Autunm in Kunming – Lijiang 5 Days 4 Nights 🇨🇳
เมืองที่คู่ควรแก่การเป็นสถานที่เปิดซิงแก่คนที่อยากเที่ยวจีนครั้งแรก ยกให้ ‘คุนหมิง ลี่เจียง’ กับแพลนเที่ยวที่ครบทุกรสชาติ!!
จากที่เคยได้ไปเยือนเมื่อหลายปีก่อน สองเมืองนี้ก็ยังคงอยู่ในห้วงความคิดถึงอยู่เสมอ รอบนี้เลยจัดแพลนมาเต็ม ๆ แบบ 5 วัน 4 คืน เพื่อดื่มด่ำกับความงามสุดอลังในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองมรดกโลกฝั่งยูนนาน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ชิมหม้อร้อนพื้นเมืองอร่อยสะบัดถูกปากคนไทยท่ามกลางลมเย็น นั่งชิลในคาเฟ่วิวภูเขาหิมะ หรือจะจิบชาบนหลังคาเมืองเก่า ได้รูปจึ้ง ๆ มาทำคอนเทนต์ปัง ๆ ได้ไม่หยุด
ก่อนไปเดินเล่นในเมืองที่ผสานความเก่าใหม่เข้ากันอย่างลงตัว สร้างสีสันสไตล์จีนอันเป็นเอกลักษณ์ เรื่องผู้คนบอกเลยว่าน่ารัก ไม่วุ่นวาย เดินทางสะดวก เมืองสะอาดกว่าแต่ก่อนเยอะม๊ากกกกก ไม่เชื่อก็ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองดูได้ แค่บินตรงกับ AirAsia ใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น
จองเลย : https://air.asia/5L9JB




Flight Bangkok to Kunming
ไม่ว่าจะบินใกล้ไกล ในหรือนอกประเทศ สายการบินแรก ๆ ที่เราคิดถึงจะต้องเป็น AirAsia ด้วยราคาที่เป็นมิตร สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า พร้อมบริการที่เหมาะสมเป็นเพื่อร่วมทาง โดยเขามีบินตรงไป-กลับทุกวันจากดอนเมือง (DMK) -สนามบินนานาชาติฉางสุ่ย คุนหมิง (KMG) ขาไปเวลา 09:10 – 12:30 น. ส่วนขากลับเป็นเวลา 13:30 – 14:50 น. กดเลือกแพ็กสุดคุ้มมีทั้งน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม เลือกที่นั่ง และอาหารอุ่นร้อน ซึ่งวันนี้เราสั่งเป็นข้าวแกงเขียวหวานไข่เค็ม รสแซ่บทิ้งทวนก่อนออกไทย และกาแฟนมแตงโม ซีซันนอลเมนูที่ไม่ควรพลาด นอกจากเส้นทางนี้ยังมีบินตรงลงจีนอีกมากถึง 11 เส้นทาง ได้แก่ กวางโจว เซินเจิ้น เฉิงตู ฉางซา ฉงชิ่ง คุนหมิง หางโจว อู่ฮั่น ซีอาน เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ยิ่งจองไวยิ่งได้ตั๋วราคาดี กดได้เลยที่ : https://air.asia/5L9JB


Kunming – Lijiang Travel Guide 2024
- รถไฟความเร็วสูงระหว่างคุนหมิง – ลีเจี่ยงควรจองตั๋วล่วงหน้าก่อนเดินทาง อย่างของเราจองผ่าน : https://12go.asia/th/train ได้ตั๋วหลังจองทันทีและการันตีที่นั่งด้วย
- เมืองเก่าลี่เจียงแนะนำการเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด สามารถเรียกใน DiDi ในแอปฯ Alipay ง่ายดายมาก
- One Day trip Jade Dragon Snow Mountain แนะนำให้ซื้อกับทัวร์ตามโรงแรม หรือย่านเมืองเก่า มีขายกันเยอะมาก สะดวกสบายการันตีได้ขึ้นชัวร์ ๆ ไม่ต้องมาลุ้นซื้อตั๋วกระเช้าเอง อย่างของเราซื้อจาก FB:Jayi JI เป็นราคาเหมารถไปกลับแบบไพรเรท เที่ยวไฮไลท์หลัก ๆ คือ Yunshanping หิมะมังกรหยกกระเช้าเล็ก – Blue Moon Valley หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน – โชว์ Impression Lijiang รวมอาหารกลางวันคนละ 500 หยวนเท่านั้น
- Alipay สำคัญมากเพราะใช้จ่ายแทบทุกอย่างตั้งแต่การเดินทางรถไฟ รถประจำทาง ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สามารถผูกกับบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตได้เลยง่าย ๆ
- Google Translate สำคัญมาก เพราะคนจีนส่วนใหญ่จะไม่ใช้ภาษาอังกฤษ แต่เค้าให้ความร่วมมือในการพูดคุยสุด ๆ น่ารักมากกก
- Baidu เป็นแอปฯ แผนที่ฉบับจีน คล้าย ๆ Google Map เอาไว้ดูระยะทาง พิกัดสถานที่ รวมถึงวิธีเดินทางต่าง ๆ
- อินเตอร์เน็ตแนะนำให้เปิดโรมมิ่งของค่ายมือถือบ้านเรา หรือซื้อ E-Sim เพราะสามารถใช้ Facebook , Line , Youtube ได้
- ค่าเงิน 1 หยวน เท่ากับ 5 บาท คิดง่าย ๆ แบบนี้ไปเลย

