Summer in Chubu : Matsumoto – Nagano – Nagoya

Summer in Chubu : Matsumoto – Nagano – Nagoya

ใครที่กำลังลังเลว่าญี่ปุ่นซัมเมอร์จะสวยงามขนาดไหน ขอให้ทุกคนเปิดใจแล้วหันมองอีกที จะเห็นความกรีนน่ารักน่าหยิกมากกว่าใคร

แพลนรอบนี้เราตั้งใจมาเที่ยวในภูมิภาค Chubu กอบเก็บวิวซัมเมอร์ฉ่ำ ๆ ในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตถึง 3 เมืองทั้ง Matsumoto – Nagano – Nagoyaมุ่งตรงสู่เมืองโบราณสุดคูลคุมโทนขาวดำ ชมอาร์ตมิวเซียมจากศิลปินระดับโลกคนโปรด ก่อนพุ่งเข้าหาอ้อมอกธรรมชาติ เทือกเขา Japan Alps ตามล่าเช็กอินสปอตที่โด่งดังไปทั่วโซเชียล แชะรูปกับหมู่บ้านมรดกโลกในมุมมองที่ไม่เคยเห็นกินอาหารท้องถิ่นรสเลิศที่ใช้วัตถุดิบจากป่าหน้าร้อนอันอุดมสมบูรณ์ ก่อนแวะเมืองเจริญหูเจริญตาไปกับย่านช้อปปิ้งสุดล้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ในเวลาเพียง 5 วัน จัดเต็มขนาดนี้ไม่ตามมาไม่ได้แล้ว!!

Flight Bangkok to Nagoya

ถ้าพูดถึงความ Professional เรื่องการบินตรงสู่ญี่ปุ่น เราขอยกความดีความชอบให้ Thai AirAsia X สายการบินที่มีเส้นทางบินตรงสู่ญี่ปุ่นหลากหลายเมือง ล่าสุดเขากลับมาบินตรงนาโกย่าแล้วทุกคน!!!

โดยจะมีถึง 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ (ทุกวันจันทร์, พุธ, พฤหัสบดี และอาทิตย์)

XJ 638 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)* – นาโกย่า เวลาออก 00:45 น. เวลาถึง 08:40 น.

XJ 639 นาโกย่า – กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)* เวลาออก 10:30 น. เวลาถึง 14:35 น. 

แต่ขอกระซิบนิดนึงว่า.. ตั้งแต่ 1 ตุลาคม นี้ เขาจะย้ายมาบินดอนเมืองแล้วนะ

สามารถจองตั๋วได้ที่ https://air.asia/fhkWQ หรือแอป AirAsia MOVE

รอบนี้เราอัปเกรดที่นั่งเป็น Premium Flatbed กับเครื่องบินลำใหม่กว้างขวางกว่าเดิม มีทั้งเบาะที่เอนนอนได้ พร้อมหมอนผ้าห่ม อาหารร้อน ๆ เครื่องดื่มเย็น ๆ มีที่ชาร์จแบตพร้อม!! เหมาะสมกับคนแพลนแน่นที่ต้องเที่ยวตั้งแต่แลนดิ้งอย่างเรา

Travel Plans

Day 0 BKK – Nagoya

Day 1 Nagoya – Matsumoto 

  • Matsumoto Karaage Center
  • Matsumoto Castle
  • Matsumoto City Museum of Art
  • Mensho Sakura Ramen

Day 2 Matsumoto – Hakuba

  • Hakuba Iwatake Mountain Resort
  • Chavaty Hakuba
  • Obuse Village
  • Kanae Teuchi Sobadokoro
  • Sakurai-Kanseido Cafe Sakura

Day 3 Nagano – Ainokura Village

  • Kamikochi
  • Takayama Old Town
  • Shirakabe Dozogai
  • Shirakawa-go
  • Takazuri Guest House

Day 4 Ainokura Village – Nagoya

  • Ainokura Gassho-Zukuri Village
  • Oyasumi-dokoro Chaya Matsuya
  • Hitsumabushi Hanaoka

Day 5 Nagoya

  • Nagoya Castle 
  • Port of Nagoya Public Aquarium
  • Osu Kannon Temple
  • Osu Shopping Street
  • Cafe Villa
  • Nagoya City Science Museum
  • DAYDAYseoul nagoya
  • Sakana Factory
  • Sakae

Day 6 Nagoya – BKK

การเดินทางในประเทศ

รอบนี้เราเลือกใช้บริการรถเช่าในการเที่ยวตลอดทริป เพราะข้อดีของการโร้ดทริปหน้าร้อนญี่ปุ่นคือ สะดวกสบายในการไปไหนมาไหน ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรอบรถ แถมบางสถานที่เหมาะแก่การขับรถไปกว่ารถประจำทางอีก ทริปนี้เราเลือกจองรถผ่านแอปฯ Trip.com มีตัวเลือกให้เลือกเยอะมาก ราคาตกอยู่วันละ 1,500 บาท++ เท่านั้น ค่าน้ำมันก็ไม่แพง แต่ถ้าไปกันหลายคนหารกันแล้วเผลอ ๆ คุ้มกว่าการซื้อ Pass รถไฟอีกนะ

ใครอยากเปิดประสบการณ์ขับรถเที่ยวหน้าร้อนญี่ปุ่น แนะนำให้ทำใบขับขี่สากลแล้วจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวตามทริปนี้ของเราเลย

Day 1 Nagoya – Matsumoto 

ลงเครื่องปุ๊บ เรานั่งรถไฟมาสู่เมือง Matsumoto จากนั้นค่อยเช่ารถเพื่อจัดโร้ดทริปกันยาว ๆ แล้วเอารถไปคืนอีกทีที่เมือง Nagoya

