JAPAN : Autumn in Hokkaido 5 Days 4 Nights 🇯🇵


Autumn in Hokkaido 5 Days 4 Nights 🇯🇵

สาดความสดใสซาบซ่าต้อนรับปลายปีเติมช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยการซุกตัว อยู่ใต้ไออุ่นของเทศกาลใบไม้แดงที่ฮอกไกโด แพลนของเราคือการโร้ดทริปลัดเลาะไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ Furano – Biei – Asashikawa – Sapporo แวะชมใบไม้เปลี่ยนสี ณ Jozankei Onsen หมู่บ้านกลางหุบเขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีสะพานแดงท่ามกลางแมกไม้สีเหลือง ส้ม ให้เราเห็นความอร่ามดั่งอัญมณีอันเลอค่า พร้อมรับความสดชื่นของลมเย็นในสวนสาธารณะที่เป็นเหมือนอาร์ตแกลลอรีกลางแจ้งแสนมินิมอล ฮอปปิงร้านกาแฟกลางป่า ชิมไอศกรีมริมฟาร์ม พร้อมแลนด์มาร์กสุดจึ้งอีกมากมายที่เที่ยวได้ชิลในเวลา 4 วัน 4 คืน แถมบินตรงได้ชิล ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเครื่อง ด้วยการกดจองกับThai AirAsia X !

Flight Bangkok to Sapporo

บินสู่ภาคเหนือแห่งแดนอาทิตย์อุทัยครั้งนี้ แน่นอนว่าเราเลือกไปกับ Thai AirAsia X สายการบินที่ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเรื่องเวลา บินตรงไม่ดีเลย์ พร้อมการดูแลทุกระดับประทับใจ เพียงกดเลือก Value Pack คลิกเดียวได้ทั้งน้ำหนักกระเป๋าเดินทางตั้งแต่ 20 กิโลกรัม จิ้มที่นั่งได้ตามชอบ และอาหารอุ่นร้อนที่มีให้เลือกเยอะไม่น่าเบื่อ ในราคาที่ลดสูงสุด 20% สำหรับไฟลต์บินตรงครั้งนี้คือเส้นทาง Don Mueang (DMK) – Shin Chitose Airport (CTS) เวลา 02:00 น. – 10:40 น. เครื่องลงปั๊บเช่ารถแล้วออกเที่ยวได้ตั้งแต่วันแรก ส่วนขากลับจะเป็นเวลา 11:55 – 18:00 น. กลับมานอนพักเอาแรงก่อนไปทำงานต่อได้เต็มที่

ส้นทางการจอง : airasia.com และแอป AirAsia MOVE

My Itinerary

𝐃𝐚𝐲 𝟏 : 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤 – 𝐒𝐚𝐩𝐩𝐨𝐫𝐨

𝐃𝐚𝐲 𝟐 : 𝐒𝐚𝐩𝐩𝐨𝐫𝐨 – Furano

  • 175 DENO Tantanmen Sapporoekikitaguchiten 
  • Moerenuma Park 
  • Ningle TerraceOshokuji to Goenkai no Mise Ku magera

𝐃𝐚𝐲 𝟑 : Furano – 𝐁𝐢𝐞𝐢 – 𝐀𝐬𝐚𝐬𝐡𝐢𝐤𝐚𝐰𝐚

  • Furano Cheese Factory 富良野チーズ工房
  • Popura Farm Cafe
  • Shirogane Blue Pond 
  • Biei Forest KONON Cafe & Stay
  • Kamikawa-Jinja Shrine
  • Asahikawa Ramen Village
  • Yakitori

𝐃𝐚𝐲 𝟑 : 𝐀𝐬𝐚𝐬𝐡𝐢𝐤𝐚𝐰𝐚 – Sapporo – 𝐉𝐨𝐳𝐚𝐧𝐤𝐞𝐢

  • Sapporo Crab Market 
  • Hokkaido University
  • Butsuganji Sapporohonzan
  • Hill of the Buddha 
  • Jozankei Onsen 定
  • Kappa Spots
  • Jozankei Futami Bridge
  • Iwato Kannondo Temple
  • Jozankei Gensen Park
  • Nemuro Hanamaru Minami
  • Tonkatsu Aoki Sapporo Susukino Store

𝐃𝐚𝐲 𝟒 : 𝐒𝐚𝐩𝐩𝐨𝐫𝐨

  • Nijo Market
  • BARISTART COFFEE
  • ย่าน Susukino Station
  • Suage+
  • Maruyama Zoo
  • AoAo
  • Sapporo TV Tower
  • Sapporo Clock Tower
  • Ramen Shingen

𝐃𝐚𝐲 𝟓 : 𝐒𝐚𝐩𝐩𝐨𝐫𝐨 – 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤

Day1 : Sapporo – Furano

175 DENO Tantanmen Sapporoekikitaguchiten

พอเข้าเมืองซัปโปโระได้ปุ๊บ เราก็เริ่มหาอาหารจานเด็ดประจำเมืองทันทีที่ ‘175 DENO Tantanmen Sapporoekikitaguchiten’ ร้านราเม็งสูตรพิเศษที่ผสานรสชาติเผ็ดร้อนสไตล์เฉิงตูเอาไว้ จึงมีทั้งความกลมกล่อมแบบญี่ปุ่นและจัดจ้านแบบเสฉวนในชามเดียว เราสั่ง TanTan-Men Noodle Soup และ TanTanmen Ichigoro ที่มีสีสันแสบสันจากน้ำมันพริกโฮมเมด โรยด้วยพริกแบบสร้างความชาในแบบที่เราชื่นชอบ หอมละมุนมากับซุปกระดูกไก่ที่เคี่ยวนานกว่า 8 ชม. พอกินเข้ากับเส้นราเม็งหนานุ่มแล้ว กลายเป็นรสชาติเค็ม เผ็ด ชาที่ถูกจริตเราอย่างยิ่ง