My Itinerary
Day 1 : Bangkok – Kunming – Lijiang
- รถไฟความเร็วสูง Kunming – Lijiang
- Lijiang Old Town
- Hidden·Sifu Yashe Designer View Meisu (Lijiang Flagship Store)
- ชาบู 木王宴语·野生鲜菌火锅 (玉河店)
Day 2 : One Day trip Jade Dragon Snow Mountain
- Yunshanping หิมะมังกรหยกกระเช้าเล็ก
- Blue Moon Valle หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
- Impression Lijiang
- Black Dragon Pool
- ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน 久哥米线
Day 3 : Lijiang – Kunming
- อ่างเก็บน้ำ 清溪水库
- คาเฟ่ Rizhaojin Shan Kafei Guan
- Baisha Ancient Town
- คาเฟ่ 瓦蓝·璞石屋顶咖啡
- รถไฟความเร็วสูง Lijiang – Kunming
Day 4 : Kunming
- 南翔生煎(南强街店
- Full of beans
- Daguan Park
- สะพาน Gong Qiao
- Old Street City Walk
- บะหมี่ไข่ปู 蟹来蟹往蟹黄面
- Hi Coffee Bar
- Cui Lake
- ชา 上山喝茶(翠湖店)
Day 5 : Kunming – Bangkok

Day 1 : Bangkok – Kunming – Lijiang
รถไฟความเร็วสูง Kunming – Lijiang
พอแลนด์ดิง ผ่านตม. รับกระเป๋าปุ๊บ เราก็ตรงดิ่งไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงเพื่อไปยังลี่เจียงทันที โดยเส้นทาง Kunming-Lijiang จะใช้เวลา 3 ชม. กว่า ๆ ราคาตั้งแต่ 900 – 1,500 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา มีให้เลือกแบบที่นั่งชั้น 1 และชั้น 2 แนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนนะ เพราะบางทีจะเต็มตลอดโดยเฉพาะที่นั่งชั้น 1 และควรเผื่อเวลาหลังลงเครื่อง จัดการตัวเอง และเดินทางมาสถานีสัก 2 ชม. จะได้ไม่เสี่ยงต่อการตกรถไฟนะฮะ โดยเราเลือกขึ้นที่ Kunming South Station เดินทางด้วย DiDi จากสนามบินราว ๆ 40 นาที ถ้าใครจองตั๋วมาล่วงหน้า สามารถใช้พาสปอร์ตสแกนที่ตู้ตรวจตั๋วเข้ามาด้านในได้เลย
การจอง : เราจอง ผ่าน https://12go.asia/th/train ได้ตั๋วหลังจองทันที และการันตีที่นั่งด้วย


Lijiang Old Town
สำหรับลี่เจียงเราขอนิยามเมืองนี้ว่าสวรรค์บนดินที่แท้จริง โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาหิมะอันยิ่งใหญ่ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,400 เมตร พร้อมประวัติยาวนานกว่า 800 ปี เคยมีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ จากการเป็นศูนย์กลางการเดินทางของรถม้าโบราณ ทำการค้าชาเชื่อมต่อไปยังทิเบต เสฉวน และยูนนาน ที่นี่จึงเต็มไปด้วยสมบัติทางวัฒนธรรม สถาปัตยธรรม วิถีชีวิต เรื่องราวของพุทธศาสนาลัทธิเต๋า และยังเป็นรากเหง้าของชาวหน่าซี จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1997 เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน สมกับที่ใคร ๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมาสักครั้งในชีวิต
การเดินทาง : แนะนำ DiDi แต่ถ้านอนย่านเมืองเก่าสามารถเดินถึงกันได้หมด
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/58/4q



