4 Days 20 Locations เที่ยวง่าย ชาร์จพลังสบายสไตล์ ฟุกุโอกะ 🇯🇵
ทริปนี้เราขอแจกโพยเมืองฟุกุโอกะ เที่ยวง่ายไม่ต้องคิดเยอะ ได้ครบทั้งฟีลริมทะเล คาเฟ่ดีไซน์เก๋ ย่านฮิปให้เดินเล่น วัดสวยให้ขอพร และเสพงานศิลปะแบบตะโกน แถมตะลุยกินแบบจัดเต็มทั้งราเม็งเจ้าดัง เนื้อย่างฟิน ๆ ยันสตรีทฟู้ดยามค่ำคืนพร้อมปล่อยใจจอย ๆ เที่ยวแบบชิลล์ ๆ รับรองว่าฟินตั้งแต่วันแรกจนจบทริปแน่นอน




Flight Bangkok – Fukuoka
การเดินทางในรอบนี้เราเลือกใช้บริการของสายการบินคู่ใจคนดีคนเดิมอย่าง AirAsia ที่เค้ามีบินตรงจากสนามบินดอนเมือง สู่สนามบินฟุกุโอกะ พร้อมเวลาบินที่เหมาะกับสายท่องเที่ยวแบบเราสุด บินดึกถึงเช้าผ่านตม.แบบไร้คนต่อแถวพร้อมเก็บกระเป๋าแล้วเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ได้เลย แถมตอนนี้แอร์เอเชียมีโปรลดทันที 20%* ทุกที่นั่ง ทุกเส้นทางบินญี่ปุ่น รีบแพลนทริปสั้นแบบคุ้มๆ เลย! 🎌
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ : https://www.airasia.com
แอร์เอเชียบินตรง จากกรุงเทพ (ดอนเมือง) สู่ ฟุกุโอกะ ทุกวัน!
DMK-FUK 01:45 – 08:55 น. และ FUK-DMK 10:00 – 13:45 น.
ยกเว้นเดือน Jun, Jul, Sep บิน 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์, อาทิตย์
DMK-FUK 23:25 – 07:05 น. และ FUK-DMK 08:15 – 11:45 น.

My Itinerary
Day 0 : Bangkok – Fukuoka
Day 1 : Fukuoka
- Sakurai Shrine Futamigaura Torii
- Ocean House
- Little Stand Daimyo store
- Liquid Liquid
- Tsukiya
Day 2 : Fukuoka – Kita Kyushu
- Ainoshima Island
- Mojiko Reto
- もつ鍋 もつ焼専門やおき
Day 3 : Fukuoka
- Ganso Hakata Mentaiju Nish
- Tanushimaru Station
- Kapateria Cafe
- Dazaifu Tenmangu
- Kamado Shrine
- Starbucks Coffee – Dazaifu Tenmangu
- Gyukatsu Motomura
Day 4 : Fukuoka
- Ishimura Manseido
- Fukuoka Art Museum
- teamLab Forest Fukuoka
- HOC
- Food Stalls (Yatai)

Day 1 : Fukuoka
001 : Sakurai Shrine Futamigaura Torii
วันแรกที่มาถึงฟุกุโอกะ เราขอเริ่มต้นทริปด้วยความสดใสของ “Futamigaura Torii” ในอิโตะชิมะ โดยที่นี่ไม่ใช่แค่จุดเช็กอินสุดฮิต แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ของโทริอิสีขาวที่ตั้งตระหง่านสีขาวริมทะเลสัญลักษณ์ของ “ศาลเจ้าซากุไร” ที่เค้าเชื่อกันว่าคอยปกป้องผู้คนจากภัยพิบัติทางทะเล นอกจากนี้ถ้ามองออกดี ๆ เราจะเห็นกับ “หินแต่งงาน” หรือ Meoto Iwa หินสองก้อนที่เชื่อมกันด้วยเชือกชิเมะนาวะ ที่ตามตำนานหินนี้เป็นตัวแทนของเทพอิซานางิ และอิซานามิ เทพผู้สร้างโลก ทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งความรัก ใครอยากฮีลใจ ชาร์จแบตชีวิตเราว่าที่นี่แหละตอบโจทย์แบบสุด ๆ
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Y56ByjpF3RHHMiaXA