Matsumoto Karaage Center

พิกัดแรกเราขอประเดิมด้วยอาหารท้องถิ่นชุดใหญ่เอาให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันสักกรุบ ณ ร้าน ‘Matsumoto Karaage Center’ อยู่บริเวณ JR Matsumoto Station กับเมนูคาราเกะ ของขึ้นชื่อระดับ B-class gourmet อาหารที่มีรสชาติระดับ A-Class แต่หากินง่าย เราสั่งเป็น Sanzokuyaki Plate ขนาดไซซ์ Regular ก็ยังถือว่าเยอะมากกก และ Nanban Fried Chicken ที่เสิร์ฟมาคู่กับซอสคล้ายซาวร์ครีม ไก่ทอดของเขาจะโดดเด่นเรื่องความกรอบนอกนุ่มใน มีความจุยซ์ของเนื้อไก่ทุกสัมผัส ตัดเลี่ยนด้วยผักและซุปทำให้กินเพลินแบบไม่แบ่งใครได้เลย 

⏰ ทุกวัน 11:00 – 20:00 น. 

Non-scheduled holiday

📍https://maps.app.goo.gl/DGn3Dmc6L93EhWsf7

Matsumoto Castle

หากใครมาเมืองนี้ครั้งแรกก็ไม่ควรที่จะพลาดชม ‘Matsumoto Castle’ สถานที่ที่ให้เราทราบความเป็นมาของเมืองได้อย่างลึกซึ้ง เป็นปราสาทไม้ที่เก่าแก่และสมบูรณ์มากในญี่ปุ่น สร้างเมื่อปี 1592 – 1614 โดดเด่นด้วยสีดำตัดขาวสุดเท่ดูแข็งแกร่ง จนถูกเรียกว่า ‘ปราสาทอีกา’ มีกลไกในการสู้รบมากมายไม่ว่าจะเป็น ช่องเปิดสำหรับทิ้งหินใส่ศัตรู ช่องลับสำหรับยิงธนู ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ เล่าเรื่องราวของเมืองไว้อย่างละเอียด จนไปถึงชั้นบนซึ่งเป็นจุดชมวิว 360 องศา เห็นภาพเมืองที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงใหญ่รอบด้าน ในช่วงใบไม้ผลิยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการนั่งชมซากุระอีกด้วย ถือเป็นสปอตที่เรียกเสียงกรี๊ดในใจได้ดังพอสมควรเลย

⏰ ทุกวัน 08:30 – 17:00 น. (Last admission 16:30 น.) 

ปิดช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 1 มกราคม

📍https://maps.app.goo.gl/b23aMGrmabXsj2X88

Matsumoto City Museum of Art

โลเคชันนี้ปักหมุดไว้ตั้งแต่เริ่มทำแพลน ‘Matsumoto City Museum of Art’ ด้วยเมืองนี้เป็นบ้านเกิดของ Yayoi ศิลปินชื่อดังก้องโลก เจ้าของผลงานลายจุดที่เกิดจากภาพหลอนที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ่ายทอดไปยังงานศิลปะสีฉูดฉาดได้อย่างมีเสน่ห์ เราจึงไม่พลาดที่จะมาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพราะเขาได้จัดแสดงงาน installation ของเธอหลายชิ้น รวมถึงการตกแต่งที่แอบซ่อนลายจุดเป็นมุมถ่ายรูปอีกเพียบ!! นอกจากนี้ยังมีผลงานของศิลปินชาวญี่ปุ่นอีกหลายท่านที่น่าสนใจ และฟอร์มอาคารถูกออกแบบมาอย่างโมเดิร์น สาย architect ก็สามารถมาชักภาพสวย ๆ ได้เช่นกัน

⏰ อังคาร – อาทิตย์ 09:00 – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุด จะปิดทำการวันถัดไปแทน และปิดช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม

📍https://maps.app.goo.gl/Vt1SLNb3jYqBjJWB7

Nawate Shopping Street

ช้อปปิ้งสตรีทธีมคิวต์ สำหรับสาวกน้องกบจะต้องใจละลาย ‘Nawate Shopping Street’ กลุ่มอาคารญี่ปุ่นย้อนยุคสีเข้มโทนเดียวกับปราสาท ที่ถูกจริตคนชอบความคุมธีมอย่างเราสุด ๆ ตลอดระยะทางเราจะเห็นการตกแต่งด้วยรูปปั้นกบหลายดีไซน์จำนวนมาก นั่นเป็นเพราะที่นี่ตั้งอยู่ริมน้ำและมักจะเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงกบ ร้องออกเสียงเป็น ‘Kaeru’ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่ากลับบ้าน จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการกลับบ้านอย่างปลอดภัย ไฮไลต์คือร้านขนมที่บางร้านเปิดมาตั้งแต่ปี 1923 มีให้เลือกทั้งขนมโบราณ ไปจนถึงเบเกอรี ไอศกรีม คาเฟ่สมัยใหม่ ของสะสมวินเทจ และของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้เราได้เริ่มละลายทรัพย์ตั้งแต่วันแรกเลย
📍https://maps.app.goo.gl/WS8Pp5LNptRecVMt7