⏰เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 23:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pqtXPn19jX5SCmtu7

Moerenuma Park

จากนั้นมาเดินย่อยสักกรุบที่ ‘Moerenuma Park’ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และ installation Arts ติดตั้งกลางแจ้งให้เราได้เดินถ่ายรูปไม่หยุด ออกแบบโดยสถาปนิกรุ่นเก๋า Isamu Noguchi ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1988 แม้จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสวนสร้างเสร็จ แต่ที่นี่ก็ได้รับรางวัล Good Design Award ของประเทศญี่ปุ่นในปี 2022 ด้วย ความชอบส่วนตัวอยู่ที่รูปแบบของสวน จะมีทั้งที่ราบ มีการจัดวางน้ำพุ ชายหาดเทียม ภูเขาโล่งเตียนที่ทำทางเดินให้ถ่ายรูปออกมาแล้วเหมือนหลุดมาจากอนิเมะ กวาดตาไปทางไหนก็เจอแต่ความมินิมอลสบายตา ส่วนโดมกระจกที่เห็นนี้คือ ปิรามิดแก้ว Hidamari ที่ภายในจะเป็นสถานที่จัดนิทรรศการ การประชุม ร้านขายของที่ระลึกนั่นเอง

⏰เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 22:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8mqGrkcAp1jeEtDw6

Ningle Terrace

ขับออกมาเรื่อย ๆ กว่าจะถึง Furano ฟ้าก็มืดพอดี เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยว ‘Ningle Terrace’ หมู่บ้านกลางป่าสนที่งดงามประหนึ่งฉากในเทพนิยาย ตั้งอยู่ในโรงแรม New Furano Prince ลักษณะเป็นกระท่อมไม้ทรงยุโรปสร้างไว้เป็นกลุ่มก้อน มีสะพานไม้เชื่อมต่อบ้านแต่ละหลัง ยามค่ำคืนเขาจะเปิดไฟส้มสว่างไสวราวดวงดาวท่ามกลางความมืดมิด ไฟในกระท่อมเผยให้เห็นภายในที่จัดงานสินค้างานคราฟต์ไว้อย่างน่ารัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานไม้ แกะสลัก เซรามิก คนที่ชอบงานแฮนด์เมดจะต้องกรี๊ดแน่นอน

 เปิดทุกวัน เวลา 12:00 – 21:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FKBY7erknXTrNmFy6

Oshokuji to Goenkai no Mise Kumager

ค่ำคืนนี้เรามาฝากท้องที่ ‘Oshokuji to Goenkai no Mise Kumagera’ ร้านอาหารท้องถิ่นที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1980 เน้นใช้ของจาก Furano ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งตั้งแต่ภายนอกยันภายใน แต่ละองค์ประกอบนั้นเอามาจากทุ่งนาในฟาร์มของ Furano เพื่อให้เราดื่มด่ำความเป็นท้องถิ่นจริง ๆ อาทิ คานไม้ ผนังหินด้านนอก เถาว์ไม้เลื้อย ฯลฯ เมนูขึ้นชื่อของร้านจะเป็นเนื้อทั้งแบบข้าวหน้า สเต๊ก และที่เราสั่ง Wagyu beef Sukiyaki เสิร์ฟเป็นหม้อร้อนที่มีน้ำซอสรสหวานเค็มใส่มาขลุกขลิกกับเหล่าผัก เส้นบุก พอหย่อนเนื้อติดมันลายหินอ่อนลงไปก็จะมีกลิ่นหอมเอกลักษณ์ของวากิวฟุ้งไปทั่ว เท็กซ์เจอร์นุ่มจนแทบละลาย จิ้มกับไข่ดิบแล้วจะมีความลื่น ๆ รสชาตินัวพอดีมาก ๆ

⏰ เปิดทุกวันพฤหัสบดี – วันอังคาร (ปิดทุกวันพุธ) เวลา 11:30 – 21:30 น.

📍พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/9Pkc6vSd4Kyb6dDN9

Day 2 : Furano – Biei – Asashikawa

Furano Cheese Factory 富良野チーズ工房

ก่อนจะย้ายเมืองเรามาตามหาของหวานสุดป็อปประจำถิ่นกันก่อน ‘Furano Cheese Factory 富良野チーズ工房’ โรงงานผลิตชีสท่ามกลางต้นเบิร์ชที่กำลังผลัดใบเป็นสีเหลืองส้ม แหล่งผลิตชีสชั้นดี นมชั้นเลิศที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง โดยที่นี่เขาจะจัดแสดงขั้นตอนการผลิตให้เราได้เดินชมตามห้องต่าง ๆ ไล่ตั้งแต่รีดนม ห้องทำชีส ร้านขายของที่ระลึก หรือจะร่วมทำเวิร์กช็อปก็ได้เช่นกัน แต่ถ้ามีเวลาน้อยก็สามารถมาลิ้มลองซอฟต์เสิร์ฟของเขาได้ รสชาตินมของเขาจะมีความเข้มข้นหอมกลิ่นนมมัน ๆ หนัก ๆ หวานอ่อน ๆ กินแล้วสดชื่นตาวาวกระตุ้นอะดรีนารีนในร่างให้ตื่นพร้อมลุยเที่ยวต่อได้ทันที

เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 16:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fyn5qGvZSL77C4NF7 

Popura Farm Cafe

แต่ถ้าใครอยากได้ไอศกรีมที่มีผลไม้ผสม แนะนำให้ขับเลยมาอีกสิบ 20 นาทีก็จะเจอกับ ‘Popura Farm Cafe’ ร้านสุดคิวต์ที่มีลุงซานต้ามาเซย์ไฮอยู่ด้านหน้า พร้อมป้ายร้านสีแดงตัดขาวฟีล 80’s โดดเด่นสุด ๆ เมนูประจำร้านนี้คือซอฟต์เสิร์ฟเมลอน ที่ปลูกจากฟาร์มของตัวเอง ทำให้มีทั้งความสด เนื้อกรอบรสหวานฉ่ำ พอกินตัดกับไอศกรีมนมนัว ๆ หอม ๆ แล้ว ยิ่งเพิ่มความสดชื่นให้ทะลุขีดจำกัดมากกว่าเดิม นอกจากนี้ที่ฟาร์มเขายังมีผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรชาว Furano มาขายด้วยนะ ใครอยู่ยาว ๆ แล้วชอบทำอาหารกินเอง แนะนำเลยว่าของดี ราคาดีกว่าซื้อตามซูเปอร์แน่นอน

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UKDxMj7nFw1ENwn1A

Shirogane Blue Pond

จากนั้นเราก็โยกย้ายตัวมาสู่เมือง Biei เมืองแสนสงบที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติให้เราได้ดื่มด่ำ พิกัดนี้ชื่อว่า ‘Shirogane Blue Pond’ บ่อน้ำมหัศจรรย์ที่มีสีฟ้าชัดเจนแจ่มแจ้ง เกิดจากแร่อะลูมิเนียม ไฮดรอกไซด์ เมื่อสะท้อนกับแสงแดดแล้วก็ทำให้ตาเราเห็นเป็นสีฟ้า ซึ่งถือว่ามีความเข้มข้นสูง เพื่อความปลอดภัยจึงไม่อนุญาตให้ลงเล่น ความงดงามของที่นี่ยังเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนที่เป็นสีเขียวตัดฟ้า ในหน้าหนาวแม้พื้นผิวจะเป็นน้ำแข็ง แต่ช่วงกลางคืนเขามีจัดแสดงไฟสาดแสงสีฟ้าพร้อมหิมะที่โปรยปราย และในฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้ก็ลายเป็นโทนสีที่คอนทราสต์ มองแล้วใจฟูสุด ๆ

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 19:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/GU5CQcZ2dLBoXcpC9

Biei Forest KONON Cafe & Stay

คาเฟ่ที่มาแถวนี้แล้วพลาดไม่ได้คือ ‘Biei Forest KONON Cafe & Stay’ กระท่อมสีแดงกลางป่าไม้เมืองหนาวอันสูงใหญ่ ที่ตอนนี้สีได้กลมกลืนคุมโทนไปกับธรรมชาติโดยรอบอย่างดี แต่หากเป็นช่วงหิมะตกก็คงจะโดดเด่นได้รูปจึ้ง ๆ ไม่แพ้กัน ไฮไลต์ของร้านเรายกให้เฟรมกระจกบานใหญ่ที่อยู่ภายใน เมื่อมองออกมาจะเห็นเป็นภาพป่าผันเปลี่ยนไม่ซ้ำแต่ละฤดู กลายเป็นงานศิลปะชุดมาสเตอร์พีซของธรรมชาติ ส่วนขนมของร้านทำแบบสดใหม่ ใช้ผลไม้ที่เก็บจากในป่าแห่งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตระกูลเบอร์รี กินตัดกับกาแฟดริปที่พี่เจ้าของตั้งใจชงแก้วต่อแก้ว เป็นความ slowlife ที่แท้ทรู

⏰ เปิดทุกเปิดวันพุธ – วันอาทิยต์ (ปิดทุกวันจันทร์ – วันอังคาร) เวลา 11:00 – 17:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/k4qpizNWn6LCnAA39

Kamikawa-Jinja Shrine

ศาลเจ้าเก่าแก่ที่เราขอยกให้เป็นอีกหนึ่งแห่งที่สวยที่สุดเท่าที่เคยพบเจอ ‘Kamikawa-Jinja Shrine’ ตั้งอยู่ในสวน Kagurao เมือง Asahikawa ศาลเจ้าชินโตที่มีประวัติยาวนานกว่า 136 ปีมาแล้ว ซึ่งมีสัญลักษณ์ดอกซากุระบานเป็นโลโก้ประจำศาลเจ้า โดยที่นี่เป็นศูนย์รวมของสายมูสไตล์ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเขามีพิธีกรรมการไล่ผี พิธีเจิมรถ พิธีคลอดบุตรปลอดภัย ไปจนถึงจัดงานแต่งงาน และยังสามารถมาขอพรเรื่องความเจริญรุ่งเรืองด้านการงาน ครอบครัว การศึกษา สุขภาพร่างกายได้อีกด้วย

