แจกแพลนเที่ยว SYD แบบชิค ๆ ฉบับ 5 วันจุก ๆ กับ 30 โลเคชั่น ถ่ายรูปสุดปังแบบครบทุกย่าน เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ คัดจุดเช็กอินมาให้แล้ว จะสายสวยติดแกรม สายถ่ายรูป สายกิน แค่ก็อปแพลนนี้แล้ววาง ก็เตรียมตัวจองตั๋วบินไปได้เลย!
จัดเต็มทั้งแลนด์มาร์คสุดฮิตอย่าง Opera House และ Harbour Bridge เช็กอินคาเฟ่ Vibes คูล ๆ สไตล์วัยรุ่นเทสดี พร้อมแต่งตัวเก๋ ๆ ถ่ายรูปกับ Bondi Icebergs สระว่ายน้ำวิวหลักล้าน ชมธรรมชาติทะเลสวย กับวิวพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก เที่ยวครบทั้งย่านในเมือง ย่านนอกเมือง ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองที่ได้ชื่อว่าสวยงามไม่แพ้เมืองไหนในโลก
แถมประหยัดสุด ๆ กับการเดินทางไปเที่ยวซิดนีย์รอบนี้ราคาค่าตั๋วไม่แรงอย่างที่คิด เพราะรอบนี้เราบินตรงกับ Thai AirAsia X สายการบินราคาประหยัด บอกได้เลยว่าการมาซิดที่ซิดนีย์เที่ยวนี้จอสระอึ้งจึ้งเวอร์ เตรียมเซฟเก็บรูปสวย ๆ ไปตามรอย แล้วรอพบกับความปังกันได้เลย!
Flight Bangkok to Sydney
การเดินทางข้ามทะเล ข้ามทวีปของเราในครั้งนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาจะสูงเว่อร์ เพราะตอนนี้ Thai AirAsia X สายการบิน Low Cost สุดประหยัด เค้ามีบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่ท่าอากาศยานนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธที่ซิดนีย์แล้วนะทุกคน ราคาสบายกระเป๋า แถมตรงเวลา ใครมีแพลนอยากไปเที่ยวซิดนีย์อย่ารอช้า!
ตั้งแต่ 2 กรกฎาคมเป็นต้นไป จะมีปรับเวลาใหม่
BKK-SYD XJ382: 17:40-06:20 (อังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ อาทิตย์)
SYD-BKK XJ383: 07:40-14:45 (จันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์)
บินสะดวกกว่าเดิม ถึงเช้าเวลาดี เก็บกระเป๋าแล้วเที่ยวแบบ enjoy ได้เต็มวัน!
ความดีงามนอกจากราคาสุดแสนประหยัดแล้ว เค้ายังมาพร้อมเครื่องลำใหญ่ นั่งสบาย มีพื้นที่กว้างขวาง แนะนำให้ซื้อแพ็คเก็จ Premium Flex ไปด้วยเลย คุ้มค่าสุด ๆ เพราะได้ทั้งน้ำหนักกระเป๋า 20 กก. จะขนพร็อบแบบจัดเต็ม เสื้อกันหนาวหลาย ๆ ตัวไปถ่ายรูปได้แบบจุใจ รวมทั้งอาหารเสิร์ฟร้อน ๆ บนเครื่อง พร้อมกับเลือกที่นั่งที่ถูกใจ เป็นแพ็คเก็จที่เหมาะกับสายเที่ยวอย่างเราสุด ๆ ถ้าใครพร้อมแล้วตามเราเที่ยวซิดนีย์กัน แล้วจะรู้ว่าเมืองที่ Vibes สุด ๆ จะเป็นไง!
การเดินทางในประเทศ
อยากบอกว่าซิดนีย์เป็นเมืองค่อนข้างเล็ก ไปไหนมาไหนใช้เวลาไม่กี่นาที บางวันเราเดินเที่ยวถึงกันหมดเลย แนะนำพักย่าน Thai Town ร้านอาหารเยอะ แถมเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก ส่วนรถที่เราใช้หลัก ๆ จะมี
1.Bus เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมาก รอบเวลาสามารถดูได้ตามป้ายเลย การชำระค่าโดยสารก็ง่าย ๆ เพียงแค่แตะบัตรเครดิต หรือบัตรเดรบิตก่อนขึ้น และแตะอีกทีเวลาลงตรงประตู ค่าโดยสารเริ่มต้นรอบละ 1 AUD เท่านั้น
2.Tram อันนี้ก็สะดวก แต่ส่วนมากจะเอาไว้เดินทางในเมืองส่วนใหญ่ จ่ายโดยการแตะบัตรขึ้น และลงเหมือนรถ Bus
3.Metro ใช้เวลาไป-กลับจากสนามบิน สามารถขึ้น-ลงที่สถานี Central ใจกลางเมืองได้เลย
4.Uber ถ้ามากันหลายคน อันนี้สะดวกสุด หารแล้วไม่แพง
Visa
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนกังวลเรื่องมาเที่ยวออสเตเรีย คงหนีไม่พ้นวีซ่า ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่าต้องทำยาก โอกาสไม่ผ่านก็คงมี แต่ขอให้ลบภาพจำนั้นทิ้งไปเลย เพราะวีซ่าท่องเที่ยว ประเทศนี้ให้ง่าย และทำง่ายมากกกก ( ถ้าเทียบกับประเทศแถบยุโรป ) ที่สำคัญไม่ต้องทิ้งเล่มพาสปอร์ตไว้ด้วย ชอบตรงนี้!
โดยขั้นตอนการทำง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ขอแค่เตรียมเอกสารให้ครบ
1.เตรียมเอกสาร
2.กรอกข้อมูล และยื่นเอกสารทางออนไลน์ที่ https://immi.homeaffairs.gov.au
3.เก็บข้อมูล Biometrics (จำเป็นต้องเดินทางไปทำด้วยตัวเองที่ศูนย์ VFS Global)
4.รอแจ้งผลผ่านทางอีเมลล์ ( ของเรารู้ผล 2 อาทิตย์ นับตั้งแต่เก็บข้อมูล Biometrics )
ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าราว ๆ 4,,500 บาท
Travel Plans Sydney Trip
Day 0
- Bangkok to Sydney
Day 1
- Sydney Town Hall
- Queen Victoria Building
- Royal Botanic Garden
- Yasaka Ramen
Day 2
- Sydney Fish Market
- New Town
- Shenkin Newtown Espresso Bar
- Mapo Newtown
- Sydney Opera House
- Luna Park
- Waruda Street
- Pho Gia Hoi
Day 3
- Red Fern
- Seventhwave Coffee & Tea
- RaRa Ramen
- Bondi Beach
- Bondi Iceburgs
- Watsons Bay
- Camp Cove Jetty
- Lightkeeper’s Cottages 1858
Day 4
- Surry Hills
- Single O Surry Hills
- Reuben Hills
- Bar Copains
- Neighbourhood Speciality coffee
- Sample Coffee
- Hyde Park
- St. Mary’s Cathedral
- Art Gallery of New South Wales
- Harbour Bridge
- Observatory Hill
- Primi Italian
Day 5
- Sydney to Bangkok
Day1
001 Sydney Town Hall
หลังจากลงเครื่อง เก็บของเช็กอินโรงแรมเรียบร้อย ช่วงบ่าย ๆ วันนี้ก็ขอถือโอกาสเดินมาปรับตัว ทำตัวชิค ๆ ย่านใจกลางเมือง Sydney CBD ที่บริเวณนี้จะมีห้าง ร้านอาหาร รวมถึงแลนด์มาร์คหลัก ๆ อยุ่เพียบ อย่างที่แรกที่พลาดไม่ได้เลยคือ Sydney Town Hall หรือ ศาลาว่าการนครซิดนีย์ อาคารหินรูปร่างสวยงามที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์วิกตอเรียน โดยด้านในประกอบไปด้วยห้องประชุมสภานครซิดนีย์ ห้องต้อนรับ ห้องครบรอบ 100 ปี ห้องทำงานของนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภา นอกจากนั้นที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติออสเตรเลียอีกด้วย
002 Queen Victoria Building
ข้าง ๆ กับ Sydney Town Hall ก็มีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้เลยกับตึก QVB ที่เป็นอาคารเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี สร้างตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ออกแบบโดยจอร์จ มักเร (George McRae) โดยด้านในจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงร้านกาแฟมากมาย และหนึ่งคำที่เราได้ยินจนชินหูเกี่ยวกับนิยามความสวยงามของที่นี่คือ หากจะเปรียบโอเปร่าเฮ้าส์ เป็นดังสาวงามประจำมหานคร ตึกควีนวิคตอเรียก็เปรียบเหมือนมงกุฎประดับอัญมณีล้ำค่าที่โดดเด่นเป็นศรีแห่งมหานครซิดนีย์แห่งนี้เช่นกัน
003 Royal Botanic Garden
เดินเล่นกันจนฉ่ำถึงช่วงเย็น วันแรกขอหามุมสวยๆ แสงจึ้ง กับแลนด์มาร์คแสนปังกันต่อที่ Royal Botanic Garden ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ใหญ่ชนิดที่ว่าเดินจากทางเข้าจนไปถึงแหลมด้านบนสุดประมาณ 30 นาที แนะนำบริเวณม้าหินมิสซิสแมคควอรี่ เราจะได้ภาพ Opera House กับ Harbour Bridge ที่สวยงาม ยิ่งช่วงแสงเย็น มู้ดบริเวณนี้คือโรแมนติกมาก
004 Yasaka Ramen
มื้อเย็นวันแรกขอเติมพลังด้วยอาหารที่คุ้นชินของเรากับเมนู KoKumaro ราเมงที่มาพร้อมซุปที่เคี้ยวสูตรพิเศษ มีให้เลือกทั้ง Shoyu ,Shio ,Miso ตัวเส้นเหนียวกำลังดี ใครพักย่าน Thai Town แนะนำให้มาลอง
Day2
005 Sydney Fish Market
มาถึงเมืองท่าอันแสนสุข จะไม่มาชิมอาหารทะเลก็ไม่ได้มั้ยละ! เช้านี้เราเลยแบกความหิวมายัง Sydney Fish Market ตลาดปลาริมทะเลพรีมอนต์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ แล้วยังเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ลำดับ 3 ของโลก เค้าว่ากันว่าที่มีจะมีอาหารทะเลเกือบ 2,700 ชนิด และปริมาณกว่า 55 ตัน ต่อวันเลยนะ
ภายใน Sydney Fish Market จะมีเมนูให้เราได้เลือกตั้งแต่อาหารสด อาหารทะเลปรุงสุก และเมนูแปลก ๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่ซาซิมิ กุ้ง หอย ปูปลา แต่ที่เป็นไฮไลต์มานี่ต้องลองคือ Oysters หอยนางรมที่สดมาก มีหลายขนาดให้เลือกชิม และกุ้งล็อบสเตอร์ ที่แต่ละเมนู ชวนให้เราต้องเสียเงินซื้อมาชิมทั้งนั้นเลย
006 ย่าน New Town
มาต่อกันที่ย่านสุดชิคของวัยรุ่นนิวเซาท์เวลส์กันต่อ ที่นี่เป็นแหล่งชิลล์ที่มีทั้งร้านคาเฟ่ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายแผ่นเสียงมากมาย มาพร้อมตึกสไตล์วินเทจ และศิลปะการพ่นสีที่กำแพงเป็นลวดลายต่าง ๆ นับว่าเป็นย่านที่คนคูล ๆ แบบพวกเราต้องมาเยือนกันสักครั้ง
007 Shenkin Newtown Espresso Bar
เริ่มต้นสำรวจย่านนี้ด้วยคาเฟ่หัวมุมที่เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ตกแต่งด้วยโทนไม้ มีนั่งอยู่ไม่กี่ที่ให้เราได้นั่งจิบกาแฟ ชมวิวบรรยากาศของเส้นถนน New Town ส่วนตัวกาแฟ แนะนำคนชอบดื่มเข้ม ๆ ให้ลองเมนู Flat white ตัวเมล็ดจะเข้ากับตัวนมกำลังดี
008 Mapo Newtown
อีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบที่สุดของการมาต่างประเทศคือการได้ชิมอะไรอร่อย ๆ และหนึ่งสิ่งที่ไม่เลยพลาดเลยคือร้านไอศกรีม Gelato ที่ทางร้านนี้เค้าไม่ใส่กลิ่น และสารปรุงแต่งใด ๆ ตัวรสชาติเลยเข้มขน ช็อกโลแลตหวานคือหวาน ตัวสตรอว์เบอร์รี่คือเปรี้ยวแบบสมมง
009 Sydney Opera House
Iconic Sydney ที่ใครมาถึงที่นี่แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปเช็กอินก็เหมือนไปญี่ปุ่นไม่ได้เจอฟูจิ โรงโอเปร่าหลังคาโดมขาวที่ซ้อนเรียงกันอย่างสวยงาม ฝีมือออกแบบสถาปิกชาวเดนมาร์กที่ใช้เวลาสร้างกว่า 9 ปี โดยด้านในจะใช้ไว้เป็นที่จัดงานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต รวมถึงงานโอเปร่า ส่วนบริเวณรอบ ๆ จะมีร้านอาหาร และที่นั่ง Vibes ดี ๆเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเสพบรรยากาศกันเรียงรายเต็มไปหมด
โดยโอเปร่าเฮ้าส์นี้ได้รับแรงบันดาลใจการสร้างมาจากธรรมชาติทั้งรูปทรง และสีสันที่คนภายนอกอาจมองว่าเป็นเหมือนเปลือกหอย แต่จริง ๆ แล้วตัวหลังคานี้มีรูปร่างคล้ายทั้งปีกของนก รูปทรงของก้อนเมฆ ผลวอลนัท และต้นปาล์ม เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมธรรมชาติ และความพิเศษคือตัวหลังคาโคมสีขาวก็ทำจากแผ่นกระเบื้องทั้งหมด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงถูกองค์การยูเนสโกลงทะเบียนให้โรงอุปรากรซิดนีย์เป็นมรดกโลกจนถึงปัจจุบัน
010 Luna Park
จาก Sydney Opera House เราสามารถนั่งเรือมายังสวนสนุกเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้ต่อได้เลย โดยที่นี่มีเอกลักษณ์ตั้งแต่ประตูทางเข้า ส่วนด้านในจะมีเครื่องเล่นไม่มากเท่าไหร่ แต่ความน่ารักบอกเลยให้เต็มสิบแถมยังไม่เสียค่าเข้าด้วยนะ ยิ่งบริเวณรอบ ๆ สวนสนุกสามารถมองเห็นวิว Harbour Bridge ได้อีกด้วย
011 Waruda Street
อีกหนึ่งมุมชมพระอาทิตย์ตกสุดจึ้ง ที่เป็นลักษณะคล้ายท่าเรือยืนออกมา ตรงบริเวณนี้เราจะสามารถเห็นทั้ง Sydney Opera House และ Harbour Bridge ได้เลย ยิ่งช่วงแสงเย็นที่นี่ยิ่งปัง เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ใครอยากมานั่งชมวิวพร้อมเสพบรรยาากาศของพระอาทิตย์ตกกัน
012 Pho Gia Hoi
เมื่อคืนเราแนะนำราเมงไปแล้ว วันนี้ขอข้ามไปแนะนำอีกร้านที่ใครชอบอาหารสไตล์เวียดนามต้องมาลองกัน ที่นี่เป็นร้านเฝอที่มีเมนูให้เราเลือกเยอะมาก รสชาติคือเวียดนามสไตล์แท้ ๆ ใส่เนื้อสัตว์ให้แบบไม่กั๊ก ในราคาไม่แพงเว่อ อยู่ในย่าน Thai Town ใครเป็นคอเฝอเลิฟเวอร์แบบเราต้องมาลองกัน
Day3
ครึ่งทางของทริปนี้แล้ว เช้านี้เรามีแพลนออกนอกเมืองสักหน่อย แต่สายคาเฟ่แบบเราขอแวะไปเที่ยวอีกหนึ่งย่านสุดชิคอย่าง Redfern กันหน่อย ย่านนี้ที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ และตึกทรงเท่ ๆ เต็มไปหมด
012 Seventhwave Coffee & Tea
ไม่รอช้าขอเริ่มต้นเช้านี้ด้วยกาแฟดี ๆ ที่ร้าน Seventhwave Coffee ที่เป็นร้านกาแฟที่ทำรสชาติถึงสุดตั้งแต่เรามา มีเมล็ดให้เราได้เลือกซื้อกลับเต็มไปหมด ใครชอบฟีลกาแฟสด แนะนำให้สั่ง Filter coffee ตัวที่เราดื่มเป็นเมล็ดจากโคลัมเบีย รสชาติคือหอม อร่อยมาก คอกาแฟมาซิดนีย์แนะนำร้านนี้เลย
013 RaRa Ramen
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง อีกหนึ่งร้านราเมงที่เห็นคนต่อคิวยาว เลยถือโอกาสแวะชิมสักหน่อย ตัวร้านนี้แอบเห็นคะแนนรีวิวเกือบเต็ม 5 ดาว ตัวเมนูมีให้เลือกเยอะมาก มีทั้งแบบแห้ง และแบบน้ำ ตัวเส้นก็มีหลายแบบให้เลือก โดยเฉพาะเมนู Tori Paitan ที่เป็นเส้นราเมงแบบเล็กมาพร้อมหมูชาบูที่นุ่มละมุนลิ้น ตัวน้ำซุปกลมกล่อม ท็อปปิ้งด้วยข้าวโพด เป็นเมนูที่ใครมาที่นี่ต่างต้องชิมกัน
014 Bondi Beach
เติมคาเฟอีนเข้าร่างกายจนเต็มอิ่ม ก็ถึงเวลาโบกรถบัสมาเที่ยวยังชายหาดสุดชิลล์กันต่อที่ Bondi Beach หนึ่งในชายหาดริมทะเลชื่อดังของซิดนีย์ ที่ช่วงฤดูร้อนผู้คนต่างจะหยิบชุดว่ายน้ำตัวโปรดมานอนเล่นอาบแดด หรือเล่นเซิร์ฟบอร์ด กันเต็มไปหมด เป็นภาพที่แค่เห็นก็รู้สึกสนุกแล้ว แต่ช่วงที่เราไปอากาศเริ่มเย็นลง ทำให้ผู้คนที่ออกมาเที่ยวทะเลนั้นลดลงตาม
015 Bondi Iceburgs
นอกจาก Bondi Beach ที่เอาไว้นอนอาบแดด นั่งปิกนิคชิลล์ ๆ แล้ว ข้าง ๆ ยังมีสระน้ำสุดเก๋ ที่เป็นเหมือน Iconic ของที่นี่ แถมยังเป็นมุมถ่ายรูป IG Spots อีกด้วย โดยไฮไลต์ความดีงามของสระนี้คือตัวสระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมทะเลที่จะมีคลื่นซัดเข้ามาตลอดเวลา เป็นมุมที่แปลกตาจนทำให้ใครมาเที่ยวซิดนีย์ต้องแวะเวียนมาที่นี่กันแบบไม่ขาดสาย
016 Watsons Bay
จาก Bondi Beach เราเลือกนั่งรถบัสมาต่อยังจุดชมวิวทะเลที่สวยงามอีกที่ของซิดนีย์ โดย Watsons Bay เป็นย่านที่มีทั้งท่าเรือ ร้านอาหาร จุดชมวิวมากมาย แต่ไฮไลต์คือจุดดูพระอาทิตย์ตกที่เราขอยกให้เป็นมุมที่ Vibes ดีสุดของทริปนี้เลยของเราเลย
017 Camp Cove Jetty
เดินลัดเลาะชายหาด Watsons Bay มา เราจะเจอกับกระท่อมน่ารัก ๆ ที่ยื่นออกไปยังทะเล และมีวิวเมืองซิดนนีย์อยู่ด้านหน้า ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน รวมถึงเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยมากอีกที่ด้วย
018 Lightkeeper’s Cottages 1858
ไฮไลต์พีคสุดของย่าน Watsons Bay ขอมอบให้กับจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่นี่เลย โดยบริเวณนี้จะมีมุมให้นั่งเราถ่ายชมวิว พร้อมเสพบรรยากาศของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ มีวิวทะเลที่ซัดโขดหิน มีภาพวิวเรือที่แล่นไปมา แนะนำให้หาหนังสือดี ๆ สักเล่มพร้อมเปิดเพลย์ลิสต์ รับรองว่าจะหลงรักที่นี่แบบเราแน่นอน
ช่วงพระอาทิตย์ตก แสงที่นี่ดีมาก ดีจนอยากให้ทุกคนที่มาเที่ยวซิดนีย์มานั่งปล่อยใจชิลล์ ๆ พร้อมนั่งฟังเพลงและเสียงคลื่นแบบเราเลย
Day4
019 Sursry Hills
เริ่มเช้าวันใหม่ วันนี้เราขอทำตัวเป็นวัยรุ่นซิดนีย์เที่ยวย่านชิค ๆ พร้อมตะลุยชิมกาแฟกัน โดยขอเริ่มจากย่าน Surry Hills หนึ่งในย่านที่มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบาร์มากมาย นอกจากนั้นบรรยากาศของบ้านเมืองที่นี่ก็เต็มไปด้วยตึกอาหารสุดเท่ ที่ทำให้เราต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรัว ๆ
020 Single O Surry Hills
ขอเริ่มต้นที่คาเฟ่ริมถนนสุดเท่ที่เต็มไปด้วยผู้คนคึกคักทั้งในร้าน และนอกร้าน โดยที่นี่เค้าเป็นร้านที่คั่วกาแฟสดใหม่ทุกวัน ตัวเมนูกาแฟและเมล็ดก็มีให้เราเลือกเยอะ แถวร้านนี้ยังดังในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน และเกาหลีอีกด้วย
021 Reuben Hills
ถัดมาอีกซอย เราจะเจอกับร้าน Brunch ที่เค้ามีขายเมนูอาหารเช้าที่ชวนน่ารับประทานหลากหลายเมนู ตัวร้านจะเป็นตึกหนึ่งคูหาให้บรรยากาศที่เรียบง่าย มีเพลงเบา ๆ ชิลล์ ๆ ที่เหมาะกับมื้อสายของเราที่สุด
022 Bar Copains
ไวน์บาร์ Vibes สุดดี ตั้งอยู่ริมถนน Surry Hills ใครเป็นสายชิลล์อยากจิบไวน์ที่มีหลายสัญชาติ ต้องมาแวะร้านนี้ โดยที่นี่เค้าจะเสิร์ฟตั้งแต่แก้ว ขวด พร้อมกับอาหารทานเล่นเบา ๆ ใครมีวันว่าง ๆ ไม่รู้จะไปไหน เราว่าที่นี่ตอบโจทย์พวกแกทุกคนแน่นอน
023 Neighbourhood Speciality coffee
บอกแล้วว่าวันนี้เราจะขอตระเวนเก็บคาเฟ่ย่าน Surry Hills ให้หมด โดยร้านนี้เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ มีที่นั่งไม่เกิน 2-3 คน ตัวเมนูมีให้เลือกไม่เยอะมาก แต่ที่ต้องยกมาบอกทุกคนตัวกาแฟนมเค้ารสชาติดีมาก
024 Sample Coffee
ขอปิดท้ายร้านกาแฟย่าน Surry Hills ด้วยร้านนี้ โดยร้าน Sample Coffee เป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตกแต่งด้วยโทนดำแบบเท่ ๆ และมีกาแฟ Specialty ให้เราเลือกหลายเมนู แนะนำให้สั่ง Filter เมล็ด Kenya มาชิม เค้าชงได้แบบอร่อย และราคาไม่แพงอีกด้วย
025 Hyde Park
หมดไปครึ่งวันกับการตะลุยชิมย่านคาเฟ่สุดชิค ก็ถึงเวลานั่งรถมาพักผ่อนที่สวนสาธารณะกลางเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมานั่งปิกนิค สูดอากาศดี ๆ กันเต็มไปหมด โดยความดีงามของที่นี่คือเป็นสวนที่มีต้นไม้ใหญ่เยอะมาก รู้สึกถึงอากาศอันบริสุทธิ์ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา
026 St. Mary’s Cathedral
ถัดมาข้าง ๆ Hyde Park จะมีมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในนครซิดนีย์ และยังเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในออสเตรเลียตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้วย โดยมหาวิหารแห่งนี้เค้ามีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์คือส่วนยอดตรงทางเข้าของโบสถ์สองมุมที่สูงเสียดขึ้นไปบนท้องฟ้า เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ใครมาเมืองนี้ ห้ามพลาดมาแวะทำตัวชิลล์ ๆ ถ่ายรูปกับยอดบริเวณนี้กันนะ
027 Art Gallery of New South Wales
เดินลัดเลาะมาอีกนิด จะเจอกับมิวเซียมขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งรวมงานศิลปะชั้นนำของออสเตรเลีย โดยหอศิลป์นิวเซาท์เวลส์เป็นวิหารใหญ่แห่งศิลปะของซิดนีย์มาตั้งแต่ ค.ศ. 1875 ภายในตัวอาคารเค้าจะมีการนำเสนอนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นหลากหลายรูปแบบให้แก่นักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องเสียค่าเข้าชมกัน
ซึ่งผลงานด้านในจะมีให้เราเลือกชมมากมาย เริ่มตั้งแต่ศิลปะของออสเตรเลีย เอเชียและยุโรปเข้าด้วยกัน นอกจากนั้นยังมีแกลเลอรีร่วมสมัยที่ได้รับการชื่นชม การจัดแสดงผลงานศิลปะของออสเตรเลียในยุคต้น และแกลเลอรีที่จัดแสดงศิลปะของชาวอะบอริจิน และชาวเกาะช่องแคบตอร์เรสอีกด้วย
028 Harbour Bridge
ถ้านิวยอร์คมีสะพานบรูคลินฉันใด ซิดนีย์ก็มีสะพานฮาร์เบอร์ฉันนั้น ที่นี่เป็นสะพานเหล็กที่เอาไว้เชื่อมระหว่างฝั่งการค้า CBD และฝั่งทางเหนือ เปิดใช้เมื่อค.ศ. 1932 ปัจจุบันที่นี่เปรียบเหมือนแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดที่ใครมาเมืองนี้ต้องขึ้นมาถ่ายรูปเท่ ๆ เช็กอินกัน ยิ่งช่วงเย็น ๆ บริเวณสะพานนี้ผู้คนต่างชอบขึ้นมาชมวิว รับลมด้านบนกัน แถมเรายังสามารถเห็น Sydney Opera House ในมุมสูงได้อีก เอาเป็นว่าใครมาซิดนีย์แล้ว ห้ามพลาดที่จะมาที่นี่พร้อมโพสท่าเท่ ๆ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ด้านบนนี้กัน
029 Observatory Hill
อีกหนึ่งจุดที่บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ที่ผู้คนต่างจูงมือคู่รักมานั่งปิกนิคชมวิวพระอาทิตย์ตกกัน โดยที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดเล็ก ที่มีวิวอันสวยงาม สามารถนั่งชมสถาปัตยกรรมของย่านที่เก่าแก่ที่สุดในซิดนีย์อย่าง The Rocks, Sydney Harbour Bridge และสวนสนุก Luna Park ได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งชมพระอาทิตย์ตกที่น่ารัก และควรค่าแก่การมาเยือนมาก
030 Primi Italian
ปิดท้ายทริปด้วยร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนที่มีเมนูพิซซ่าเป็นตัวชุโรง โดยร้านนี้แนะนำให้ทำการจองในเว็บมาก่อน เมนูมีให้เราเลือกมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลต์หลักคือตัวพิซซ่าที่มีแป้งบางกรอบ มีกลิ่นหอมของเตาถ่าน และรสชาติฉบับพิซซ่าที่ถูกต้อง ใครอยากชิมอาหารของที่นี่ ที่รสชาติถึง เราขอแนะนำร้านนี้เลย
เที่ยวซิดนีย์ครั้งนี้ได้ทั้งชิลล์ร้านคาเฟ่สุดเก๋ ถ่ายรูปเช็กอินกับแลนค์มาร์คเท่ ๆ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีมุมที่สามารถนั่งปล่อยใจจอย ๆ กับบรรยากาศสุดโรแมนติก ใครมีแพลนเที่ยวซิดนีย์อย่าลืมลอกแพลนเรา แล้วจองตั๋วกับ Thai AirAsia X รับรองว่า ทุกคนจะหลงรักเมืองนี้แบบเรา