Mensho Sakura Ramen

มื้อเย็นวันนี้ขอเอาใจสายเส้นที่ร้าน ‘Mensho Sakura Ramen’ ร้านชื่อดังประจำเมืองที่อยู่ในอาคารย้อนยุคสีขาวดำ มีเอกลักษณ์อยู่ที่วัตถุดิบ ‘ชินชูมิโซะ’ มิโซะที่ผลิตใน Nagano เราสั่งเป็น Sakura Miso Ramen no.1 กับ Seafood miso เสิร์ฟมาเราจะเห็นน้ำซุปเนื้อข้นหอมกลิ่นซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเป็นเนื้อเดียวกับเครื่องปรุง รสชาติเค็มหวานอูมามิ กินกับเส้นที่ลวกมาแบบนุ่มหนึบแซมกับหมูชาชูย่างที่มีมันแทรกฉ่ำ ๆ  แล้ว มันเข้ากันดี เหมาะเป็นมื้ออุ่นท้องก่อนเข้านอนสุด ๆ แนะนำให้กะเวลามาดี ๆ เพราะคิวร้านช่วงเวลามื้ออาหารค่อนข้างยาวเลยล่ะ

⏰ ทุกวัน 11:30 – 15:00 น. และ 17:30 – 22:00 น. 

Non-scheduled holiday

📍https://maps.app.goo.gl/sj72Qg6HwA8dFdZc6

Day 2 Matsumoto – Hakuba 

เดย์สองเรามุ่งตรงสู่ธรรมชาติในขุนเขาแห่ง Nagano เริ่มที่ ‘Hakuba Iwatake Mountain Resort’ ยอดเขาสุดป็อปที่มีวิวสุดแกรนด์ให้เราได้เช็กอิน โดยสามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู ที่มอบความงดงามแตกต่างกันไป พร้อมกิจกรรมที่รองรับทั้งช่วง Green Season และ Winter Season ขั้นตอนแรกเราจะต้องซื้อตั๋วนั่ง Iwatake Gondola กันเสียก่อน ราคากระเช้าทั้งขาไป-กลับอยู่ที่ 2,400 เยน พาเราขึ้นไปยังความสูง 1,289 เมตร ทัศนียภาพที่เห็นเบื้องล่างจะมีทั้งผืนป่าเขียวสบายตา เมื่อเคลื่อนตัวขึ้นไปก็จะกลายเป็นมุมมองที่กว้างขึ้น เป็นวิวเมืองที่ห้อมล้อมเทือกเขายิ่งใหญ่จนไม่กล้ากะพริบตา 

⏰ ทุกวัน 08:30 – 17:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/Jt2pa5v5adamhd4k8

ไฮไลต์แรกคงหนีไม่พ้น HAKUBA MOUNTAIN HARBOR จุดชมวิวระเบียงกระจกที่ยื่นออกไปนอกหุบเขา เห็นภาพเทือกเขาฮิดะแบบไม่มีอะไรขวางกั้น สมมง Japan Alps พร้อมกับคาเฟ่รสชาติดีให้เราเติมกาแฟยามเช้า หากใครอยากได้ความเสียวไส้เพิ่มอีกนิดแนะนำให้ไปเล่น Yoo-Hoo! SWING  ชิงช้าริมผาให้เราแกว่งตัวพุ่งออกไปนอกพื้นดิน อีกอรรถรสในการชมวิว ช่วงที่เรามาแม้เป็นหน้าร้อน แต่บนนี้อากาศกำลังสบาย ๆ ราว ๆ 27 องศาเท่านั้นเอง

จากนั้นก็ลงมาฮอปคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติกันต่อที่ ‘CHAVATY HAKUBA’ ร้านขายกาแฟและสโคนอบสดใหม่ยอดนิยมในโอโมเตะซานโดะ แห่งโตเกียว และอาราชิยามะ ที่เกียวโต ด้วยโลเคชันที่เป็นลานโล่งกว้าง เน้นโซนเอาท์ดอร์ ใช้ชุดที่นั่งของตกแต่งฟอร์มแปลกตา ทำให้มีจุดถ่ายรูปเช็กอินเยอะพอสมควร เราลองสั่งมัทฉะลาเต้มาชิม เนื้อชามีความหอมกลมกล่อมเข้มข้นไปด้วยกลิ่นชาเขียว ส่วนเมนูสู้แดดต้องยกให้ไอศกรีม Muscat & Jasmine Tea รสชาติองุ่นหวานอมเปรี้ยวโชยมากับกลิ่นชาหอมละมุน มีสัมผัสเย็น ๆ ช่วยรีเฟรชให้เที่ยวต่อได้ชิล ๆ โดยเมนูนี้จะเสิร์ฟถึงกลางเดือนกันยาเท่านั้น!!!

⏰ ทุกวัน 09:30 – 15:30 น.

📍 https://maps.app.goo.gl/qu2LfPeZRprtRNFHA

Obuse Village

ลงสู่ภาคพื้นดินแล้วมาดื่มด่ำวิถีชาวเมือง Nagano กันต่อใน ‘Obuse Village’ ย่านเมืองเก่าที่มีสมญานามว่าเมืองเกาลัด เพราะสภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์จึงปลูกพืชได้ดี มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำจากเกาลัด และเป็นแหล่งพักใจของศิลปินชั้นยอดยุคโบราณ ที่ใครเห็นผลงานเป็นต้องร้องอ๋อ!!! นั่นคือ Hokusai เจ้าของภาพวาดคลื่นยักษ์ที่กลายเป็นภาพเอกลักษณ์ประจำชาติ ความเป็นมาของที่นี่เริ่มขึ้นราว ๆ ปี 1603-1867 จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคเอโดะ ที่ยังคงไว้แบบดั้งเดิม บ้างมีการต่อเติมให้ดูเข้ากับยุคสมัย แต่ใด ๆ คือทำออกมาได้แนบเนียน ถ่ายรูปออกมาแล้วน่ารักเป็นบ้า