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/NNXscT6BSu6hPijz6

Asahikawa ramen village

ตามมาด้วยหมู่บ้านชื่อดังสำหรับคนรักเส้น ‘Asahikawa ramen village’ แหล่งรวมร้านราเม็งตัวท็อปของเมือง ที่ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 7 ร้าน แต่ละร้านจะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องซุป เส้น ไปจนถึงเครื่องเคียง เราเลือกกินที่ร้าน Hokkaido Ramen Santouka (らーめん山頭火 ラーメン村店) ที่เขาชูโรงมาด้วยซุปทงคตสึสีขาวเข้มข้นจากการต้มกระดูกหมูนานกว่า 16 ชม. ที่ตั้งใจให้ลูกค้าได้สัมผัสความอร่อยจนหยดสุดท้าย อย่าง Tokusen toroniku ramen ที่เราสั่งจะแยกถ้วยเส้นที่ใส่ซุปมาจนเต็มกับเครื่องออกจากกัน เพื่อให้สัมผัสความซอฟต์ของซุป สลับกับหมูส่วนแก้มที่มีความนุ่มละมุนกันได้แบบไม่สะดุด กินสลับเท็กซ์เจอร์กับเส้นเด้ง ๆ หนึบ ๆ แล้วแสนจะฟิน

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 21:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/PRwodyhfNwa68xyz5

Yakitori

มาฮอกไกโดทีไรเบรกแตกทุกทีเพราะร้านอร่อยที่ลิสต์ไว้มีอยู่เพียบ ที่นี่คือ ‘Yakitori’ ร้านกินดื่มที่ขายเมนูยากิโทริ เนื้อเสียบไม้แกล้มเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่ร้านนี้จะเน้นเป็นไก่เสียบไม้ย่างบนเตาถ่าน โรยแค่พริกไทยกับเกลือเพื่อเสริมรสชาติเนื้อไก่ให้กลมกล่อม ผสานมากับกลิ่นถ่านที่โชยขึ้นจมูกทุกการเคี้ยว นี่ขนาดกิน 2 คน 10 ไม้ยังไม่พอ หรือถ้าใครอยากลองแบบท้องถิ่นแท้ ๆ สั่งเมนู ‘Bibai Yakitori’ เป็นการนำส่วนต่าง ๆ ของไก่ อาทิ เนื้อ หนัง ไข่ กระเพาะ หัวหอมมาเสียบไม้ย่าง ก็จะเป็นรสชาติออริจินัลที่อยู่คู่เมืองนี้มาตั้งแต่ปี 1950 แล้ว

⏰ เปิดทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) เวลา 13:00 – 22:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LKWiBBf6BDLPX2Y18

𝐃𝐚𝐲 𝟑 : 𝐁𝐢𝐞𝐢 – Sapporo – 𝐉𝐨𝐳𝐚𝐧𝐤𝐞𝐢

Sapporo Crab Market

แม้ก่อนนอนเราจะกินจุกขนาดไหน ตื่นเช้ามาจิตพุงเต่งก็ยังคงโหยหาของกินอยู่ดี เช้านี้เลยมาเช็กอินที่ ‘Sapporo Crab Market’ ชมความลือเลื่องด้านซีฟู้ดของภูมิภาคนี้สักหน่อย กับเหล่าบรรดาราชา ราชินีแห่งปู เราปักหลักอยู่ที่ร้าน Kaisendon Umedo Sapporo Store (うめぇ堂) ร้านหน้าตาบ้าน ๆ ที่ติดภาพเมนูข้าวหน้าปลาดิบราคาเป็นมิตรอยู่เพียบ!! ทั้งปลา กุ้ง อิคุระ และสำหรับคนที่รักความพรีเมียมไม่ควรพลาดขาปู ไข่หอยเม่น ที่จับจากทะเลทางตอนเหนือจะมีเนื้อหวานฉ่ำกว่าที่อื่นอยู่มาก ทางเราจัดข้าวหน้าขาปู ไข่ปลาแซลมอน และปูย่างมา เนื้อปูเขามีความเด้งหนึบหวานหอมกลิ่นทะเล พอกินกับไข่ปลานัว ๆ เค็ม ๆ แล้ว เข้ากันจนหยุดไม่ได้เลยทีเดียว

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 15:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/8wkSxomxnxc5V2SN7

Hokkaido University

เคยฝันหวานว่าอยากมาลองใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาในประเทศญี่ปุ่นสักครั้ง เพราะบรรยากาศในมหาวิทยาลัยเขามันช่างร่มรื่นชื่นใจเสียจริง หนึ่งในนั้นคือ ‘มหาวิทยาลัยฮอกไกโด’ ที่ภายในรั้วจะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะแนวต้นไม้แปะก๊วยที่จะสวยเป็นพิเศษในช่วงนี้ เผยให้เห็นภาพใบไม้ผลัดใบกลายเป็นสีเหลืองทองอร่าม โดยเขาจะเปิดให้ชาวเมืองได้เข้าไปเดินพักผ่อนหย่อนใจรอบ ๆ สวน ตีเป็นระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร และยังมีสปอตให้แวะเวียนไปชม อาทิ สนามหญ้ากลาง อนุสาวรีย์ ต้นไม้ยักษ์อายุ 100 ปี พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08:30 – 17:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AztMnGciXye3AQcA9

Butsuganji Sapporohonzan

พาวเวอร์สปอตแห่งซัปโปโร ‘Butsuganji Sapporohonzan’ ที่เหมาะสมกับชาวพุทธผู้อยากฝึกจิตใจให้สงบเป็นอย่างยิ่ง โดยที่นี่ถือเป็นหนึ่งในที่ประดิษฐานของพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความยาวถึง 45 เมตร เป็นองค์สีทอง พอมีแมกไม้สีแดงตุ่น ๆ เป็นพื้นหลังก็ยิ่งขับองค์พระให้ดูโดดเด่น ภายในยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นให้เราคอนเนกต์กับธรรมชาติ เหมาะเป็นที่นั่งสมาธิ และอย่าลืมซื้อเครื่องรางกลับไปเป็นของที่ระลึกด้วย เพราะที่นี่เขามีหลายแบบ หลายดีไซน์ หลายหัวข้อการขอพรให้เลือก