002 : Ocean House
หลังจากเก็บโมเมนต์สวยๆ ที่ Futamigaura Torii แล้ว เราก็แวะมาต่อกันที่ “Ocean House” คาเฟ่ริมทะเลฟีลสุดชิลล์บนชายฝั่งอิโตะชิมะ บวกกับบรรยากาศสบายๆ ของร้านที่เปิดรับลมทะเล เหมาะที่พาตัวเองมาหย่อนตัวพร้อมจิบกาแฟ หรือเครื่องดื่มแล้วปล่อยใจสุด ๆ ส่วนใครอยากชิมเมนูพวกอาหารซีฟู๊ด ช่วงมื้อเย็นที่นี่เค้าก็มีให้บริการ ใครอยากพาคนรัก หรืออยากได้บรรยากาศสุดโรแมนติก เราขอแนะนำที่นี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารสุดชิลล์ของทริปนี้เลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 11:30 – 21:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pMguTeKauW5PLMYQ6




003 : Little Stand Daimyo Store
หลังจากเสพวิวทะเลจนเต็มอิ่ม ได้เวลากลับเข้ามาในเมืองแบบคูลๆ แล้วแวะเติมคาเฟอีนที่ “Little Stand Daimyo Store” คาเฟ่สไตล์มินิมอลที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านไดเมียว ตัวดีไซน์ร้านที่ดูอบอุ่น เรียบง่าย ยิ่งอยู่ในย่านสุดฮิปของฟุกุโอกะด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดแวะของเหล่าคาเฟ่ฮอปที่ต้องมาลอง
เมนูไฮไลต์ที่อยากแนะนำคือ ช็อกโกแบตมาที่พร้อมครีมสุดนุ่มท็อปอยู่ด้านบน และลาเต้อาร์ตที่เสิร์ฟมาในแก้วกระดาษแบบมินิมอล ใครมาเที่ยวฟุกุโอกะแล้วอยากหาคาเฟ่เก๋ๆ ที่ไม่ต้องเยอะ แต่เท่แบบพอดี Little Stand คือคำตอบเลยทุกคน
⏰ เปิดทุกวันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) เวลา : 10:00 – 18:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7henSpVLjfa5QGG77




004 : Liquid Liquid
ถ้าคาเฟ่เล็กๆ สไตล์มินิมอลยังไม่จุใจ ขอพาเดินต่อมาอีกนิดที่ “Liquid Liquid” คาเฟ่สุดชิคอีกหนึ่งร้านในย่านไดเมียว โดยที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟทั่วไป แต่ด้านในเค้ายังมีขายเสื้อผ้า และสินค้าวัยรุ่นสุดคูล ใครอยากเติมความชิค ถ่ายรูปอัพเก๋ ๆ เราแนะนำที่นี่อีกร้านนึงเลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 11:00 – 20:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QsswWGGkmhnnmFhTA





005 : Tsukiya
หลังจากเดินเล่น จิบเครื่องดื่มดีๆ กันมาทั้งวัน ถึงเวลาปิดท้ายมื้อเย็นด้วย เมนูซึเคเมนของ Tsukiya สุดเข้มข้นจนต้องยกนิ้วให้รัวๆ ตัวน้ำซุปของที่นี่เค้าเคี่ยวจนข้น คลุกเคล้าความอูมามิแบบนัว ๆ เสิร์ฟมาแบบซึเคเมนแท้ๆ ตัวเส้นคือเหนียวนุ่มละมุน อร่อยจนต้องวางช้อนแล้วซู้ดอีกรอบ!
ถึง Tsukiya ไม่ใช่ร้านราเม็งชื่อดัง แต่บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในร้านที่เราชอบมากลำดับต้น ๆ ของเมืองนี้เลย!
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 19:00 – 02:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XFDeVqKYibJRanBf8
Day 2 : Fukuoka – Kita Kyushu
006 : Ainoshima Island
เช้านี้เราขอเปลี่ยนโหมดตะลุยกิน มาเป็นการนั่งเรือออกไปเสพบรรยากาศน่ารัก ๆกันที่ “Ainoshima Island” หรือ “เกาะแมว” หนึ่งในโลเคชั่นที่เหล่าทาสแมวต้องมาให้ได้สักครั้ง เพราะแค่ก้าวลงจากเรือ ก็มีน้อง ๆ แมวเดินออกมาต้อนรับเต็มไปหมด บ้างก็นอนอาบแดด บ้างก็มองเราด้วยสายตาแบบ ”มีขนมมาด้วยมั้ย?“ บอกเลยว่าใครเป็นสายแมวต้องโดนความน่ารักของน้อนตกแน่นอน!