⏰ ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/WFamNYNknSgG4iJB7

Kanae Teuchi Sobadokoro

ส่วนอาหารท้องถิ่นที่คู่ควร ขอแนะนำ ‘Kanae Teuchi Sobadokoro’ ร้านโซบะตัวท็อป เป็นร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ในบ้านญี่ปุ่นโบราณ ถูกดูแลอย่างดี ดูสะอาดสะอ้าน ภายในอบอุ่นไปด้วยสีน้ำตาลและไฟส้ม โซนที่นั่งเลือกได้ทั้งแบบเคาน์เตอร์บาร์-เสื่อทาทามิ เมนูชูโรงของร้านจะเป็นบรรดาโซบะโฮมเมดจากเมล็ดบัควีตแท้ 100% ทำให้มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ เส้นจะมีความกรุบเรียกว่าจูวาริโซบะ แต่ถ้าอยากได้ความนุ่มหนึบ ลองแบบนิฮาจิโซบะ ที่จะผสมแป้งสาลีเข้ามาหน่อย ไม่ว่าจะกินแบบเย็นหรือร้อนก็ฟินพอกัน เราสั่งเป็นชุดที่เสิร์ฟมากับเทมปะรุทอดเหลืองกรอบ ภายในเป็นกุ้งตัวโตเด้ง ๆ หวาน ๆ และผักที่สดกรอบ จุ่มกับซอสรสเค็มผสมไชเท้า วาซาบิแล้ว อร่อยแบบตาวาวเลย 

⏰ เปิดศุกร์ – อังคาร 11:30 – 15:00 น. (ปิดทุกวันพุธ-พฤหัสบดี)

📍https://maps.app.goo.gl/2Vbrw7FMWMtGFzyYA

Sakurai-Kanseido Cafe Sakura

รูปทรงคลาสสิกของร้าน ‘Sakurai-Kanseido Cafe Sakura’ เป็นการเปลี่ยนคฤหาสน์ของตระกูล Takatsu ให้กลายเป็นกลุ่มร้านค้าที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และคาเฟ่ ตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณหัวมุมถนน จนกลายเป็นจุดนัดพบยอดฮิตของย่านนี้ เราตั้งใจมาลิ้มลองไอศกรีม Mont Blanc เกาลัด ไอศกรีมรสนมที่ท็อปด้วยเนื้อเกาลัดบด มีความนัวหนึบเข้มข้น รสชาติมัน ๆ เข้ากับนมหวานได้อย่างละมุนละไม ส่วนเรื่องของฝากนั้นแนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเกาลัด โซบะ และผักแปรรูปตามฤดูกาล ฯลฯ บอกเลยว่าเด็ดมาก

⏰ พุธ-อาทิตย์ 09:30 – 16:30 น. (ปิดทุกวันจันทร์-อังคาร)

📍https://maps.app.goo.gl/EyYYiqC6xtRGhoJA9

Day 3

Kamikochi

วันนี้วอร์มขาให้พร้อม นอนกันให้พอ เพราะเราจะพาทุกคนมาเทคไทม์ท่ามกลางธรรมชาติฉ่ำ ๆ อีกจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ‘Kamikochi’ เขตอุทยานให้เราได้ใกล้ชิดเทือกเขา Japan Alps มากที่สุด ชมความงดงามราวภาพวาด ซึ่งหน้าร้อนนี้เราก็จะเจอความกรีนคลีนตา อากาศสดใส พร้อมน้ำใสไหลเย็นที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง มีรูทให้เดินเที่ยวมากมายตั้งแต่รูทครึ่งวันยันค้างคืน ของเราขอเน้นชิล ๆ เริ่มเดินจากป้ายรถ Taisho Pond เลาะริมน้ำไปเรื่อย ๆ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่อลังการชวนตื่นตะลึง ผ่าน Tashiro pond รวมเวลาแวะถ่ายรูปแวะนั่งเล่นแล้ว ใช้เวลาไปราว ๆ สองชั่วโมงก็มาถึงไฮไลต์อีกจุด

⏰ ทุกวัน 05:00 – 19:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/Jg6ebQBBAEkB6CAc7

นั่นก็คือ ‘Kappa Bridge’ สะพานแขวนอันยิ่งใหญ่ ไอคอนิกประจำ Kamikochi  ที่มีพื้นหลังเป็นเทือกเขาสูงระหว่างที่ตอนนี้กำลังมีพืชพรรณสีเขียวแต่งแต้ม หากมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีรอบ ๆ จะถูกฉาบด้วยสีส้มเหลืองแดงงดงาม และในฤดูหนาวก็จะเป็นภาพหิมะขาวโพลน เรียกว่ามาตอนไหนก็เจอแต่ภาพปัง ๆ แน่นอน!! โดยฤดูท่องเที่ยวของ Kamikochi จะเปิดให้เยี่ยมชมตั้งแต่ 17 เมษายน – 15 พฤศจิกายนของทุกปีเท่านั้น ช่วงอื่นจะไม่มีร้านค้าหรือรถให้บริการ ถ้าอยากมาเที่ยวหน้าหนาวแนะนำให้จ้างไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยว เพราะเส้นทางปกคลุมด้วยหิมะค่อนข้างลื่นและอันตราย 

Takayama Old Town

ช่วงบ่ายเรารีบบึ่งมายังเมืองเก่าที่หลายคนโปรดปราน ‘Takayama Old Town’ หมู่บ้านในหุบเขาที่ยังคงสถาปัตยกรรมโบราณยุคเอโดะเอาไว้อย่างสมบูณ์ ประหนึ่งได้ย้อนเวลากลับไปเลยทีเดียว เราสามารถเดินลัดเลาะอยู่ในหมู่บ้านได้ไม่มีเบื่อ ได้ชมวิถีชีวิตอันแสนสงบ แล้วยังได้เลือกซื้อของที่ระลึก เลือกชิมของพื้นเมืองประจำถิ่นได้ชิล ๆ เมนูห้ามพลาดคือ Hida Beef Sushi เนื้อฮิดะอันโด่งดังที่นุ่มจนแทบละลายในปาก น้ำซอสกับน้ำเนื้อผสมกันอย่างกลมกล่อม กินคู่กับ Senbei Plate ข้าวเกรียบกรอบ ๆ แล้วมันอร่อยเกินเรื่องเกินราวจนต้องกลับมาซ้ำอีกหลาย ๆ รอบเลย 

⏰ ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น.

📍 https://maps.app.goo.gl/QiQKZPCZuETAB7W48

Shirakabe Dozogai

จากนั้นเรามุ่งหน้ามาที่ Hida Furukawa อีกเมืองเก่าที่อยู่ไม่ไกลนักจาก Takayama เพื่อมาชมสปอตสุดฮอตระเบิดโซเชียล ‘Shirakabe Dozogai’ ถนนคนเดินที่เรียงรายไปด้วยโกดังโบราณกำแพงสีขาว มีธารน้ำไหลผ่านซึ่งเป็นระบบระบายน้ำสมัยเอโดะ ยาวราว ๆ 400 เมตร มองเผิน ๆ จะเหมือนทางระบายน้ำทั่วไป แต่มันจึ้งตรงความใสสะอาดจนปลาคาร์ปสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ แล้วสีของน้องปลายังเป็นสีส้ม แดง ขาว พอขับกับธารหินสีดำ มันดึงสายตาให้เราต้องหยุดดูตลอดทาง ประหนึ่งเป็นตู้ปลาเคลื่อนที่ เดินชมเมืองได้เพลินสุด ๆ
📍https://maps.app.goo.gl/N8Smvhc9yzKGGHro6

Shirakawa-go

ตกเย็นเรามาเดินเล่นชมธรรมชาติกันต่อที่ Shirakawa-go หมู่บ้านมรดกโลกที่หลายคนคงเคยมาหรือเคยเห็นกันบ้างแล้ว แต่รับรองว่าบรรยากาศซัมเมอร์แบบนี้ น้อยคนนักจะได้สัมผัส ซึ่งภาพที่เห็นนั้นเต็มไปด้วยต้นข้าวสีเขียวฟูฟ่องปูเต็มพื้นที่ แซมกับบ้านทรง Gassho-Zukuri บ้านไม้โบราณที่มีหลังคาทรงจั่วมุงหญ้าเป็นชั้นหน้าลาดเอียง 60 องศา ทำหน้าที่ป้องกันหิมะในช่วงหน้าหนาว ที่กระจายกันอยู่อย่างน่ารัก แถมนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก เป็นการเดินเล่นใน Shirakawa-go ที่สงบเงียบและชิลที่สุดเท่าที่เคยพบเจอเลย
📍https://maps.app.goo.gl/8x2FxsKm3CuFUNfZ7

แน่นอนว่าเราต้องไปพลาดที่จะขึ้นมาอำลาพระอาทิตย์กัน ณ จุดชมวิวที่อยู่บนเนินเขาใกล้ ๆ กับ Bus Station หากใครขับรถมาก็จะชิลหน่อย เพราะสามารถขับรถขึ้นมาจอดด้านบนได้เลย แต่ถ้ามารถบัสก็คงต้องพึ่งกล้ามขากันนิดนึง แต่เดินประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว รับรองว่าวิวที่เห็นมันคุ้มค่าความเหนื่อยสุด ๆ ครั้งก่อน ๆ เราจะชินกับภาพหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่รอบนี้สีขาวได้ถูกแทนที่ด้วยความเขียวขจี ทั้งบนภูเขาและพื้นราบ เห็นแล้วมันดูมีชีวิตชีวาสบายตามาก ๆ 
📍https://maps.app.goo.gl/SWDfD4SYrPWDu8ty9

ช่วงแสงเย็นบรรยากาศในหมู่บ้านนี้ดีมาก เงียบสงบไร้ผู้คน ถ้าใครมีเวลาอยากแนะนำให้มานอนสัมผัสกับธรรมชาติที่นี่กันสักคืน

Takazuri Guest House

หากมาละแวกนี้เมื่อไหร่ สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนได้ทำคือการนอนใกล้ชิดชาวบ้าน ลองชีวิตบนภูเขาสักครั้ง เรามานอนที่ ‘Takazuri Guest House’ อยู่ใกล้ ๆ กับ Ainokura Village ที่เราจะไปในวันพรุ่งนี้ เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นสูง 2 ชั้น ภายนอกแม้จะดูธรรมดา แต่ข้างในรีโนเวทให้ดูโคซี่โมเดิร์น อบอุ่นน่าอยู่สุด ๆ เขาได้จัดวางเฟอร์นิเจอร์วินเทจ ผสานของตกแต่งงานคราฟต์ได้อย่างมีรสนิยม จัดโซนห้องน้ำ ล็อกเกอร์ ห้องอาบน้ำอย่างเป็นระเบียบ ห้องนอนจะมีให้เลือกทั้งแบบส่วนตัวเป็นปูฟูกนอนบนเสื่อทาทามิ และห้องรวมที่เป็นเตียง 2 ชั้น

📍https://maps.app.goo.gl/jUsqHHqX8rcx4jhF8

Day4

Ainokura Gassho-Zukuri Village

หากดูเผิน ๆ นึกว่าตัวเองยังอยู่ที่เดิม แต่ความจริงเราย้ายมาที่ ‘Ainokura Village’ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกเช่นกัน ตั้งอยู่ในหุบเขาลึก ช่วงเช้าแบบนี้จะมีความเงียบสงบแบบเต็มสิบ โดยที่นี่ก็มีบ้านทรง Gassho-Zukuri เช่นกัน แตกต่างกันที่เมื่อวานเป็นแบบกระจายตัว ที่นี่เป็นแบบกระจุกรวมกันราว ๆ 20 หลัง บางหลังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ฟาร์มสเตย์ ร้านขายของ และกิจกรรมเวิร์กช็อปทำกระดาษวาชิ กระดาษโบราณที่ถูกใช้มานับพันปี เห็นแล้วติดใจในความกรีนเลยขออยู่ยาว ๆ เต็มวันไปเลย

📍https://maps.app.goo.gl/dChWbMnpcHr2aUpW7

Oyasumi-dokoro Chaya Matsuya

เหลือบไปเจอบ้านหลังหนึ่งที่หน้าตาเหมือน Gassho-Zukuri ทั่วไป แต่ชั้นล่างเปิดโล่งกว้างเป็นกึ่งเอาต์ดอร์ มีชื่อว่า ‘Matsuya’ ร้านขายของฝากที่จัดวางโต๊ะรับประทานอาหารแน่นขนัด จัดเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นที่จะเปลี่ยนไป 4 ครั้งตามฤดูกาล ยืนพื้นด้วยเมนูโซบะ อูด้ง เราสั่งเป็น Cold soba noodles ที่มาพร้อมเทมปุระจานโต ทำด้วยผักป่าที่หาได้ในช่วงนี้ มีจานเคียงเป็น Gokayama Tofu เต้าหู้สูตรพิเศษเฉพาะท้องถิ่นที่กินเย็น ๆ แล้ว มันนุ่มหนึบไร้กลิ่นกวนใจ และ Onigiri ข้าวปั้นหน้าบ๊วยดอง ฟีลลิ่งอาหารรสมือแม่สุด ๆ แต่ถ้ายังไม่อิ่มก็สามารถสั่งโซบะ/อูด้งร้อนแยกมากินเพิ่มก็ไม่ติดเช่นกัน

⏰ ทุกวัน 11:00 – 15:30 น.

📍 https://maps.app.goo.gl/GMYPKTf74JaSLU4RA

Hitsumabushi Hanaoka

หลังจากพวกเราตีรถกลับกันมายาว ๆ ก็ขอจัดกับเมนูยอดฮิตอย่างข้าวหน้าปลาไหล ยิ่งมาเที่ยวนาโกย่ายิ่งต้องลอง เพราะที่นี่เป็นสูตรข้าวหน้าปลาไหลที่มีเฉพาะในเมืองนาโกย่านี้เท่านั้น!

ความพิเศษของข้าวหน้าปลาไหลร้าน HITSUMABUSHI HANAOKA คือการที่ใช้ถ่าน Bincho ในการย่างปลาไหล ใส่ใจกับการใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าว น้ำซอส ทุกอย่างล้วนเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน หลังจากที่ได้ลองรับประทานดูแล้ว สัมผัสได้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบ และความพิถีพิถันในขั้นตอนการทำตั้งแต่การย่างจนถึงการเสิร์ฟเลยทีเดียว

⏰ ทุกวัน 11:00 – 15:00 น., 17:00 – 22:00 น.

📍 https://maps.app.goo.gl/snMVPVovnqj3cnGd9 

Day 5 : Nagoya

Nagoya Castle

วันสุดท้ายเราขับกลับมาที่ Nagoya สปอตแรกตั้งใจมาที่ ‘Nagoya Castle’ ปราสาทที่ได้ขึ้นเป็นสมบัติของชาติแห่งแรก และถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อปี 1615 บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์โอวาริผู้ปกครองในสมัยนั้น ก่อนถูกทำลายจากการโจมตีทางอากาศ และถูกสร้างขึ้นใหม่ให้คล้ายเดิม เปิดให้ผู้คนเข้าชมเมื่อ 2018 แต่ช่วงที่เรามาเขาปิดซ่อมแซมภายในอยู่ คาดว่าน่าจะปรับปรุงยาว ๆ เพราะเป็นการแก้โครงสร้างใหม่ เราเลยเดินเล่นในสวนสาธารณะรอบ ๆ แทน เห็นแดดแรง ๆ แบบนี้ แต่มันชิลมากเลยนะ มีร้านค้ามาขายขนมเครื่องดื่มให้ได้ถ่ายรูปน่ารัก ๆ ด้วย หรือใครจะมาช่วงซากุระก็เลิศไม่แพ้กัน

⏰ ทุกวัน 09:00 – 16:30 น

ตอนนี้ยังไม่เปิดให้เข้าชมด้านในปราสาท

ปิดช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 1 มกราคม

ค่าเข้า 500 เยน สำหรับเด็กมัธยมต้นลงไป เข้าฟรี

📍https://maps.app.goo.gl/L1hVx4xeMTkJUn3L7

Port of Nagoya Public Aquarium

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในอาคารนั้นมีน้อนโลมาที่ฉลาด แสนรู้ ดูน่ารักขี้เล่น เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี เจอดาเมจความน่ารักแบบนี้ว่ารู้สึกแพ้แล้ว แต่ก็ต้องยอมแพ้ยิ่งกว่าเมื่อได้เจอกับเจ้าวาฬออก้าที่ขนาดแตกต่างกันมาก แต่ความแบ๊ว น่ารักใส ๆ ที่มีให้กับเรา ไม่แพ้เจ้าโลมาเลยทีเดียว ยิ่งมาเจอกับวาฬเบรูก้าอีก บอกเลยขออยู่ตรงนี้นาน ๆ เลยได้มั๊ย

⏰ ทุกวัน 09:30 – 20:00 น.

ค่าเข้า 2,030 เยน (สำหรับเด็กประถมและมัธยมต้น 1,010 เยน และเด็กอายุมากกว่า 4 ปี 500 เยน)

📍 https://maps.app.goo.gl/UpATYZLaasmss5Hk8

นอกจากความน่ารักของเหล่าโลมาแล้ว ที่นี่ยังมีสัตว์ทะเลน้ำลึก และฝูงปลาซาดีนหลายร้อยตัวแหวกว่ายผ่านแสงไฟเปล่งประกายระยิบระยับให้เราได้ชมอีกด้วย 

Osu Kannon Temple

สายมูต้องจดพิกัดนี้กันแบบรัว ๆ ‘Osu Kannon Temple’ วัดคู่บุญเมืองนาโกย่าที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1333 เดิมตั้งอยู่ที่เมือง Owari (หรือเมือง Gifu ในปัจจุบัน) ก่อนจะถูกย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อปี 1612 เป็นวัดศาสนาพุทธหลักของเมือง ลานรอบ ๆ วัดเรียกว่าสงบเงียบคอนทราสต์จากความวุ่นวายภายนอกมาก ๆ ตัววิหารหลักถูกฉาบด้วยสีแดงสดตัดด้วยสีขาว เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าคันนง ทำจากการแกะสลักไม้ เชื่อว่ามีอายุยาวนับ 1,200 ปีมาแล้ว นอกจากเป็นแหล่งรวมจิตใจแล้วยังเป็นสถานที่เก็บโบราณวัตถุแรร์ ๆ เอาไว้ด้วย

⏰ ทุกวัน 06:00 – 19:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/xU5f1uQaSKmMquTj9

Osu Shopping Street

เดินถัดมาจากวัดไม่กี่ก้าวก็มุ่งสู่แหล่งละลายทรัพย์ชั้นดี ที่เราตั้งใจแพลนไว้วันสุดท้าย ‘Osu Shopping Street’ เริ่มจากการย้ายวัด Osu Kannon Temple มาที่นี่เมื่อ 400 ปีก่อน ทำให้ละแวกนี้เริ่มคึกคัก จนปัจจุบันกลายเป็นถนนคนเดินที่ทอดยาว และอัดแน่นไปด้วยร้านค้ามากกว่า 1,200 ร้าน ครบครันทุกสินค้าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง ยา เครื่องใช้ไฟฟ้า กาชาปอง ฟิกเกอร์ รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับแบรนด์ชั้นนำ ของอาร์ตเท่ ๆ เก๋ ๆ จากศิลปินพื้นเมือง รวมไปถึงสตรีทฟู้ด อาทิ เกาลัด ไก่ทอด ซาลาเปาย่าง ซอฟต์เสิร์ฟ และยังเป็นสถานที่จัดงานสำคัญ ๆ อีกมากมายด้วย

⏰ ทุกวัน 11:00 – 20:00 น.  (ขึ้นอยู่กับร้านค้าแต่ละร้าน)

📍https://maps.app.goo.gl/sCSh7yMUxE2Mbjpo8

Cafe Villa

เข้าเมืองมาแล้วเราไม่ลืมที่จะเอาใจสายคาเฟ่ ‘Cafe Villa’ ร้านขวัญใจวัยรุ่นนาโกย่า ที่ตกแต่งร้านให้ดูคลาสซี่มินิมอลสีขาวคลีน ตัดสลับกับสีดำและเทาจากพื้นและภาพกราฟฟิก ทำให้ร้านดูสุขุมและเก๋ไก๋ไปในตัว เมนูของร้านจะมีเครื่องดื่มและขนมไม่กี่อย่าง เราสั่ง Brownie เนื้อฟัดจ์รสชาติหวาน ๆ รสติดขมปลาย ๆ กินคู่กับลาเต้ก็ละมุน หรือจะเป็นกาแฟดำก็ช่วยตัดรสชาติได้อย่างหนักแน่น แล้วร้านเขายังเป็น Pet friendly เวลามีน้องหมาเดินเข้ามาก็ทำใจหวั่นไหวทุกที แต่ไม่กล้าเข้าไปเล่นด้วยเพราะพูดกับเจ้าของไม่เป็น 

⏰ อาทิตย์ – ศุกร์ 11:00 – 19:00 น. (last order 18:30 น.) / เสาร์ 11:00 – 21:00 น. (last order 20:30 น.)

📍https://maps.app.goo.gl/4RMwt3kLTC3m5RTC6

Nagoya City Science Museum

แลนด์มาร์กประจำเมืองที่ไม่ซ้ำใครในญี่ปุ่น ‘Nagoya City Science Museum’ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่มีดีไซน์ล้ำสมัยใหญ่โตชวนโอโหหห.. กับลูกบอลเหล็กขนาดใหญ่สูงถึง 35 เมตรที่ลอยเหนือพื้น ภายในนั้นเป็นท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ส่วนพาร์ทอื่น ๆ มีทั้งงานจัดแสดงถาวรและหมุนเวียน ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ เช่น ด้านชีวภาพ ดาราศาสตร์ เทคโนโลยี การเกิดพายุ และวิวัฒนาการตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ใช้การ Present ที่เน้นให้เรามีกิจกรรมร่วมจึงไม่น่าเบื่อสำหรับเด็ก แถมยังเป็นคลังความรู้อันเลอค่าสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราด้วย 

⏰ อังคาร – อาทิตย์  09:30 – 17:00 น. (Last admission 16:30 น.)