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zCCVMCUhpMdVq9vu6

Hill of the Buddha

แลนด์มาร์กด้านศาสนาของเมืองนี้เขาปังไม่มีดรอปจริง ๆ ‘Hill of the Buddha’ ศาสนสถานสุดคูลที่ออกแบบโดย Tadao Ando บิดาแห่งสถาปัตยกรรมสไตล์มินิมอล ด้วยการทำโดมครอบพระพุทธรูป Atama Daibutsu องค์ใหญ่ เปิดรูตรงกลาง หากมองจากภายนอกจะเหมือนเป็นเนินเขาที่มีเศียรพระองค์โตโผล่พ้น ส่วนเนินนั้นเขาปลูกเป็นทุ่งดอกลาเวนเตอร์ที่มีถึง 150,000 ต้น ทัศนียภาพที่เห็นจึงเปลี่ยนแปลงไปไม่ซ้ำฤดู ส่วนด้านในจะเน้นความโล่งกว้างมีทั้ง Water Garde ที่ล้อมรอบด้วยปูนเปลือยดูเท่สบายตา เชื่อมต่อไปยังอุโมงค์ที่ตรงไปยังองค์พระ พร้อมทางแสงธรรมชาติที่ฉาบลงบนตัวท่านอย่างน่าเกรงขาม นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น Moai และ Stonehenge ให้เราไปถ่ายรูปคู่อีกด้วย

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 21:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7LGG8SMyJAzgtYQC6

Jozankei Onsen

มาผ่อนคลายร่างกายด้วยการแช่น้ำร้อนกันสักหน่อยที่ ‘Jozankei onsen’ หมู่บ้านออนเซ็นเล็ก ๆ แอบซ่อนยู่ในหุบเขา ที่จะงดงามราวภาพวาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โรแมนติกที่สุดในช่วงฤดูหนาว และร่าเริงที่สุดในตอนใบไม้ผลิ เป็นที่ที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่ง มีมานานกว่าร้อยปีตั้งแต่ 1866 น้ำที่นี่อุดมด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทั้งโซเดียมคลอไรด์ กำมะถัน และโซเดียมไบคาร์บอเนต เชื่อกันว่ามีสรรพคุณในเรื่องการบำบัดอาการเจ็บไข้ ช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดทำให้ดูอ่อนเยาว์ รักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ และสำหรับสายเที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วยอย่างเรา ถือเป็นสวรรค์ที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดีกว่าการนวดหลายสิบเท่าเลยทีเดียว

 เปิดทุกวัน 24 Hr.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mSSpWUTg1bVHoYwa9

Jozankei Onsen : Kappa Spots

อีกจุดสุดคิวต์ของหมู่บ้าน เรายกให้ ‘Kappa Spots’ รูปปั้นกัปปะ ภูตผีในตำนานที่กลายเป็นมาสคอตประจำหมู่บ้านตั้งกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ เล่ากันว่าเคยมีเด็กหนุ่มนั่งตกปลาอยู่ริมน้ำแล้วหายตัวไป ปีต่อมาเขาก็ได้มาเข้าฝันพ่อแล้วบอกว่า ตัวเองได้สร้างครอบครัวกับภรรยากัปปะอยู่อย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็ไม่มีใครจมน้ำแถวริมน้ำนั้นอีกเลย จึงมีความเชื่อว่าพรายน้ำเหล่านี้เป็นผู้ปกปักษ์รักษาผู้คนและหมู่บ้าน jozankei นั่นเอง

 เปิดทุกวัน 24 Hr.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/w8e2GJNYRcPeg8MQ9

Jozankei Futami Bridge

ไฮไลต์สปอตของที่นี่ยังมี ‘Jozankei Futami Bridge’ สะพานแขวนสีแดงสดที่พาดเหนือแม่น้ำโทโยฮิระเป็นความยาว 80 เมตร ใช้เป็นที่สัญจรของคนท้องถิ่น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา เรียกว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยตาแตกสุด ๆ ยิ่งตอนที่ริมสองฝั่งถูกแต่งแต้มด้วยสีเหลือง แดง เขียวของเหล่าพันธุ์ไม้หลายร้อยหลายพันชนิด ยิ่งสตั๊นเข้าไปใหญ่ ใครมาฮอกไกโดรอบนี้ควรจดไว้ในลิสต์ด่วน ๆ เลยนะ

 เปิดทุกวัน 24 Hr.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/xFoKa9PLptDbS25s6

Iwato Kannondo Temple

อาคารเล็ก ๆ สีขาวแดงยืนโดดเด่นอย่างมั่นคงหน้าภูเขาลูกโตนี้มีชื่อว่า ‘Iwato Kannondo Temple’ เป็นศาลเจ้าประจำหหมู่บ้านที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1936 เพื่ออุทิศให้แก่ผู้พลีชีพในการก่อสร้างถนนระหว่าง Otaru และ Jozankei ภายในมีภาพเจ้าแม่กวนอิมและองค์พระให้เราเข้าไปไหว้ขอพรเรื่องการเดินทาง การขับขี่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีช่องประตูแคบ ๆ ให้เราเดินเข้าไปในถ้ำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมถึง 33 องค์ แต่ละองค์ดูมีความเก่าแก่และมีมนต์ขลังสุด ๆ