ที่นี่นอกจากมีน้องแมวอยู่ตามซอกซอยแล้ว บรรยากาศของเกาะยังเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ยังคงความดั้งเดิม มีร้านค้าเล็กๆ ที่สามารถแวะซื้อข้าวปั้นมากินริมทะเลพร้อมกับเหล่าน้องขนปุยได้อีกด้วย
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr. เวลาเรือขาไปรอบแรก 07:50 น. และเรือขากลับรอบสุดท้าย 17:00 – 17:30 น.
📍 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/txX59VX5gijEFjnE9



007 : Mojiko Reto
ช่วงเย็นเราเสพบรรยากาศสุดชิลล์ที่ย่านเมืองท่าในคิตะคิวชูที่มีเสน่ห์ย้อนยุคสไตล์ตะวันตก ยามเย็นที่นี่บอกเลยว่าใครอยากหาสถานที่สุดโรแมนติกคือดีมาก พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า อาคารยุคเก่าตลอดจนต้นไม้ และทางเดินจะถูกประดับไฟจนระยิบระยับ นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเล่นดื่มด่ำกับ vibes ยามค่ำคืนของที่นี่สุด ๆ
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4MMa8pBJi1Piivh16




008 : もつ鍋 もつ焼専門やおき
ขอปิดท้ายวันที่สองด้วยเนื้อย่างที่มาพร้อมบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ อบอุ่นแบบเรียบง่าย กลิ่นหอมของเนื้อที่กำลังย่างบนเตาถ่านโชยมาแต่ไกล ข้าวสวยหุงสดใหม่ร้อนๆ เสิร์ฟคู่กับเนื้อพรีเมียมชิ้นโตที่แค่จิ้มเกลือเบาๆ ก็ฟินไม่ไหว
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 17:00 – 23:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XQH7V6EiT3TR6pxh7




Day 3 : Fukuoka
009 : Ganso Hakata Mentaiju Nish
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการจัดเต็มมื้อเช้าที่ “Ganso Hakata Mentaiju Nish” ร้านที่สายเมนไทโกะต้องห้ามพลาด! แนะนำช่วงเช้าแถวที่รอจะน้อยกว่าช่วงเย็น มาพร้อมบรรยากาศในร้านสุดคลาสสิกที่ออกแบบมาให้เข้ากับวัฒนธรรมฮากาตะ เมนูแนะนำที่ห้ามพลาดเลยคือตัว “เซ็ตราเม็งเมนไทโกะ” ที่เค้าจัดเต็มทั้งเส้นสดที่เหนียวหนึบหนับ ตัวน้ำซุปก็เข้มข้นผสมกับไข่ปลาเมนไทโกะได้แบบลงตัวสุด ๆ หรือถ้าใครอิ่มที่นี่เค้าก็มีเซ็ตข้าวหน้าไข่ปลาเมนไทโกะให้ได้ชิมอีกด้วย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 07:00 – 22:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Nba6CXdRT435Y6wh7




010 : Tanushimaru Station
วันนี้ขอขยับออกนอกเมืองมาชมความน่ารักของสถานีรถไฟที่ไม่เหมือนใครกันที่ “Tanushimaru Station” ในเมืองคุรุเมะ ที่เป็นจุดเช็กอินรวมความน่ารักของเหล่าน้อง “กัปปะ“ ภูติแห่งสายน้ำในตำนานญี่ปุ่นที่ถูกยกให้เป็นมาสคอตประจำเมืองนี้ โดยไฮไลต์แรกคือตัวอาคารสถานีที่มีหน้าตาเป็นกัปปะ! ที่มีหลังคาทรงโค้งเหมือนศีรษะ และดวงตากลมโตสุดคิ้วท์จนต้องควักกล้องขึ้นมาถ่ายรัว ๆ นอกจากนั้นบริเวณรอบ ๆ ที่นี่ยังเต็มไปด้วยรูปปั้นกัปปะน่ารักอยู่เต็มไปหมด ใครมีเวลาสามารถทำมิสชั้นตามถ่ายน้อง ๆ ตามจุดต่าง ๆ อีกด้วย
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/A1mNt4jkx9i1NPsm8




011 : Kapateria Cafe
เดินเล่นรอบสถานีจนจุใจแล้ว แนะนำให้แวะพักที่ “Kapateria Cafe” คาเฟ่ขนาดกะทัดรัดที่ตกแต่งในธีมกัปปะสุดน่ารัก ทุกอย่างตั้งแต่แก้วน้ำยันผนังร้าน ล้วนแฝงความขี้เล่นของเจ้ากัปปะเอาไว้ โดยเมนูไฮไลต์ของที่นี่ที่อยากให้ลองคือตัว ”กัปปะมาการอง” มาการองสีเขียวรูปหน้ากัปปะที่ทั้งน่ารัก และอร่อยจนแทบไม่กล้ากิน! นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มเย็นๆ และของหวานอื่นๆ และของฝากน่ารัก ๆ อีกด้วย
⏰ เปิดทุกวันพุธ – จันทร์ (ปิดทุกวันอังคาร) เวลา : 10:00 – 21:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/etcF8HHM4tpPBPAL8




012 : Dazaifu Tenmangu
หลังจากเติมพลังความน่ารักของเหล่าน้องกัปปะก็ได้เวลาเปลี่ยนโหมดกันที่ศาลเจ้าเก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะเป็นทางเดินทางไสุดหนก็ให้ฟีลสุดบรรยากาศญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมสุด ๆ โดยตำนานของที่นี่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ “ซุกาวาระ โนะ มิชิซาเนะ” นักปราชญ์แห่งยุคเฮอัน ที่ถูกยกย่องให้เป็น “เทพเจ้าแห่งปัญญาและการศึกษา” ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักเรียน หรือคนที่อยากเสริมดวงด้านการเรียนต้องมาขอพร หนึ่งในนั้นเค้าว่ากันว่าถ้าลูบหัววัวและอธิฐานเรื่องการเรียน มักจะเป็นจริง
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 06:30 – 19:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/nf9n8UonyhHP17Zt9




013 : Starbucks Coffee – Dazaifu Tenmangu Shrine Omotesando
บริเวณรอบศาลเจ้าที่นี่ยังเต็มได้ด้วยร้านอาหาร และขนมมากมาย ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงอุ่นๆ ที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ แถมใกล้ ๆ ยังมี ร้าน Starbucks สุดเท่ที่ออกแบบโดย เคนโกะ คุมะ สถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่นอีกด้วย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 08:00 – 20:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zSi8KjBzxbnYmX7s5





014 : Kamado Shrine
ขอปิดท้ายโลเคชั่นสุดเก่าแก่อีกที่นึงอย่าง “ศาลเจ้าคามาโดะ” หนึ่งในศาลเจ้ที่ขึ้นชื่อเรื่อง การขอพรความรักและการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย โดยศาลเจ้านี้มีประวัติยาวนานกว่า 1,350 ปี และถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชา “เทพเจ้าโอกุนินุชิ ” ที่เป็นเทพแห่งความรัก ความสัมพันธ์ และการจับคู่ ทำให้ที่นี่เป็นศาลเจ้าสุดฮิตของคนที่ต้องการขอพรให้ความรักสมหวัง ใครที่อยากมีคู่เราแนะนำลองมาขอพรไหว้ดูนะ เค้าว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิจริง ๆ
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:00 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7MXcsaVtcXvrnLVu7




015 : Gyukatsu
มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที บอกเลยถ้าไม่ได้ลอง ”กิวคัตสึ“ ถือว่าพลาด เพราะเมนูที่นี่เค้าจัดเต็มเนื้อวัวพรีเมียมที่นำไปชุบแป้งทอดแบบทงคัตสึ แต่พิเศษตรงที่ ด้านในยังมีความฉ่ำ นุ่ม ละลายในปาก ตัวเนื้อวัวถูกทอดแค่พอให้ผิวนอกเป็นสีทองกรอบ แต่ด้านในยังคงความ Rare หรือ Medium Rare ได้ตามต้องการ โดยเซ็ตนี้จะมาพร้อมหินร้อนให้เราปิ้งย่างเอง เพิ่มความสนุกในการกินเข้าไปอีก เสิร์ฟคู่กับ ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ซุปมิโซะ และสลัดผัก เป็นหนึ่งในเมนูที่เรามาเมืองนี้ต้องหาเวลามากินตลอด
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 11:00 – 21:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1wLWfbGtuFmscNgE8




Day 4 : Fukuoka
016 : Ishimura Manseido
เช้าวันสุดท้ายขอเติมความหวานก็จะลุยเที่ยวมิวเซียมกันก่อนเลยที่ “Ishimura Manseido” ร้านขนมญี่ปุ่นทีใครมาแล้วต้อง เมนูที่ทำให้เราต้องตรงดิ่งมาที่นี่คือตัว “สึรุโนโคโคะ” ที่เป็นไอศกรีมวานิลลาท็อปด้วยมาร์ชแมลโลว์ลูกโตเด้ง ๆ ใครเป็นสายชนมหวานต้องเลิฟร้านนี้ชัวน์!
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 10:00 – 19:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/939C2SVodXN85HK4A




017 : Fukuoka Art Museum
เติมความหวานกันแล้ว แต่ถ้าอยากเติมฟีลอาร์ตๆ ให้ทริป เราขอแนะนำ “Fukuoka Art Museum” คือลิสต์ที่ต้องมา! ที่นี่ไม่ได้มีแค่งานศิลปะระดับโลกจาก Salvador Dalí หรือ Andy Warhol แต่ยังมี ฟักทองลายจุดสุดไอคอนิกของ Yayoi Kusama ตั้งเด่นเป็นมุมเช็กอินที่ห้ามพลาด เดินเสพอาร์ตในอาคารโมเดิร์นสุดมินิมอล แล้วออกมานั่งชิลล์ริมน้ำที่ Ohori Park ยิ่งถ้ามาช่วงเย็น ๆ คืออากาศดีมากก
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:30 – 17:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/csUebCkfEvrLzDMv9




018 : teamLab Forest Fukuoka
ปิดท้ายที่เที่ยวสุดท้ายกับโลกศิลปะแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ “teamLab Forest Fukuoka” ที่นี่คือมิวเซียมศิลปะดิจิทัลที่พาเราหลุดเข้าไปในอีกมิติ ที่ทุกก้าวที่เดิน ไม่ว่าจะเป็นฝูงผีเสื้อเรืองแสงที่บินไปตามจังหวะของคุณ หรือต้นไม้และสายน้ำที่เคลื่อนไหวได้เหมือนมีชีวิตจริงๆ ทุกห้องคือเซอร์ไพรส์ และบอกเลยว่า ไม่มีมุมไหนถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ปังเลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 10:00 – 19:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/R9YdNHQG3sWW3jVK7







019 : HOC
หลังจากเดินเล่นมิวเซียมกันพอหอมปากหอมคอ ได้เวลากลับมาสู่อ้อมอกของหวานอีกครั้งและหนึ่งในร้านที่ต้องเช็คอีกหนึ่งลิสต์คือ “HOC Cheesecake” คาเฟ่ที่มีแต่คนกระซิบว่าต้องลองชีสเค้กของที่นี่ เพราะเนื้อเนียนนุ่มแบบละลายในปาก หอมชีสกำลังดี ไม่หนักจนเลี่ยน ที่สำคัญคือดีไซน์ร้านสวยมาก โทนมินิมอล คลีนๆ แต่มีความอบอุ่น นั่งสบาย ถ่ายรูปมุมไหนก็ได้ฟีลญี่ปุ่นแบบคูลๆ ถ้ามีเวลานั่งชิลล์ ลองสั่งชีสเค้กมากินคู่กับกาแฟสักแก้ว
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 10:00 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WMr6b5tYBRuiy1Qi6




020 : Food Stalls (Yatai)
ปิดทริปฟุกุโอกะด้วยสตรีทฟู้ด “Yatai Food Stalls” นั่งชิลล์แผงลอยแบบญี่ปุ่นแท้ เมนูที่ต้องลองเลยคือตัว Hakata Ramen ราเม็งซุปกระดูกหมูเข้มข้นที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองนี้ หรือจะลอง Yakitori หรือ Oden สไตล์บ้านๆ ก็อร่อย แต่สิ่งที่ทำให้ Yatai พิเศษกว่ารสชาติอาหารคือฟีลบรรยากาศแบบโลคอลที่ทำให้เราเสพบรรยากาศญี่ปุ่นได้แบบสุด ๆ
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 18:00 – 00:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/35JfWmd6J6AQewwM8





ถ้าใครกำลังมองหาทริปที่ไม่ต้องแพลนเยอะ แบบแพลนสั้นก็คุ้มได้ แต่ได้ครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และของกินเด็ด ๆ เดินทางง่าย เมืองไม่วุ่นวาย เที่ยวง่าย ได้พักผ่อนแบบเต็มอิ่ม เราว่าฟุกุโอกะนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก เพราะ AirAsia เค้ามีไฟลท์บินตรงสู่ฟุกุโอกะ บินดึกถึงเช้าปุ๊บ เที่ยวได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้น 4 วัน หรืออยากอยู่นานกว่านั้น ก็จัดแพลนได้แบบสบาย ๆ
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ : https://www.airasia.com