Hidden·Sifu Yashe Designer View Meisu (Lijiang Flagship Store)
สิ่งหนึ่งที่เราชอบมากเวลามาเมืองเก่ากลางหุบเขาของจีนจะเป็นเรื่องที่พัก รอบนี้เรานอนที่ ‘ Hidden·Sifu Yashe Designer View Meisu (Lijiang Flagship Store)’ บ้านโบราณใจกลางเมืองเก่าลี่เจียง ที่ภายนอกดูแสนจะคลาสสิก แต่ภายในนั้นรีโนเวทใหม่ให้ดูโฮมมี่น่าอยู่ อบอุ่นไปด้วยงานไม้ของตกแต่งที่ช่วยเล่าวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านได้อย่างดี พร้อมเครื่องใช้สมัยใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กลางบ้านมีบ่อน้ำที่ล้อมด้วยพุ่มดอกไม้หลากสีชวนสดชื่น ชั้นบนสุดยังเป็นดาดฟ้าให้เราเทควิวเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้อย่างตราตรึง
การจอง : เราจองผ่านแอปฯ Trip.com ห้องละ 1,300/คืน ถูกมากกกก
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟลี่เจียง นั่ง DiDi ราคา 30 หยวน
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/f7/M0v




木王宴语·野生鲜菌火锅 (玉河店)
กว่าจะถึงลี่เจียงก็ค่อนข้างจะเย็นแล้ว เราเลยให้รางวัลตัวเองด้วยการจัดมื้ออาหารที่ ‘木王宴语·野生鲜菌火锅 (玉河店)’ ร้านหม้อร้อนชื่อดังของเมือง ที่มีพระเอกเป็นเมนูเห็ด และเนื้อจามรี สัตว์ในตะกูลวัวที่มักพบเห็นในที่ราบสูงแถบธิเบต และเทือกเขาหิมาลัย โดยเนื้อของเขาจะมีกลิ่นที่แรงกว่าเนื้อวัวธรรมดา เพื่อกลบกลิ่นจึงนิยมนำมาประกอบอาหารที่มีความจัดจ้าน เช่น ผัดพริก ตากแห้ง ต้มในซุปหม่าล่า หรือจะกินกับซุปออริจินัลที่มีความกลมกล่อมหอมเครื่องเทศก็ไม่ติด พอซุปซึมเข้าเนื้อแล้ว เราจะได้เท็กซ์เจอร์หนึบหนับมีกลิ่นจามรีฟุ้งแต่ไม่ฉุนมาก เตารอบ ๆ หม้อต้มยังเป็นกระทะให้เราย่างหมูสามชั้นได้ด้วย เป็นหม้อ 2 in 1 สไตล์จีนที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
การเดินทาง : แนะนำ DiDi แต่ถ้านอนย่านเมืองเก่าสามารถเดินถึงกันได้หมด
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/09/dy-d



Day 2 : One Day trip Jade Dragon Snow Mountain
หลังจากนอนเต็มอิ่มแบบเอเนอร์จีเหลือล้นแล้ว วันนี้เราก็จัด One Day Trip สู่ภูเขาหิมะมังกรหยก ไอคอนิกประจำเมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ยิ่งใหญ่ตั้งแต่พื้นที่ขนาด 415 ตารางกิโลเมตร ยอดเขาที่สูงที่สุดชื่อว่า ช่านจึโต่ว 扇子陡 อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 5,596 เมตร ทำให้มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ถูกยกให้เป็นอุทยานธรณีธารน้ำแข็งแห่งชาติ คงเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่คล้ายมังกรเงินที่บินได้จึงเป็นที่มาของชื่อภูเขา โดยจุดชมวิวของที่นี่จะมีกระเช้าให้เลือก 3 สายที่จะมีรูปแบบ และปลายทางแตกต่างกันคือ Glacier กระเช้าใหญ่แบบเดียวที่ขึ้นไปยังยอดเขาหิมะมังกรหยกได้ ส่วนกระเช้าเล็กจะมี Maoniuping และ Yun shan ping ที่เราเลือกขึ้นนั่นเอง รอบนี้โชคร้ายเพราะช่วงที่เราไปกระเช้าใหญ่ปิดปรับปรุงพอดี ทำให้เราเลือกขึ้นไปยังเส้นทาง Yun shan ping แทน
การจอง One Day trip Jade Dragon Snow Mountain : เราจองผ่านเอเจนซี่ FB:Jayi JI สามารถคุยไทยได้ โดยเราเหมารถไปกลับแบบไพรเรท 3 คน เที่ยวไฮไลต์หลัก ๆ คือ Yunshanping หิมะมังกรหยกกระเช้าเล็ก – Blue Moon Valley หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน – โชว์ Impression Lijiang รวมอาหารกลางวันคนละ 500 หยวนเท่านั้น โดยราคานี้ไม่รวมรถกอล์ฟด้านในอุทยานอีกคนละ 60 หยวนนะ



Yun Shan Ping
ปลายทางที่เราหมายปองนั้นอยู่ที่ทุ่งหญ้าหยุนซันผิง (Yun Shan Ping) ที่ราบอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,240 เมตร ตั้งใจมาให้ตรงกับช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้สัมผัสทิวทัศน์ของป่าเมืองหนาวขณะผลัดใบ ท่ามกลางเทือกเขาหิมะสูงใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง โดยที่นี่จะเป็นสีส้มแดงเต็มที่ตั้งแต่พ.ย. และเมื่อเข้าสู่หน้าหนาวแถบนี้จะกลายเป็นหิมะขาวโพลนที่มีต้นไม้สูงยืนแผ่กิ่งก้านที่แห้งผาก เป็นเฟรมมินิมอลที่แค่คิดภาพก็ชวนใจบางแล้ว ยิ่งช่วงที่เราไปอยู่ช่วง ๆ ปลาย เดือนต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี แต่ถ้าใครมาช่วงกลางเดือนพ.ย. เราว่าจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีที่เหลืองอร่ามทั้งภูเขาแห่งนี้แน่นอน





Blue Moon Valle
หลังจากเก็บภาพด้านบนจนเต็มอิ่ม เราก็ขึ้นรถกอล์ฟที่ซื้อมาในราคา 60 หยวน นั่งวนลงมาที่แลนด์มาร์คที่สองของวันคือ ‘Blue Moon Valley’ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ที่มีทะเลสาบสีเทอร์ควอยส์ส่องแสงระยิบระยับยามต้องแดดราวอัญมณีอันเลอค่า ที่นี่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 4,000 เมตร โดยมวลน้ำเหล่านี้เกิดจากการละลายของน้ำแข็งจึงมีอุณหภูมิที่เย็นตลอดปี ทอดยาวไปไกลกว่า 3 กิโลเมตร มีน้ำตกเล็ก ๆ ที่ทำให้เราเห็นการเคลื่อนตัวของน้ำอย่างไม่หยุดนิ่ง พร้อมพื้นหลังที่เป็นภูเขาหิมะมังกรหยกยืนตระหง่านอย่างสง่างาม เมื่อมองจากมุมไกลเราจะเห็นรูปทรงของทะเลสาบเป็นรูปจันทร์เสี้ยวสีน้ำเงินตามชื่อของเขานั่นเอง



สีที่สดใสนี้มาจากแร่คอปเปอร์ซัลเฟต ซึ่งเป็นส่วนประกอบของทองแดง และมีมากบนภูเขาหิมะมังกรหยก แม้น้ำจะดูใสบริสุทธิ์มาก แต่ไม่สามารถลงเล่นหรือบริโภคได้ เราสามารถเข้าไปใกล้ชิดได้ด้วยการเดินไปบนสะพานที่ทอดยาวผ่ากลางทะเลสาบ ให้เราหามุมเก็บภาพได้อย่างสบายอารมณ์ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีเคล้าลมเย็นได้แบบไม่มีคนแย่งซีน ซึ่งช่วงนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่ 8-19 องศาเท่านั้น แถมยังมีน้องจามรีมายืนรอเป็นดาราหน้ากล้องให้เราไปร่วมเฟรม บอกเลยว่าจุดนี้ใช้เวลาเดินถ่ายรูปฉ่ำเป็นชั่วโมง




Impression Lijiang
ไฮไลต์สุดท้ายของการเที่ยวบนภูเขาหิมะมังกรหยกคือโชว์ ‘Impression Lijiang’ โชว์สุดตระการที่กลายเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของประเทศจีน ด้วยการเนรมิตหน้าผาสูง 3,000 เมตรให้กลายเป็นเวทีการแสดง มีพื้นหลังเป็นภูเขาหิมะที่มองตลอดวันก็ไม่มีคำว่าเบื่อ พร้อมนักแสดงแต่งกายเป็นชนกลุ่มน้อยหลายร้อยคน มาเต้นประกอบเพลงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณี วิถีชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ ในลี่เจียง ทั้งชนเผ่าหน่าซี (Naxi) ชนเผ่าไป๋ (Bai) และชนเผ่าหยี (Yi) ที่สร้างความตื่นตะลึงในตลอดการแสดง เพราะเขามีทั้งความพร้อมเพรียง และความครีเอตแบบต้องยกนิ้วให้เลย


Black Dragon Pool
จากนั้นเรามาชมสวนสาธารณะที่ถูกจดทะเบียนเป็นมรดกโลกกันต่อ ‘สระน้ำมังกรดำ (black dragon pool)’ หรือที่คนจีนเรียกว่าสวนยู่ฉวน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงประมาณ 1 กม. ถูกสร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ชิงเมื่อปี 1737 มีตำนานเล่าว่ามีคนเคยเห็นมังกรดำแหวกว่ายอยู่ในนี้จึงถูกตั้งชื่อว่าสระมังกรดำ ความพิเศษของที่นี่เราขอยกให้สถาปัตยกรรมของชาวฮั่น ทิเบต หน่าซีที่ถูกผสมปนเปอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะสะพานหินที่ทอดไปสู่ศาลากลางน้ำ ถ้ามาวันฟ้าเปิด ด้านหลังเป็นยอดเขาหิมะมังกรหยกสูงใหญ่เป็นแบ็คกราวนด์ ถือเป็นมุมมาสเตอร์พีซของเขาเลย
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10 หยวน (จากเมืองเก่าลี่เจียง)
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/d7/hRM




久哥米线
ปิดท้ายวันด้วยอาหารเย็นวันนี้เรามาฝากท้องกันที่ ‘久哥米线’ อาหารท้องถิ่นที่มีเมนูเด่นเป็นก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน จัดเสิร์ฟมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยหม้อดินที่มีซุปร้อน ๆ มาพร้อมสะพานที่เรียงรายไปด้วยเนื้อสัตว์ ลูกชิ้น ผัก โดยเขาจะมีซุปให้เราเลือกหลากหลาย ส่วนประกอบที่เราชอบที่สุดคือเส้นจะมีความนุ่มหนึบลักษณะคล้ายก๋วยจั๊บญวนที่เราคุ้นเคย เมื่อใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อ เราก็จะได้ก๋วยเตี๋ยวชามโต พอได้ซดน้ำซุปรสเค็มเข้มข้นร้อน ๆ หลังเที่ยวมาเหนื่อย ๆ ในอากาศหนาว ๆ แล้ว มันสุดจะฟินจริง ๆ
การเดินทาง : แนะนำ DiDi แต่ถ้านอนย่านเมืองเก่าสามารถเดินถึงกันได้หมด
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/dc/h4GK


Day3 : Lijiang – Kunming
清溪水库
รีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาดื่มด่ำกับไอเย็นเคล้าแมกไม้ที่กำลังผลัดใบ ณ ‘อ่างเก็บน้ำชิงซี’ (清溪水库) ยืนหนึ่งเรื่องทัศนียภาพอันงดงาม กับผืนน้ำนอนแน่นิ่งที่จะถูกย้อมสีไปตามฤดูกาล หากมาช่วงหน้าร้อน ฟ้าเปิด เราจะเจอกับภาพภูเขาหิมะมังกรหยดสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ ฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นสวนป่าสีเหลืองส้มไล่เฉดสลับไปมา และช่วงฤดูหนาวที่นี่ก็คงขาวโพลนไปด้วยหิมะที่มาช่วงสร้างบรรยากาศแสนโรแมนติก
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10 หยวน (จากเมืองเก่าลี่เจียง)
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/09/3kg


Rizhaojin Shan Kafei Guan
จากนั้นเราก็เริ่มเติมคาเฟอีนแก้วแรกให้ร่างกายที่ ‘云堤岸 Rizhaojin Shan Kafei Guan’ อยู่ระหว่างทางไปหมู่บ้านไป๋ซา คาเฟ่ที่เหล่าอินฟลูฯ พส.จีนชอบมาทำคอนเทนต์ แต่ช่วงที่เรามาไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ร้านจะเป็นเหมือนกระท่อมเล็ก ๆ ตั้งโดดเดี่ยวบนเนินเขา เป็นทั้งที่พักและคาเฟ่ จัดเสิร์ฟทั้งชาและกาแฟ มุมเด็ดของที่นี่จะต้องขึ้นไปบนหลังคา ถ่ายออกมาจะได้ภาพอลังการงานเขาที่มีเทือกเขา Rizhaojin เป็นพื้นหลัง รับรองว่าชาวโซเชียลเห็นจะต้องอิจฉาตาร้อนอย่างแน่นอน
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากเมืองเก่าลี่เจียง)
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/bd/kjCi




Baisha Ancient Town
จากนั้นเราก็เดินทางเข้ามายัง ‘หมู่บ้านไป๋ซา’ (Baisha Ancient Town) หมู่บ้านโบราณที่อยู่ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงไปประมาณ 8 กม. เริ่มสร้างตั้งแต่ช่วงราชวงศ์ถัง ก่อนถูกตั้งเป็นเมืองหลวงของลี่เจียงในสมัยราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน เคยรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ที่เรายังสามารถเห็นวิถีชีวิตของชาวหน่าซีได้ชัดแจ้งกว่าที่ไหน ๆ อีกทั้งยังมีวัดฝู่กั๋ว วัดแม่แห่งศาสนาพุทธนิกายทิเบตที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมศาสนาเมื่อครั้งอดีต และยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่ใช้เวลาสร้างนานกว่า 300 ปี โดยจิตรกรชาวฮั่น ทิเบต หน่าซี และชาติอื่น ๆ จนกลายเป็นผลงานผสมผสานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และที่นี่ยังยืนหนึ่งเรื่องคาเฟ่ด้วยนะ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 15-20 หยวน (จากเมืองเก่าลี่เจียง)
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/3d/t2J






瓦蓝·璞石屋顶咖啡
มาต่อกันที่ร้าน ‘瓦蓝·璞石屋顶咖啡’ กลุ่มอาคารแบบโบราณที่ผนังถูกสร้างขึ้นจากก้อนหินคละไซซ์ ก่อกันเป็นโครงบ้านสุดคลาสสิก มีหลังคากระเบื้องสีดำสไตล์จีนโบราณเหมือน ๆ กับบ้านหลังอื่น ๆ พร้อมพื้นที่ดาดฟ้าให้เราขึ้นไปนั่งชมวิวมุมสูง ได้ภาพยืนโดดเด่นท่ามกลางหมู่บ้านและหุบเขาแบบมงลง ส่วนเครื่องดื่มขนมก็พรีเซนต์จึ้งไม่แพ้กัน กับ Jade Dragon Snow Mountain Mousse Cake เค้กรูปภูเขาหิมะรสชาติหวานอ่อน ๆ กินคู่กับกาแฟเข้มละมุนถือว่าลงตัวใช้ได้เลยล่ะ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 20-30 หยวน (จากเมืองเก่าลี่เจียง) และต้องเสียค่ารถกอล์ฟอีกคนละ 30 หยวนเข้าไปในเมือง
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/40/wlSu





Day 4 : Kunming
南翔生煎(南强街店
ช่วงเย็นของเมื่อวานเราย้ายร่างจากลีเจี่ยงด้วยรถไฟความเร็วสูงกลับมาที่คุนหมิง พักผ่อนให้เต็มอิ่มแล้วตื่นสาย ๆ มาจัด breakfast ที่ ‘南翔生煎(南强街店)’ ร้านชื่อดังที่มีเมนูยอดฮิตอย่าง Shanghai Shengjian หรือซาลาเปาทอดหนานเซียงที่ด้านในจะเป็นเนื้อสับและกุ้งปรุงรสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องปรุง กัดไปจะมีน้ำมาเพิ่มความขลุกขลิกคล้ายกับเสี่ยวหลงเปาทอด แต่แป้งจะมีเนื้อหนานุ่มแบบซาลาเปา ส่วนจานหลักเราเลือกบะหมี่ยูนนาน น้ำซุปใสของเขาจะออกเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นเนื้อ ส่วนแบบแห้งจะเป็นรสชาติออกเค็ม เปรี้ยว เผ็ด ใครชอบอาหารยูนนานแท้ต้องมาลอง
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟสายสีเขียว 5 มาใต้ดินลงที่ Wuyi Road Station ทางออก B และเดินต่ออีก 10 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/6f/r6v




Full of beans
ฃกินคาวเสร็จก็มาตบท้ายมื้ออาหารด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้วกับ ‘Full of beans’ ร้านกาแฟแสนคิวต์ที่เน้นการตกแต่งด้วยสีขาวฟ้า มีมาสคอตเป็นตัวการ์ตูนคล้ายถั่วตัวยาวรอทักทาย แม้ตัวร้านจะเป็นแบบ Open-air แต่ด้วยอากาศช่วงพ.ย.กำลังเย็นสบายจึงไม่เป็นปัญหา ตอนอ่านเมนูสายตาเราไปสะดุดเข้ากับ Viennesecoffee จนต้องสั่งมาลอง หน้าตาน้องน่ารักมาก โดยเมนูนี้กาแฟแยกเลเยอร์ ท็อปปิงด้วยวิปครีมและมาร์ชเมลโลว์น้องเป็ดนอนสบายอารณ์ รสชาติออกแนวลาเต้แต่มีความนัวของครีม พอเจอความเข้มของกาแฟก็กลายเป็นความบาลานซ์สดชื่นสุด ๆ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟมาใต้ดินลงที่ Wuyi Road Station ทางออก A และเดินต่ออีก 15 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/9e/MUei




Daguan Park
สำหรับกิจกรรมเดินย่อยในเช้านี้ เราเลือกมาที่ ‘Daguan Park’ สวนสาธารณะต้ากวน เริ่มสร้างมาเมื่อ 340 ปีก่อน โดยพระภิกษุผู้ต้องการสอนคำสอนทางศาสนาพุทธ ต่อมาได้ 8 ปี ก็ได้มีการปลูกสร้างสวนสาธารณะเพิ่มเติม ภายในจึงมีทั้งสิ่งปลูกสร้างมากมายที่ถูกทำลายและบูรณะขึ้นใหม่อยู่หลายครั้ง และยังมีสวนหิน สระน้ำ ต้นบอนไซขนาดใหญ่ เรียกว่าหาสปอตถ่ายรูป ครีเอตมุมชิค ๆ ได้เยอะมาก ยิ่งมาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสียิ่งได้สีสันที่แตกต่าง ใครเป็นสายถ่ายภาพแนะนำให้เผื่อเวลาไว้สัก 2 ชม.ได้เลย
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 15-20 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถบัสสาย 91 มาลงที่สถานที Sunshine Garden Community Station และเดินต่ออีก 15 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/e8/srjh



สะพาน Gong Qiao
อีกจุดที่เราไม่อยากให้พลาดขณะเดินเที่ยวในเมือง ‘สะพาน Gong Qiao’ สะพานหินขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงโค้งเป็นครึ่งวงกลม เมื่อสะท้อนกับน้ำแล้วก็กลายเป็นวงกลมคล้ายดวงจันทร์โดยสมบูรณ์ ในช่วงปลายต.ค. – พ.ย. บริเวณนี้จะสวยเป็นพิเศษ เมื่อมีกิ่งก้านของต้นไม้สีเข้มที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยใบไม้เหลือง-ส้มมาเป็นองค์ประกอบ ถ่ายรูปออกมาแล้วกลายเป็นวิวคุนหมิงที่ติดแกลมสุด ๆ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถบัสสาย 1 มาลงที่สถานี 920 Hospital Station
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/b6/i2cc


Old Street City Walk
สำหรับสาว ๆ นักชอปหนุ่ม ๆ นักฮอปหรือใครที่อยากลิ้มลองสตรีทฟู้ดขอแนะนำให้มา ‘Old Street City Walk’ ย่านคนเดินที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้าขายของแฟชั่น ของที่ระลึก คาเฟ่ ร้านอาหาร และมุมถ่ายรูปตามตึกฟีลสตรีทอยู่เยอะมาก จุดที่เราขอนำเสนออยู่บริเวณหน้าหน้าโรงแรม Moon and Chalice อาคารสีเหลืองสไตล์ฝรั่งเศสกลางศตวรรษที่ 20 ที่ตรงมุมถนนถูกออกแบบให้เป็นทรงโค้งมนเหมือนพระจันทร์เสี้ยว พร้อมป้ายบอกทางคูล ๆ ให้เราไปยืนแอคท่าถ่ายรูปเก๋ ๆ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟใต้ดินสายสีเขียว 5 ลงสถานี Wuyi Road Station ทางออก F และเดินทางต่ออีก 7 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/15/1rT






อยากจะบอกว่าสมัยนี้ห้องน้ำสาธารณะตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจีนมีเยอะมาก ที่สำคัญคือเข้าฟรี และสะอาดมาก ลบภาพจำจีนเก่า ๆ ไปได้เลย


蟹来蟹往蟹黄面
เมนูมื้อเที่ยงวันนี้เอาใจคนรักเส้นแบบเต็ม ๆ ที่ ‘蟹来蟹往蟹黄面’ กับบะหมี่ไข่ปู ที่เสิร์ฟมาจานใหญ่สะใจ โบกหน้าไข่ปู และเนื้อปูมาแบบจุก ๆ รสชาตินัวฉ่ำหอมกลิ่นทะเล กินกับบะหมี่ที่ลวกมาแบบนุ่มนอกกรุบในแล้วเพอร์เฟกต์สุด ๆ หรือถ้าใครกินข้าวก็สั่งแบบข้าวราดมาได้ด้วยเช่นกัน แล้วอย่าลืมสั่งปอเปี๊ยะปู ผัดผักมากินแกล้มจะช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเลยทีเดียว
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟใต้ดินสายสีเขียว 5 ลงสถานี Wuyi Road Station ทางออก F และเดินทางต่ออีก 10 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/e8/srjh



Hi Coffee Bar
เครื่องดื่มยามบ่ายเราปักหมุดไว้ที่ ‘Hi Coffee Bar’ คาเฟ่ที่มีมู้ดโทนออกเกาหลีหน่อย ๆ ด้วยการใช้โทนสีขาวดำ มีการตกแต่งร้านไปตามธีม อย่างช่วงฮาโลวีนก็จะมีฟักทองลูกโตติดอยู่หน้าร้าน วางฟักทองแกะหน้าปิศาจไว้ด้านหน้า พร้อมผีน้อยชุดขาวห้อยต่องแต่ง วาดกราฟฟิตี้นิด ๆ หน่อย ๆ ให้ดูเป็นกิมมิก ชั้นบนมีระเบียงแบบเอาท์ดอร์ให้นั่งชิล ถือเป็นบรรยากาศที่น่าจะถูกอกถูกใจสายคาเฟ่ฮอปมากทีเดียว
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟสายสีเขียว 5 มาใต้ดินลงที่ Yuantongshan Station ทางออก B2 และเดินต่ออีก 5 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/d7/LWei




Cui Lake
แม้จะเป็นเมืองใหญ่แต่เรื่องพื้นที่สีเขียวเขาก็ให้ความสำคัญมากไม่แพ้กัน ที่นี่คือ ‘Cui Lake’ หรือ Green Lake Park ที่มีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 เปล่งประกายไปด้วยต้นหลิวสูงใหญ่ ทะเลสาบ ดอกไม้นานาพรรณ จนได้สมญานามว่าเป็นหยกแห่งเมืองคุนหมิง โดยช่วงใบไม้ร่วงที่นี่จะอร่ามไปด้วยสีเหลืองส้มจากการผลัดใบ ทอดน่องไปพร้อมเสียงลม เสียงนกสร้างบรรยากาศสุดฟิน แถมหน้าหนาวยังเป็นจุดยอดนิยมในการส่องนกนางนวลคอดำอีกด้วย ใครอยากหาที่นั่งเล่นชิลล์เสพอากาศดี ๆ เราว่าที่นี่แหละตอบโจทย์ทั้งยามเช้า และยามเย็นสุด ๆ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟสายสีเขียว 5 มาใต้ดินลงที่ Huashan West Road Station ทางออก B และเดินต่ออีก 8 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/7d/bN



上山喝茶(翠湖店)
ปิดจบทริปกันแบบเด็กอ้วนด้วยการไปดื่มชาของร้าน ‘上山喝茶(翠湖店)’ ร้านชาแบรนด์ดังที่เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว จัดเสิร์ฟชาแบบสเปเชียลตี ที่มีซิกเนเจอร์เบลนด์ของร้านมากมาย มีทั้งแบบชาใส ชาใส่นม ชาสกัดเย็น โดยเน้นพรีเซนต์เทสต์โน้ตแต่ละแก้วให้โดดเด่น ประหนึ่งไปยืนจิบชาอยู่ในไร่ชาบนภูเขาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเจลลาโตที่นำชามาผสมเกิดเป็นรสต่าง ๆ อาทิ ฮาเซลนัทยูนนานแบล็กที ฮันนีเลมอนจัสมินที และการตกแต่งร้านยังคุมโทนเหมาะกับวัยรุ่นเทสต์ดีอย่างเราสุด ๆ
การเดินทาง : แนะนำเดินทางด้วย DiDi สะดวกสุด ราคา 10-15 หยวน (จากสถานีรถไฟใต้คุนหมิง) หรือรถไฟสายสีเขียว 5 มาใต้ดินลงที่ Huashan West Road Station ทางออก B และเดินต่ออีก 8 นาที
📍พิกัด : https://j.map.baidu.com/1c/44Gd




แม้จะเป็นคนไม่ชอบเที่ยวที่ซ้ำ ๆ แต่คุนหมิง-ลี่เจียงนี้ถือเป็นข้อยกเว้น ความตื่นตาตื่นใจของธรรมชาติที่นี่สามารถทำให้ใจเต้นแรงไม่แพ้ครั้งแรก แถมเขายังมีสิ่งอำนวยความสะดวก พัฒนาทั้งด้านการเดินทาง การกินอยู่ให้ตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้แบบทวีคูณ ยิ่งถ้าได้มาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกหวย กับความสวยอลังการที่สัมผัสได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่ถ้าต้องการอากาศหนาวแบบสะใจ มาช่วงฤดูหนาวก็คงจะได้ความสวยงาม ชมวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไปแน่นอน อยากให้ทริปเกิดก็กดจองตั๋วมาก่อนที่ AirAsia แล้วลอกแพลนตามเรามาได้เลย จองได้เลยที่ : https://air.asia/5L9JB