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 20:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BsgWP6QNkj497rWGA

Jozankei Gensen Park

สถานที่ที่เล่าถึงรากเหง้าของหมู่บ้านได้ดีที่สุด ‘Jozankei Gensen Park’ สวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ Miizumi Jozan ในวันเกิดครอบรอบ 200 ปี ซึ่งท่านเป็นพระธุดงค์ผู้ค้นพบและบุกเบิก Jozankei Onsen นั่นเอง เราสามารถพบเจอท่านได้ในสวนนี่ล่ะ จะเป็นรูปปั้นหินสีขาวที่ท่านกำลังนั่งสมาธิตั้งโดดเด่นอยู่ในศาลา รอบ ๆ สวนยังมีบ่อน้ำพุร้อนให้เราได้แช่เท้าแช่มือกระจายอยู่ทั่ว หากใครอยากต้มไข่ก็มีบ่อที่อุณภูมิร้อนถึง 80 องศาไว้ให้เราทำไข่ออนเซ็นอยู่ด้วยเช่นกัน

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 21:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AfNgKSTRZn8DzrdK6

Nemuro Hanamaru Minami

ค่ำนี้เราขอฝากท้องแบบแกรนด์ ๆ ด้วยซูชิพรีเมียมที่ร้าน ‘Nemuro Hanamaru Minami’ ร้านที่เป็นตัวแทนของฮอกไกโดส่งตรงวัตถุดิบจากทะเลสู่ท้องของเรา การันตีความปังด้วยสาขาที่เปิดแค่ในภูมิภาคถึง 10 สาขา และที่โตเกียวอีก 3 สาขา โดยของทะเลส่วนใหญ่นั้นมาจาก Nemuro เมืองที่อยู่สุดขอบตะวันออกของญี่ปุ่นติดกับรัสเซีย ขึ้นชื่อเรื่องการจับของทะเลแบบ no.1 เมื่อมีวัตถุดิบที่ดี ซูชิทุกคำที่เรากินจึงเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ปลาแต่ละชนิดมีรสและกลิ่นที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ กุ้งหวานกรุบ ปลาหมึกก็กรอบสะบัด ฟินแบบไม่มีข้อแม้

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 22:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/g7kUciHyxXz9RvRP6

Tonkatsu Aoki Sapporo Susukino Store

ถ้าใครไม่กินปลาดิบหรือกินซูชิมันไม่อิ่มพอ เราขอให้มาตามเช็กอินกันต่อที่ ‘Tonkatsu Aoki Sapporo Susukino store’ ร้านข้าวหน้าของทอดที่มีรสสัมผัสไม่เหมือนใคร เพราะเขาใช้เนื้อหมูจาก Hayashi SPF Pork โดดเด่นเรื่องความจุยซ์ เราสั่งเป็น Premium Pork fillet Cutlet ser meal พระเอกของจานคือหมูทอดชิ้นโตที่ถูกหั่นเป็นท่อน ๆ เผยให้เห็นเนื้อและมันฉ่ำ ๆ ที่แทรกกันเป็นชั้น กัดไปจะเจอความกรอบนอกนุ่มใน มันหมูกระจายเต็มกระพุ้งแก้มกินเคียงกับผักสด ๆ จิ้มกับเกลือหิมาลัยสีชมพูรสกลมกล่อมพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ แล้ว เป็นการผสมผสานที่เพอร์เฟกต์สุด ๆ

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 15:00 และ 17:00 – 21:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nsyZcwCwmqcriY8D9

Day 4 : Sapporo

Nijo Market

ยังคงโคฟเป็นอินฟลูฯ สายกินอย่างไม่ลดละ เช้านี้เรามาเช็กอินใน ‘Nijo Market’ ตลาดปลาที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Sosei เริ่มจากเป็นตลาดสดก่อน จากนั้นเริ่มมีร้านรวงมาเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ที่นี่กลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของซับโปโรไปโดยปริยาย แถมยังเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลที่สดใหม่ที่สุด เพราะชาวประมงจะนำของทะเลที่เพิ่งจับได้มาวางขายในทุกเช้า ร้านที่เราขอแนะนำชื่อว่า Fujitta Seafood ที่เขาขายซีฟู้ดแบบโลคอลสุด ๆ ให้เราเดินไปจิ้มเลือกกุ้ง หอย ปู แล้วเขาจะเอาไปย่างให้มีความสุกกำลังดี ทำให้เนื้อไม่แห้งไป ไม่ดิบไป มีกลิ่นทะเลและรสชาติหวานธรรมชาติแบบถูกต้อง

⏰ เปิดทุกวันศุกร์ – วันอังคาร (ปิดทุกวันพุธ – วันพฤหัสบดี) เวลา 09:00 – 15:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FTFcp61v1ugQiWJUA