ปิดทุกวันจันทร์ แต่ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุด จะปิดทำการวันถัดไปแทน 

ปิดวันศุกร์ที่สามของเดือน แต่ถ้าเป็นวันหยุด จะปิดทำการวันศุกร์ที่สี่ของเดือนแทน และปิดช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม

📍https://maps.app.goo.gl/RW8yZgDDr4hJDwYTA

DAYDAYseoul nagoya

คาเฟ่ที่เหมาะกับคนเท่อย่างเรา ๆ ‘DAYDAYseoul nagoya’ ด้วยการตกแต่งทั้งร้านด้วยโทนสีเทาจากงานสแตนเลส และงานปูน แอบซ่อนอยู่ในอาคารอิฐเหลืองทรงคลาสสิกติดกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เมนูของร้านมีทั้งกาแฟ ชา โซดาและขนม 4-5 อย่าง จัดเสิร์ฟแบบมินิมอลเรียบโก้ไม่แพ้ใคร อีกสาขาอยู่ที่ชิซุโอกะ ส่วนเมืองอื่น ๆ จะเปิดเป็นร้านขายสินค้าของแบรนด์ ซึ่งเป็นดีไซน์แนวสตรีท ทั้งเสื้อ กางเกงยีนส์ฟอกสีวินเทจ pocket vest ฯลฯ ใครเป็นสายแฟไม่ควรพลาดเลย

⏰ อาทิตย์-พุธ 11:00 – 18:30 น. (ปิดพฤหัสบดี)

ศุกร์ เสาร์ 13:00 – 17:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/EpzbohAfP4XTwFQR7

Sakana Factory

มื้อสุดท้ายเราเลือกฝากท้องที่ ‘Sakana Factory’ จัดเสิร์ฟเมนู donburi (ข้าวหน้า) ที่มีให้เลือกหลากหลาย เน้นการจับคู่ที่สร้างรสชาติอูมามิไม่ซ้ำใคร เกิดเป็นชามซิกเนเจอร์อย่าง ‘The Maze Toro Seafood Don’ ชามที่รวมความซีฟู้ดได้แบบตะโกน มีทั้งแซลมอน ทูน่า ฮามาจิ และเนกิโทโร่ ผสมกับไชเท้าดอง หัวหอม แตงกวาปั้นเป็นก้อน ด้านล่างยังมีแซลมอน ฮามาจิ ไข่ปลานานาชนิด ท็อปด้วยไข่ดิบ มอบรสสัมผัสข้าวหน้าปลาดิบแบบดั้งเดิม ผสานความนัวที่แปลกใหม่ อีกถ้วย ‘The Red Shrimp Don’ กุ้งแดงหวาน ๆ เด้ง ๆ โบกมาแน่น ๆ ปิดข้าวได้อย่างมิดชิด ตอกไข่ดิบเข้าไปเสริมเพื่อเพิ่มความเนียนนุ่ม ปาดกับวาซาบินิดหน่อยแล้ว มันเป็นรสชาติที่สดชื่นดีงาม

⏰ จันทร์ – ศุกร์ 11:00-15:00 น (last order 14:30 น.) / 17:00 – 20:00 น. (last order 19:30 น.)

เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00-16:00 น. (last order 15:30 น.) / 17:00 – 22:00 น. (last order อาหาร 21:00 น., เครื่องดื่ม 21:30 น.)

📍https://maps.app.goo.gl/YhyEV5Fiieh5TM1V8

Sakae

เรามาล่ำลาเมืองที่ใหญ่ติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นกันที่ ‘Sakae’ ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง เปรียบดั่งนัมบะของโอซาก้า ชิบุยะแห่งเมืองโตเกียว เต็มไปด้วยร้านค้าที่ตอบทุกโจทย์ของนักช็อป ไม่ว่าจะเป็นดองกี้ขนาดใหญ่ที่เปิดตลอด 24 ชม. ช็อปแบรนด์ชั้นนำทั้งรองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ แบบ Tax-Free และยังมีแลนด์มาร์คของเมืองที่บ่งบอกถึงความล้ำยุคล้ำสมัยทั้ง ‘Oasis 21’ ห้างสรรพสินค้าฟอร์มเก๋คล้ายยานอวกาศสูง 14 เมตร มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกเพียบ!! อีกสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ควรมองข้าม ‘Chubu Electric Power MIRAI TOWER’ หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่เปิดตั้งแต่ปี 1954 มีจุดชมวิวที่สูงจากภาคพื้นดินถึง 100 เมตร ให้เราได้มองนาโกย่าจากมุมสูงได้อย่างงดงาม ซึ่งยามค่ำคืนทั้งสองอาคารนี้จะเปิดไฟเล่นแสงสี เป็นการปิดจบทริปซัมเมอร์อินเจแปนได้ตราตรึงจนเริ่มติดใจอยากกลับมาใหม่อีกสักที

📍https://maps.app.goo.gl/vPWcZP9cfQ3UJtPD6

This image has an empty alt attribute; its file name is P1463575-683x1024.jpg


Leave a Reply

Your email address will not be published.