใบใช้ประดับตกแต่ง จากที่คำนวณได้ด้วยตาคิดว่ามีมากกว่าพันใบ เลยเป็นที่มาของชื่อสถานที่นั่นเอง

012 ย่าน Huang Pu

แวะมาเช็กอินย่านเศรษฐกิจอย่าง Huang Pu ย่านธุรกิจสุดหรูที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำสายสำคัญของเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นแม่น้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นเองยาวกว่า 113 กิโลเมตร แลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวชอบมาเดินเล่นถ่ายรูป ช็อปปิ้งกันตามห้างและศูนย์การค้า มีไฮไลต์เป็นวิวตอนกลางคืนที่ตึกอาคารต่าง ๆ เปิดไฟสวยงามอลังการ ใครแวะมาก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้โดยเฉพาะช่วงกลางคืน

013 Gentle Monster 

มีร้าน Gentle Monster ตกแต่งดูสะดุดตา เพราะทั้งร้านดีไซน์ Croissant เป็นรูปทรงต่าง ๆ วางตกแต่งตามผนัง ให้ฟีลเหมือนเป็นโรงยิมครัวซองต์ มีทั้งลู่วิ่ง ดัมเบล มองดูเหมือนงานศิลปะอาร์ต ๆ ไม่ใช่แค่การตกแต่งที่ดูเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครเท่านั้น แต่เมนูเบเกอรี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ Nudake ครัวซองต์เนื้อเหนียวนุ่ม ดริปกินกับช็อกโกแลตแบบเข้มข้น ฟินถูกใจสายเบเกอรีสุด ๆ

014 Paradox Museum

นอกจากจะซึมซับวัฒนธรรมด้านอาหารและสถาปัตยกรรมแล้ว เราไปดูฝั่งงานสร้างสรรค์ การเรียนรู้อะไรใหม่ๆ กับที่เที่ยวสไตล์มิวเซียมกันบ้างดีกว่า ในเซี่ยงไฮ้มีพิพิธภัณฑ์หลากหลายให้เราไปเยี่ยมชมเยอะมาก หนึ่งในมิวเซียมที่น่าสนใจก็มีที่ Paradox Museum

พิพิธภัณฑ์ที่ดูสร้างสรรค์สุด ๆ เท่าที่เคยเจอมา คนที่เข้าไปเยี่ยมชมจะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สนุกสนาน มีหลายมุมที่เป็นมุมหลอกตา น่าตื่นตาตื่นใจมาก บางมุมมีแนวคิดและเรื่องราวให้เราได้ค้นหามากมาย มีหลายมุมที่เราสามารถเข้าไปร่วมเล่นกับฉากและไปถ่ายรูปคู่เก๋ ๆ ได้ตามจินตนาการ มีตั้งแต่ “ห้องกลับด้าน” “อุโมงค์พาราด็อกซ์” “ห้องโซฟาพาราด็อกซ์” หลังจากที่ได้เดินดูทั้งหมด รู้เลยว่าถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ทุกคนที่มาได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ เหมาะเด็ก ๆ และคนทุกเพศทุกวัยที่ต้องการแรงบันดาลใจ คนที่เป็นสายอาร์ต น่าจะประทับใจที่นี่

015 Shanghai Natural History Museum

มาต่อกันที่พิพิธภัณฑ์สัตว์ดึกดำบรรพ์ Shanghai Natural History Museum เป็นมิวเซียมที่ให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังเรื่อง Night at the museum เพราะเป็นมิวเซียมขนาดใหญ่ มีสัตว์ดึกดำบรรพ์มากมายจัดแสดง ดูยิ่งใหญ่อลังการ มีคอลเลคชั่นโชว์ให้เราเยี่ยมชมกว่า 2 แสนชิ้น เป็นของเก่าโบราณหายากตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกจัดแสดงภายในอาคารทรงเกลียวคล้ายเปลือกหอย เป็นรูปทรงอาคารที่ดูแปลกตาและดูทันสมัยมาก ๆ

ความปังของที่นี่ คือเทคโนโลยีที่ใช้ในพิพิธภัณฑ์ ทุกอย่างดูทันสมัยน่าตื่นตาตื่นใจมาก ที่ชอบสุด ๆ คือการเล่าเรื่องของมิวเซียมที่น่าฟังและมีลูกเล่นตลอดเวลา มีไฮไลต์คือสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์ในสเกลเท่าขนาดจริง ออกมาเดินอวดโฉมให้ทุกคนได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย คนที่ชอบเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยววิทยาศาสตร์และสัตว์ชนิดต่าง ๆ ในยุคดึกดำบรรพ์ มาแล้วต้องไม่อยากกลับแน่นอน เพราะความรู้อัดแน่น เดินชมซากดึกดำบรรพ์และของโบราณกันได้แบบทั้งวันไม่มีเบื่อเลย และใครที่มาเยือนที่นี่อย่าลืมแวะซื้อไอติมรูปฟอสซิลไดโนเสาร์นะ ถ่ายรูปออกมาน่ารักแล้วก็รสชาติดี ฟินสุด ๆ

016 ร้านหน้าปู 蟹叁寳

มาเซี่ยงไฮ้ คนส่วนใหญ่ก็มักจะมาตามเก็บร้านอาหารเด็ดเจ้าดัง อย่างร้านนี้  蟹叁寳 ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องปู ถ้ามาเช็กอินถึงเชี่ยงไฮ้แล้ว แต่ไม่ได้มากินบะหมี่ปู ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะร้านนี้เป็นร้านดังที่นักท่องเที่ยวชอบแวะมากินกันมาก ๆ

เมนูซิกเนเจอร์ร้านที่ถ้ามาแล้วต้องสั่ง เป็นเมนู “บะหมี่ซอสปู” และ “ไก่ต้มซุปไข่ปู” ที่เสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ และเครื่องเคียงเป็นถั่วฝักยาวดองและเห็ดหูหนูดองชามเล็ก ๆ ตัดเลี่ยนได้ดี ตัวบะหมี่เส้นนุ่น ซอสปูเข้มข้น สัมผัสได้ถึงรสชาติเนื้อปูชัดเจน ใครชอบกินปูน่าจะฟินมาก ส่วนอีกเมนู เหมาะกับคนที่อยากกินเป็นข้าว ราดด้วยซุปไข่ปูที่ใส่เนื้อไก่ตุ๋นมาจนนุ่ม กินพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ คือฟินมาก ใครอยากกินซุปไข่ปู เนื้อปูเน้น ๆ ตักคำไหนก็เจอ แนะนำต้องมาลองชิมกันให้ได้สักครั้ง!

Day 4

017 World Expo Museum

ถ้าจะให้พูดถึง World Expo แน่นอนว่ามีน้อยประเทศมาก ๆ ที่จะได้รับคัดเลือกและจีนคือ 1 ในนั้น ในการจัดแต่ละครั้งมีระยะเวลายาวนานถึง 6 เดือน ใช้งบประมาณในการลงทุนมหาศาล ถ้าใครได้มีโอกาสมาเซี่ยงไฮ้ แนะนำให้แวะมาที่ Shanghai World Expo Museum บอกเลยว่าที่นี่ควรค่าแก่การมาเยือนมาก ๆ มีพื้นที่กว้างขวาง ถ้าจะให้เดินชมจนทั่ว ต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวัน  

ข้างในมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของจีน นิทรรศการภาพวาด และนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวในด้านสุนทรียศาสตร์ของจีน และอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะมาก คนที่ต้องการหามุมสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปเช็กอินแนะนำโซนสวนเลย บริเวณนี้มีการจัดสวนไว้อย่างสวยงาม ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมรอบ ๆ ที่ออกแบบไว้มีความโค้งเว้าสวยงาม เป็นผลงานอาร์ตที่มองดูแล้วสร้างแรงบันดาลใจสุด ๆ การตกแต่งสถาปัตยกรรมแต่ละจุดคือดีงามมาก ถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาสวย ดูดี สมชื่อพิพิธภัณฑ์นานาชาติแห่งแรกของจีน ใครชอบงานศิลปะ หรือสถาปัตยกรรมรูปทรงแปลก ๆ เก๋ ๆ ต้องแวะมาเยี่ยมชมให้ได้เลย

018 China Art Museum

มาต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ China Art Museum สวรรค์ของคนรักงานอาร์ต ใครที่ชอบเสพความอาร์ตรับรองว่ามาที่นี่แล้วได้อิ่มเอมกับผลงานศิลปะแบบจัดเต็มแน่นอน แค่ได้เดินมาถ่ายรูปคู่กับตึกสีแดงตรงด้านหน้าก็ถือว่าคุ้มมากแล้ว นี่แค่เดินชมแค่ด้านนอกนะ รู้เลยว่าด้านในต้องอลังการและน่าสนใจกว่านี้อีกเป็นเท่าตัวแน่นอน

China Art Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียเลย ด้านในมีฮอลล์ที่ใช้จัดแสดงผลงานศิลปะมากถึง 27 ฮอลล์ เช่น ห้องเก็บรวบรวมของเก่า จิตรกรรมและประติมากรรมโบราณต่าง ๆ มีห้องจัดแสดงงานอาร์ตร่วมสมัยสไตล์จีน และนิทรรศการขนาดย่อมที่จัดแสดงหมุนเวียนกันไป และไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือกิมมิกของแสงไฟ และเงา ที่จัดแสดงออกมาไม่น่าเบื่อเลย สามารถเดินเล่น เยี่ยมชมงานศิลปะกันได้ทั้งวัน แถมได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของจีนอีกด้วย

019  North Bund Green Land

เที่ยวพิพิธภัณฑ์ในเซี่ยงไฮ้ยังล้ำไม่พอ เราพาไปต่อกันที่ North Bund Green Land ที่ต้องบอกว่าขอยกให้เป็นเมืองแห่งอนาคตเลย สวนสาธารณะขนาดย่อมริมแม่น้ำ ที่มีแลนด์มาร์คเป็นโดมสีเงิน มองดูแล้วเหมือนหลุดไปอยู่ในหนังอวกาศสักเรื่อง มีเงาสะท้อนจากเจ้าโดมรูปไข่สีเงินเป็นภาพวิวรอบ ๆ ถ่ายรูปออกมาแล้วดูล้ำสุด ๆ ด้วยบรรยากาศสวนแบบธรรมชาติสีเขียวสุดผ่อนคลาย แถมโลเคชั่นยังอยู่ใกล้แม่น้ำอีก มีเรือขนาดใหญ่แล่นสวนผ่านกันไปมาตลอด เป็นจุดเช็กอินที่สวยงามน่าทึ่งสุด ๆ ควรค่าแก่การมาเยือน

ไฮไลต์ของที่นี่นอกจากจะมาเที่ยวช่วงกลางวันมองเห็นวิวอลังการได้รอบแล้ว ช่วงกลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน ยิ่งถ้ามาช่วงเย็นพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน แสงสีทองอ่อน ๆ สะท้อนกับเจ้าโดมรูปไข่สีเงิน ดูสวยงามอีกแบบ ตึกอาคารเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์และหอไข่มุกที่เริ่มเปิดไฟสะท้อนกับผิวน้ำและโดมรูปไข่ เป็นภาพวิวเมืองที่ดูทันสมัย แล้วก็สวยงามสุด ๆ

020  Yuyuan Old Street 

มาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ทั้งที ต้องได้มาซึมซับบรรยากาศย้อนยุค เดินเล่นย่านเมืองเก่าของเซี่ยงไฮ้ ที่ “Yuyuan Old Street” แหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง สินค้า ขนม ของฝากและของที่ระลึกต่าง ๆ ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ด้วย เพราะมีสถาปัตยกรรมรูปทรงโบราณ หลังคาสไตล์เก๋งจีนที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในฉากหนังจีนเลยทีเดียว เหมาะกับการมาเดินเล่นและถ่ายรูปมาก ๆ

021 Nanxiang Steamed Bun

เดินมาได้สักพักจะเจอร้านเสี่ยวหลงเปาเก่าแก่ ที่เป็นร้านเด็ดเจ้าดัง “Nanxiang Steamed Bun”การันตีด้วยรางวัลมิชลินไกด์หลายปีซ้อน โดยมีเมนูซิกเนเจอร์ร้านเป็น “เสี่ยวหลงเปายักษ์ไส้ปู” ที่มีวิธีการกินไม่เหมือนใคร คือต้องใช้หลอดดูดน้ำซุปก่อน เพื่อชิมน้ำซุปร้อน ๆ ก่อนจะลิ้มรสเจ้าเสี่ยวหลงเปายักษ์ ไส้ข้างในอัดแน่นจุก ๆ เป็นไส้หมูผสมปู แป้งหนานุ่ม โดยรวมคือดี 

นอกจากเมนูเสี่ยวหลงเปาแล้ว ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างซาลาเปา หมั่นโถว ซุปต่าง ๆ รวมถึงลูกชิ้นกุ้งทอด ที่กรอบอร่อย กำลังดี ไม่อมน้ำมันด้วย ใครชอบซดน้ำซุปในเสี่ยวหลงเปาลูกยักษ์ ต้องมาแวะร้านนี้ให้ได้เลย

Day 5

022  FLOWER COFFEE BAR 

วันสุดท้ายขอมานั่งพักจิบชา จิบกาแฟสาย ๆ ในบรรยากาศอันแสนเงียบสงบริมแม่น้ำซูโจว ที่ FLOWER COFFEE BAR บาร์ของคนรักกาแฟ ที่มีบริการเครื่องดื่มกาแฟและค็อกเทล ให้เราได้นั่งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศวิวสวย ๆ ริมแม่น้ำ มองเห็นได้ตั้งแต่ตึกอาคารรูปทรงแปลกตา อย่างหอไข่มุก เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์  ไปจนถึงแสงแดดที่ตกกระทบบนผิวน้ำ ทำให้แม่น้ำทั้งสายมีประกายระยิบระยับ โดยรวมคือวิวดีเวอร์ จ่ายค่ากาแฟไม่เท่าไหร่ แต่วิวที่ได้คุ้มมาก

มุมที่อยากแนะนำสำหรับคนที่เข้ามานั่งจิบกาแฟร้านนี้ ต้องมุมระเบียงริมแม่น้ำเลย ตรงนี้มีพื้นที่รองรับเพียงพอ แถมยังเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ ใครอยากนั่งพักผ่อนชิล ๆ นั่งชมวิวริมน้ำปล่อยใจสบาย ๆ ต้องไม่พลาดมาร้านนี้ คุ้มราคาค่ากาแฟสุด แถมได้ถ่ายรูปวิวเมืองริมน้ำสวย ๆ ไปอวดลงโซเชียลได้อีกด้วยนะ

023 Nanjing  Road

มาเที่ยวจีนไม่กินหม่าล่า เหมือนมาไม่ถึง ปิดท้ายทริปนี้ อยากพาทุกคนมาที่ย่าน Nanjing เมืองใหญ่ทางตอนใต้ของจีน เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองสุด ๆ ที่นี่ดูแล้วทันสมัยก็จริง แต่ก็ยังเป็นเมืองโบราณอารยธรรมเก่าแก่ และเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ มีประวัติความเป็นอย่างยาวนานตั้งแต่ราชวงศ์หมิงเลยทีเดียว

024 YUBARE HOT POT 

บรรยากาศของย่านนี้ มีกลิ่นอายความเก่าแก่โบราณผสมผสานกับความทันสมัยของอาคารบ้านเรือน มีร้านค้ามากมาย ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดฮิตของนักท่องเที่ยว หนึ่งในนั้นคือร้าน YUBARE HOT POT หรือหม่าล่าหม้อไฟที่เรารู้จักกันดี มาเยือนถึงถิ่นขนาดนี้ ไม่ลองคงไม่ได้ เราตัดสินใจเดินเข้าร้านที่ตกแต่งสไตล์จีนโบราณแบบไม่รีรอ

เซ็ตที่สั่งมาเป็น ซุปหม่าล่าและเนื้อชั้นดี มองผ่านตาคือรู้เลยว่าทางร้านคัดมาให้แล้ว รสชาติซุปหม่าล่าคือเด็ดไม่แพ้ที่ไทย ด้วยต้นตำรับแท้ ๆ ซดแล้วถึงโล่งคอ รู้สึกเผ็ดร้อนถึงเครื่องหม่าล่า ตัดความเผ็ดด้วยเจ้าฟองเต้าหู้ ที่มีทั้งแบบทอดและแบบพร้อมลงต้มสไตล์ชาบู โดยรวมแล้วรสชาติลงตัวสุด ๆ ไม่ผิดหวังเลย ให้คะแนนเต็มทั้งรสชาติและบรรยากาศร้าน

เป็นยังไงบ้างกับทริป 24 จุดเช็กอินเซี่ยงไฮ้ ที่เดินทางไปง่าย แถมไปครั้งเดียวเก็บได้ครบทุกแลนด์มาร์คดัง ไม่ต้องมานั่งแพลนที่เที่ยวนานให้เสียเวลา เพียงแค่ปักหมุดตามรอยทริปนี้ อยากไปตอนไหนก็ไปได้เลย เพราะมีเที่ยวบินตรงดอนเมือง – เซี่ยงไฮ้ หรือจะบินจากสุวรรณภูมิก็ได้ สะดวกไม่แพ้กัน 

เป็นทริปที่ฟินมาก ทั้งตะลุยร้านเด็ดเจ้าดัง เช็กอินคาเฟ่ ถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คห้ามพลาด แถมได้ดื่มด่ำกับงานศิลปะ เดินดูมิวเซียมและนวัตกรรมของชาวจีนว่าล้ำสมัยขนาดไหน ลบภาพเซี่ยงไฮ้ที่มีเจ้าพ่อเดินแต่งตัวย้อนยุค หรือมีแค่เมืองท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างเดียวไปได้เลย รับรองว่าเป็นทริปที่ได้รูปกลับไปเยอะมาก ๆ ใครจะมาต้องเตรียมเสื้อผ้ามาแมทช์กับสถานที่ให้ดี แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนักกระเป๋านะ เพราะแพ็คเกจ Premium Flex จาก AirAsia ช่วยทุกคนได้ สำหรับคนที่จองตั๋วบินไปเซี่ยงไฮ้แล้ว มาแชร์กันบ้างนะว่าไปเช็กอินที่ไหนกันบ้าง!

,

Leave a Reply

Your email address will not be published.