BARISTART COFFEE

ขาดไม่ได้เลยคือกาแฟแก้วโปรดที่เราตั้งใจมาที่ร้าน ‘BARISTA COFFEE’ แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นตัวแม่แห่งวงการกาแฟ ประทับใจตั้งแต่หน้าร้านที่แม้จะอยู่ในอาคารพาณิชย์ธรรมดา แต่ก็ก่อผนังอิฐเป็นซุ้มทรงเหลี่ยมไม่เหมือนใคร พร้อมติดโลโกร้านไว้มุมซ้ายแบบมินิมอล ตัดสลับกับงานไม้ที่ทำให้ร้านดูสุขุมนุ่มลึก ส่วนประกอบเด่นในกาแฟของร้านนอกจากเมล็ดเบลนด์พิเศษแล้ว ยังมีเรื่องของนม ซึ่งเขาจะใช้นมของฮอกไกโด จากวัวสายพันธุ์เจอร์ซีย์ที่มีความเข้นข้นสูง ไขมันและโปรตีนเยอะกว่าบางสายพันธุ์ นำมาวาดลวดลายลาเต้อาร์ตที่งดงาม กลายเป็นกาแฟนมอีกหนึ่งแก้วที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยกินมาเลย

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 18:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/i46eJDUHhGA4K1R8A

Suage+

อีกร้านในเมืองที่เราอยากกระซิบบอกคนรักแกงกะหรี่เพราะเป็นร้านยอดฮิตประจำซัปโปโร ‘Suage+’ ขอบอกก่อนว่าแกงกะหรี่ของเขาจะไม่เหมือนพื้นที่อื่น ๆ ที่จะมีเนื้อเข้มข้นครีมมี่ แต่ที่นี่น้ำจะออกใส ๆ ซดคล่องคอ โดยเขาจะให้เราเลือกว่าต้องการกินเนื้ออะไร น้ำซุปแบบไหน เลือกความเผ็ด แล้วก็เลือกท็อปปิงที่เป็นพวกผัก เนื้ออื่น ๆ ได้ตามชอบ ซึ่งความเผ็ดของเขาจะอยู่ในระดับที่คนไทยกินได้สบาย ๆ หอมกลิ่นสมุนไพรกำลังดี แต่ก็ยังคงความเข้มข้นเค็มเผ็ด เนื้อและผักนั้นหวานสดอุ้มน้ำซุปไว้ได้หมด เหมาะกินกับข้าวสวยร้อน ๆ เป็นที่สุด

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11:30 – 22:30 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BR1xs2dDUJoUGLZ18

Maruyama Zoo

สวนสัตว์หนึ่งในดวงใจในญี่ปุ่นที่เราชอบมากที่สุด ‘Maruyama Zoo’ ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะมารุยามะที่มีขนาดใหญ่เสมือนกำลังเดินเข้าป่าเมืองหนาว พอไปถึงสวนสัตว์ก็พบเจอน้อง ๆ ที่ได้รับการเลี้ยงดูท่ามกลางธรรมชาติอย่างดี ทำให้สัตว์สามารถแสดงพฤติกรรมตามที่มันควรจะเป็น และถึงแม้จะเปิดมานานกว่า 70 ปีแล้ว แต่ที่นี่ก็ได้รับการดูแลให้เหมือนใหม่ และพัฒนาระบบต่าง ๆ อยู่เสมอ รวบรวมสัตว์ไว้เกือบ 200 สายพันธุ์ รวมกว่า 990 ชีวิต กลับมากี่ครั้งก็ใจฟูกับเหล่าหมีขั้วโลก แพนกวิน หมาป่า แพนด้าแดง ที่เล่นซนกันอย่างมีชีวิตชีวา ใครเป็นคนรักสัตว์ไม่ควรพลาดเลย

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09:30 – 16:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/itTcJpYYobQQXaX38

ค่าเข้า : 800 เยนต่อคน

AOAO SAPPORO

ชมสัตว์โลกน่ารักภาคพื้นดินกันแล้วก็ลงมาใต้ทะเลลึกกันบ้างที่ ‘AOAO SAPPORO’ อะควาเลียมสุดล้ำใจกลางเมืองหลวงแห่งฮอกไกโด ตั้งอยู่บนชั้น 4-6 ของห้างสรรพสินค้า moyuk SAPPORO สร้างภายใต้คอนเซปต์ ‘สิ่งมหัศจรรย์แห่งชีวิต – สิ่งที่มองไม่เห็นกลายเป็นสิ่งที่มองเห็น’ โดยชั้น 4 ของที่นี่จะนำเสนอความรู้เบื้องต้นของสัตว์ทะเล ศึกษาชีววิทยาทางน้ำ เบื้องหลังการทำงานของพี่ ๆ สตาฟ เช่นการเตรียมการให้อาหาร การเพาะพันธุ์ ส่วนชั้น 5 ก็จะเริ่มจัดแสดงผ่านตู้ปลาขนาดใหญ่ที่จำลองโลกใต้น้ำ ให้เหล่าสัตว์ทะเลรู้สึกว่าได้แหวกว่ายอยู่ในธรรมชาติจริง ๆ และตู้ปลาเล็ก ๆ จำแนกสัตว์ประเภทต่าง ๆ ให้เราเรียนรู้

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Qi4H9ibBSWLw4KLfA

ค่าเข้า : 2,200 เยนต่อคน

ไฮไลต์ของ AOAO SAPPORO จะอยู่บนชั้น 6 ซึ่งเป็นส่วนที่เราชอบที่สุดนั่นคือโซนตู้แมงกะพรุนในแทงก์น้ำขนาดใหญ่ จัดวางกรอบให้เป็นทรงกลมเหมือนเราลงเรือดำน้ำที่ภายนอกมีแมงกะพรุนตัวขาวว่ายเวียนอย่างหนาแน่น พริ้วไหวไปตามกระแสน้ำ ความโปร่งแสงของเขายังเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ดูสวยงาม สามารถเปลี่ยนสีไปตามไฟของตู้ได้อย่างแนบเนียน ยิ่งมองยิ่งพาใจนิ่งสงบ และอีกโซนคือน้อง ๆ แพนกวิน ที่เขามีโชว์ให้อาหารช่วงเวลา 11:00 และ 16:00 น. มาดูน้อง ๆ ขาสั้น ๆ ดำผุดดำว่ายแล้วมันพาใจบางจริง ๆ

Sapporo’s Downtown 

หากใครได้นอนพักอยู่ที่ซัปโปโรแล้วมีเวลาสักครึ่งวัน เราอยากให้ลองเดินเล่นย่าน Downtown สักรอบนึงเพื่อไปเช็กอินตามแลนด์มาร์กประจำเมืองอย่าง  ‘Sapporo TV Tower’ หอคอยกลางสวนโอโดริที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1956 ปัจจุบันเปิดเป็นจุดชมวิวให้เราเห็นเมืองมุมสูงได้แบบ 360 องศา กระซิบนิดนึงว่าพระอาทิตย์ตกช่วงหิมะเต็มเมือง วิวบนนี้จะปังมากนะ และอีกแห่ง ‘Sapporo Clock Tower’ อาคารอายุ 143 ปีที่กลายเป็นไอคอนประจำเมือง โดยนาฬิกาที่เห็นนี้มาจากกรุงบอสตัน ทำงานด้วยแรงโน้มถ่วงเพียงอย่างเดียว ซึ่งภายในเขาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราได้เยี่ยมชมด้วย

 เปิดทุกวัน 24 Hr.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/A7RKQNBkEfmgjFbb7

Susukino Station

แล้วก็มาถึงย่านสำหรับนักช็อป ‘Susukino Station’ สถานีที่ตั้งของถนนคนเดินในร่ม Tanukikoji Shopping Street ย่านเศรษฐกิจที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1869 จนถึงปัจจุบันที่ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งความบันเทิงยามค่ำคืนอัดแน่นอยู่ตามตรอกซอกซอย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าแฟชั่นสตรีทแบรนด์ ไฮเอนแบรนด์ รองเท้า เครื่องประดับ ร้านขายยา-เครื่องสำอาง ที่ทุกอย่างติดป้าย Tax-Free เป็นเหมือนป้ายเรียกวิญญาณที่ดูดเราเข้าไปได้ทุกที สำหรับคุณผู้ชายที่ไม่อยากช็อปก็สามารถไปหยอดตู้คีบตุ๊กตา หาเครื่องดื่มเย็น ๆ นั่งรอได้ไม่เสียหาย

⏰ เปิดทุกวัน ร้านค้าส่วนมากเปิดเวลา 10:00 – 20:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VB4zbsGhrZYnabEN8

และสายคอนเทนต์ก็อย่าลืมไปถ่ายภาพกับป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ของ KIRIN ที่ติดอยู่บนมุมตึกกลางแยกใหญ่ด้วยล่ะ ถือเป็นมุมมหาชนที่คนทั่วโลกเขาเดินหน้ามาเช็กอินกันเลยนะ นี่ขนาดเราเดินถึงเกือบห้าทุ่ม ย่านนี้ก็ดูยังไม่มีวี่แววว่าจะเงียบเหงา แต่กลับคึกคักกว่าช่วงเย็นแบบสุดโต่ง เหมาะสมกับคนที่ชอบชีวิต Nighlife สุด ๆ

Ramen Shingen 

มื้ออุ่นท้องในค่ำคืนสุดท้ายนี้เราเลือกปิดจบด้วยราเม็งของร้าน ‘Ramen Shingen’ ร้านยอดฮิตของคนท้องถิ่นที่ต้องยืนรอคิวอยู่นานกว่าจะได้กิน แต่เมื่อได้ลิ้มรสชาติของ Tasty Miso Flavor ถ้วยนี้แล้วถึงกับตาโต ซุปมิโซะร้อน ๆ ที่ความเข้มข้นเค็มกลมกล่อมจากการต้มกระดูกหมู หอมกลิ่นปลาแห้งบาง ๆ เคลือบมาบนเส้นราเม็งนุ่มนอกหนึบใน ที่เบลนด์รสเค็มให้อยู่ในระดับกำลังดี เท่านี้ความเหนื่อยก็มลายหายไปสิ้น เขาเล่าว่าซุปที่เราซดอยู่นี้ใช้เวลาปรุงถึง 4 วันเลยทีเดียว สมกับที่ได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งใน Best Ramen in Sapporo ที่ชาวเน็ตแนะนำ

⏰ เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 01:00 น.

📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9M11MVwe6ZCd9qui6

ฮอกไกโดถือเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคของญี่ปุ่นที่สามารถเที่ยวได้อย่างง่ายดาย แถมความสวยในแต่ละฤดูยังคอนทราสต์กันสุด ๆ สามารถเที่ยวได้ทั้งปี อย่างช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ก็จะมีความสวยแบบญี่ปุ่นผสานยุโรปในแบบที่ใครก็ทำแทนไม่ได้ แถมยังเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศทำให้มีทั้งอาหาร ของหวานอร่อย ๆ อยู่ทั่วทุกมุมเมือง ไหนจะสวนสัตว์ สวนสาธารณะที่ปังสุดในญี่ปุ่นอีก ไม่ตามมาไม่ได้แล้วนะ กดจองตั๋วบินตรงมาได้เลย ง่าย ๆ แค่คลิกที่ Thai AirAsiaX

,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *