5 วัน 4 คืน กับ 26 โลเคชั่นที่จะทำให้คุณรักฉงชิ่ง
กลางปีแบบนี้ใครกำลังมองหาเมืองชิค ๆ ธรรมชาติปัง ๆ ของกินอร่อยแถมยังไม่แมสจนเกินไป เราขอชวนเบนหัวเรือมา “ฉงชิ่ง” เมืองจีนสุดคูลที่คนไทยยังไม่ค่อยพูดถึง แต่ขอบอกตามตรงเลยว่าเมืองนี้สุดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายคอนเทนต์ เสพติดความ Unseen หรือชอบติดล้ำ มาเมืองนี้แล้วจะหลงรักแน่นอน
วันนี้เลยรวบรวม 26 โลเคชั่นสุดจึ้งในฉงชิ่งมาให้แบบแน่น ๆ ทั้งที่เที่ยวสุดว้าวที่เห็นแล้วต้องขนลุกจนถึงแลนด์มาร์คถ่ายรูปที่กดชัตเตอร์ทีเดียว ได้ยอดไลก์รัว ๆ ยังไม่พอยังมีคาเฟ่ชิคให้นั่งจิบกาแฟเก๋ ๆ พร้อมพาตะลุยกินหล่าม่าแบบฉบับออริจินัลที่หอมฉุยทุกซอกซอย
ส่วนการเดินทางก็ง๊ายง่ายเพราะตอนนี้ AirAsia เค้าที่มีบินตรงสู่จีนมากสุดถึง 10 เมือง และมีบินตรงทั่วเอเชียกว่า 60 เส้นทาง จะเริ่มต้นเที่ยวเมืองไหนก็สะดวกสบายมาพร้อมราคาสุดแสนประหยัดที่ทุกคนจับต้องได้ ส่วนใครไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหน สามารถดูเที่ยวบินได้ที่ : www.airasiatravelista.com





Flight Bangkok (DMK) to Chongqing
ก่อนเราจะหลุดเข้าไปในเมืองสุดล้ำสุดว้าวอย่างฉงชิ่ง ขอพูดถึงตัวช่วยที่จะพาเราไปจอยก่อนเลยด้วยการเที่ยวจีนบินสบายกับแอร์เอเชีย บินคุ้ม คุณภาพครบ ที่เค้ามีไฟลต์บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปฉงชิ่ง แบบไม่ต้องต่อไม่ต้องอ้อมให้เสียเวลา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้ว และที่เก๋คือไม่ได้มีแค่ฉงชิ่งนะ ตอนนี้ AirAsia 10 ปลายทางเลย ไม่ว่า เฉิงตู กวางโจว เซินเจิน ฉางซา ฉงชิ่ง หางโจว อู่ฮั่น ซีอาน เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง
ยิ่งช่วงนี้ถ้ามีตั๋วโปรบอกเลยว่าราคาดีจองแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย
จองได้ที่ : www.airasia.com และแอป AirAsia MOVE


ข้อดีอีกอย่างที่บินกับ AirAsia คืออยากซื้อน้ำหนักกระเป๋า อยากเลือกที่นั่งริมหน้าต่างไว้ถ่ายวิวหมอกลงก่อนแลนด์ดิ้ง หรือจองอาหารร้อน ๆ บนเครื่องไว้ล่วงหน้า ก็แค่คลิกซื้อเพิ่มในแอปฯ หรือกดจองแพ็คเก็จเสริมอย่าง Value Pack ที่ฟรีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม เลือกที่นั่งได้ มีอาหารให้คือคุ้มมาก ที่สำคัญเมนูใหม่อย่าง “ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างตาลโตนด” คือเมนูเดอะเบสที่เรายกให้ตอนนี้เลย!


ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวสองเมืองควบแบบเราฟิน ๆ แนะนำให้เริ่มต้นที่ฉงชิ่งเก็บบรรยากาศ Vibes ในเมืองสุดล้ำแล้วต่อเฉิงตูเมืองแห่งหมีแพนด้าสุดคิ้วท์ด้วยรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เวลาชิล ๆ แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าก็มาถึงเฉิงตู และเลือกบินกลับกับแอร์เอเชียจากที่เฉิงตูได้เลยเพราะแอร์เอเชียเค้ามีไฟลต์ตรงกลับไทย หนึ่งทริปเที่ยวสองเมืองได้แบบง่าย ๆ เลย
ส่วนตั๋วรถไฟความเร็วสูงจากฉงชิ่งมาเฉิงตู สามารถซื้อได้จาก Trip.com และใช้เพียงพาสปอตร์สแกนเข้าได้เลย



เรื่องที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวฉงชิ่ง ปี 2025
- ตั๋วเครื่องบินเราใช้บริการ AirAsia ราคาประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
- Alipay ต้องมีเลย เพราะเอาไว้จ่ายแทบทุกอย่าง ทั้งรถไฟ รถเมล์ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร จ่ายได้หมด จะผูกกับบัตรเครดิตหรือเดบิตก็ง่ายมาก
- แท็กซี่ก็เรียกผ่าน DiDi ได้เลยในแอป Alipay สะดวกมาก ๆ ถ้าไปไหนในเมืองก็ประมาณ 10-15 หยวนเอง ถ้าไปกันหลายคนแนะนำเลย นั่งสบาย ไม่ต้องเดินเยอะ
- ที่พักเราแนะนำย่าน Jiaochangkou เรานอนโรงแรมธีมฉีเหมิน ราคาคืนละประมาณ 900 บาท ห้องโอเค สะอาด แต่ห้องน้ำเค้าจะเป็นผ้ากั้นแทนกระจก จองผ่าน Trip.com ราคาดีสุด
- อินเตอร์เน็ตแนะนำให้เปิดโรมมิ่งจากค่ายมือถือไทย หรือไม่ก็ซื้อ E-Sim ไปเลย จะได้ใช้ Facebook, Line, YouTube ได้ปกติ
- Google Translate ก็ช่วยชีวิตได้เยอะเลย เอาไว้ใช้เวลาสื่อสาร
- ค่าเงินจำง่าย ๆ เลย 1 หยวน = 5 บาท คิดเร็ว ๆ ตอนจ่ายเงินได้เลย

Airport City
ก่อนที่เราออกล่าโลเคชั่นจึ้ง ๆ เราขอแจกวิธีเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินกันหน่อย ที่มีทั้ง รถไฟ Metro, Airport Express Bus, แท็กซี่ แต่ที่เราแนะนำคือรถไฟ Metro สะดวกและ ราคาถูกมากกกก มีทั้งสาย 10 และ สาย 3 ถึง Lianglukou หรือ Liyuchi ใจกลางเมืองในเวลา 35–50 นาที ราคาเริ่มต้นแค่ 5 หยวนเท่านั้นเอง หรือถ้าใครกระเป๋าเยอะ ของหนัก ที่สนามบินก็มีแท็กซี่รอให้บริการเราเพียบ แถมมุมตรงนี้ยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตในโซเชียลอีกด้วย

ติดล้ำที่ฉงชิ่ง
001 : Zengjiayan Station
เกริ่นมาเยอะละเราขอพาทุกคนเข้าสู่เมืองสุดล้ำอย่างฉงชิ่งสักที โลเคชันแรกที่เราขอพาทุกคนไปเหยียบก่อนใคร คือสถานีรถไฟใต้ดินที่สวยที่สุดสำหรับเราอย่าง Zengjiayan Station มาพร้อมมุมถ่ายรูปที่ต้องหยุดยืนดูสักพัก เพราะตัวสถานีตั้งอยู่บนทางยกระดับสูง ตัวรถไฟลอยฟ้าที่โค้งตัวผ่านตึกสูง และตัดผ่านภูเขาในฉากหลังบอกเลยว่าเป็นสถานที่เปิดทริปได้แบบลงตัวสุด ๆ
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Zengjiayan
📍 : https://j.map.baidu.com/b2/JChh

บอกเลยว่าการเดินทางในฉงชิ่งคือ ล้ำสมชื่อเมืองจริงๆ เพราะทุกการเดินทาง ทุกการใช้จ่ายแค่เรามีแอป Alipay นั่งรถไฟฟ้าได้แบบไม่ต้องแตะบัตร ไม่ต้องแลกเหรียญ ไม่ต้องพูดจีนกับใคร แค่เปิดมือถือแล้ว สแกน QR Code ในแอป Alipay ปุ๊บ เข้าได้ทุกสถานีทั่วเมือง สะดวกเกิ๊น แถมราคารถไฟจะอยู่แค่ราว ๆ 2 หยวน หรือประมาณ 9 บาทเท่านั้น
วิธีการใช้ Alipay ขึ้นรถต่าง ๆ
1.เปิดแอป Alipay
2.เข้าไปที่ฟีเจอร์ “Transport”
3.กดเปิด QR Code สำหรับขึ้นรถไฟ (ต้องยืนยันตัวตนรอบนึงก่อน)
4.ไปถึงสถานีแล้วเอา QR ไปสแกนที่เครื่องตรงประตูเข้า และสแกนอีกทีตอนออก แค่นี้ก็จบ ง่าย สะดวกสุด ๆ

002 : รถไฟทะลุตึก
พูดถึงความล้ำในฉงชิ่ง คงขาดที่นี่ไปไม่ได้แน่ ๆ กับ Liziba Station (李子坝站) หนึ่งในจุดแลนด์มาร์คที่ใครต่อใครเห็นครั้งแรกแล้วต้องอ้าปากค้าง เพราะมันคือสถานีที่ รถไฟฟ้าวิ่งทะลุตึกจริง ๆ ไม่ได้วิ่งข้าง ๆ ไม่ได้ลอดใต้ แต่วิ่งเข้าไป ผ่านกลางคอนโด แล้วออกอีกฝั่งไปหน้าตาเฉย เป็นภาพไวรัลที่ทำให้เราอยากมาเมืองนี้เลย
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Liziba Station ทางออก 2
📍: https://surl.amap.com/35osMdLb3mT




003 : Chongqing Art Gallery
ถ้าถามว่าตึกไหนในฉงชิ่งที่เดินผ่านแล้วต้องหยุดมองแล้วหยิบมือถือขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้ตัว ตอบได้เลยแบบไม่ลังเลว่า “ตึกตะเกียบ” หรือ Chongqing Guotai Art Center หนึ่งในตึกรูปสุดล้ำที่ให้ความเท่แบบ 100/10 ไปเลย
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Linjiangm ทางออก 1
📍: https://surl.amap.com/2XfBNs11q46U


ตัวตึกคือโครงไม้สีดำ-แดงที่ไขว้กันไปมาเหมือนตะเกียบขนาดยักษ์ ถูกออกแบบโดยทีมสถาปนิกจีนร่วมสมัยที่ต้องการสะท้อน “ลวดลายโครงไม้โบราณจีน” แบบดั้งเดิม แต่รีดีไซน์ใหม่ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคอนาคต จนตอนนี้ที่กลายไปเป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาต้องถ่ายภาพ็เช็กอินกันทั้งนั้น



004 : Kuixing Building
ถ้าจะมีที่ไหนในฉงชิ่งที่ทำให้รู้สึกล้ำแบบสุด ๆ คงหนีไม่พ้น Kuixing Building (魁星楼) ตึกสูงที่ชั้นบนกลายเป็น “ดาดฟ้าลอยฟ้า” ที่กำลังโด่งดังเป็นไวรัลอยู่ ซึ่งความว้าวอย่างแรกคือบริเวณลานกว้างนี้ตั้งอยู่บนชั้น 22 แต่ให้ฟีลเหมือนข้างล่างยังไงอย่างงั้น ยิ่งดูวิวด้านล่าง ยิ่งทำให้ที่นี่ดูแแปลกตาขึ้นไปอีก แถมใครมาช่วงเย็นบรรยากาศและไวป์ที่นี่ดีมาก
การเดินทาง : รถไฟฟ้าสาย 2 ลงสถานี Linjiangmen ทางออก 2
📍: https://j.map.baidu.com/a7/rwq




005 : The Ring mall
แค่เดินมาถึงหน้า The Ring Mall ยังไม่ทันเปิดประตูเข้าไปก็รู้เลยว่า “ที่นี่ไม่ใช่แค่ห้างธรรมดา” เพราะบริเวณด้านหน้าทางเข้า ถูกออกแบบให้เป็น public space ที่ถ่ายรูปเท่มาก ๆ โดยเฉพาะจุดไฮไลต์โดมสีขาวดีไซน์มินิมอลที่ถ่ายด้านนอกก็ดี ด้านจะเล่นกับแสงก็เก๋ แสดงถึงความล้ำของเมืองนี้ได้สุด ๆ
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าลงสถานี Chongguang ทางออก 1
📍: https://j.map.baidu.com/3f/mdKh


และใช่ครับทุกคน ความล้ำต่อที่สองของที่นี่ใจกลาง The Ring Mall เค้ามีสวนขนาดใหญ่ที่เรียกว่า The Oasis สูงหลายชั้นเชื่อมต่อกับ Skylight ด้านบนให้แสงธรรมชาติลอดลงมาทั้งวัน เหมือนจำลองระบบนิเวศไว้ในโดมแก้ว ถ่ายรูปสนุก แถมบรรยากาศดีม๊าก


ติด Unseen
007 : Hongya Dong
ถ้าให้พูดถึงโลเคชั่นสุดประทับใจทั้งความว้าว ความสวย ความ Unseen ในเมืองฉงชิ่ง เราขอมอบมงให้ Hongya Dong ไปเลย เพราะนี่คือย่านเก่าสุดคลาสสิกริมแม่น้ำเจียหลิงที่มาในสไตล์สถาปัตยกรรมจีนโบราณ 11 ชั้น แต่ความว้าวจริง ๆ อยู่ที่พอตะวันตกดิน ไฟสีส้มจะค่อย ๆ ส่องสว่างจากทุกชั้นของตึก กลายเป็นวิวหมู่บ้านกลางอากาศที่เหมือนหลุดจากโลกเอนิเมชัน ที่หลายคนถึงขั้นเรียกที่นี่ว่า “Spirited Away แห่งฉงชิ่ง” เลย
การเดินทาง : รถไฟสาย 6 ลงสถานี Xiaoshizi ทางออก 9 หรือ สาย 2 ลงสถานี Linjiangm ทางออก 1
📍 : https://surl.amap.com/2LkJoUJXecq


ถ้าถามว่าวิวไหนของ Hongya Dong จึ้งสุด ส่วนตัวเราขอให้วิวตรงสะพาน Qiansimen Bridge (千厮门大桥) ที่เป็นมุมมหาชนที่รวมนักท่องเที่ยว แนะนำให้มาช่วงที่ฟ้ามืดสนิทจะสวยมาก อย่างตอนที่เรามาไฟเปิด 19:30 แต่กว่าพระอาทิตย์จะตกดินก็ล่อไป 20:00 แล้ว ถ้าอยากได้ภาพสวย ๆ แบบไม่ต้องไปเบียดกับใครนาน ๆ ให้มาหลังพระอาทิตย์ตกประมาณ 30 นาที



ส่วนใครอยากได้ภาพทั้งความโบราณของ Hongya Dong และความโมเดิร์นของสะพาน Qiansimen Bridge ที่เปิดไฟแดงวิบวับยามค่ำคืนแบบอลังการ เราแนะนำให้เดินรับลมชมวิวข้ามยังฝั่งตรงข้าม จากจุดนี้ ทุกคนจะได้เห็นตัวอาคาร Hongya Dong ทั้ง 11 ชั้น แบบเต็มตา ไม่บิด ไม่เบี้ยว พร้อมฉากหน้าเป็น สะพานสีแดงที่พาดผ่านแม่น้ำเจียหลิงพร้อมแสงไฟจากสะพานสุดคลาสสิกได้ในช็อตเดียวกัน




006 : อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า สะพานสวรรค์
ถ้าใครคิดว่าฉงชิ่งมีดีแค่เมืองล้ำ ตึกแปลก รถไฟวิ่งเข้าตึก พวกแกหยุดความคิดนั้นเลยเพราะฉงชิ่งยังซ่อน ธรรมชาติสุดอลังไว้ที่ อุทยานหลุมฟ้า สะพานสวรรค์ หรือ Wulong Karst National Geology Park นั้นเอง ที่นี่คือพื้นหินปูนที่ถูกกัดกร่อนตามธรรมชาติ เมื่อก่อนเคยเป็นถ้ำใต้ดินขนาดมหึมา แต่เมื่อเพดานถ้ำบางส่วนถล่มลงมา จึงกลายเป็น “หลุมฟ้า” ขนาดยักษ์ และ “สะพานหินธรรมชาติ” ที่พาดผ่านกลางหุบเหว ทำให้ที่นี่มีถึง 3 สะพานยักษ์ เรียงต่อกันในแนวเดียวเริ่มตั้งแต่สะพานมังกรฟ้า, มังกรเขียว, มังกรดำ หรือที่เรียกกันว่า “สะพานสวรรค์” เพราะมันเหมือนบันไดเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์ยังไงยังงั้น



ความเว่อวังยังไม่หมด ถ้าใครเคยดูหนัง Transformers Age of Extinction คงจำฉากที่ Optimus Prime ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเหวสุดลึกลับได้ใช่มั้ย นั่นแหละ! เค้าถ่ายทำกันที่ Wulong Karst แห่งนี้กันจ้า


เดินลงมาได้ไม่นาน ทุกคนจะได้เจอได้พบกับสิ่งก่อสร้างกลางหุบเหวที่ดูเหมือนหลงยุค หลงเวลานั่นคือ โรงเตี้ยมไม้สไตล์จีนโบราณ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางหลุมฟ้า กลายเป็นฉากที่สวยแปลกตา และเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลย
โรงเตี้ยมนี้มีชื่อว่า “Tiankeng Inn” (天坑客栈) เคยใช้เป็น โลเคชันถ่ายทำซีรีส์จีนย้อนยุค & หนังดังหลายเรื่อง ด้วยความที่ตั้งอยู่กลางภูเขา ล้อมด้วยหน้าผาหินสูงชันแบบ 360° มีน้ำตกไหลผ่านข้าง ๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมที่นี่ถึงเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต แนะนำให้เดินขึ้นไปตรงสะพานไม้ใกล้ ๆ โรงเตี้ยม มุมตรงนั้นคือถ่ายรูปออกมาจึ้งมาก


หลังจากเราถ่ายรูปจนอิ่มใจ เส้นทางจะพาเรา เดินลัดเลาะไปรอบ ๆ ตัวหลุมขนาดยักษ์ ที่เกิดจากการยุบตัวของหินปูนเมื่อหลายล้านปีก่อน ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาหินสูงตระหง่านแทบจะบังฟ้าจนไปถึงทางออกเลย



007 : Luohan Temple
ไม่รู้ว่าที่นี่จะจัดว่าเป็น “Unseen” ได้มั้ย แต่ในความรู้สึกเรา ขอยกให้เป็นพิกัดสุดว้าวมาก ๆ ในทริปนี้ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฉงชิ่ง ติดถนนคนเดิน ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ที่รายล้อมด้วยตึกสูงระฟ้า และทางรถไฟลอยฟ้าสุดวุ่นวาย แต่พอเดินเข้ามาใน Luohan Temple กลับเงียบสงบ ทำให้เราชอบที่นี่มากๆ
วิธีเดินทาง : รถไฟฟ้าสาย 2 ลงสถานี Xiaoshenzi Station ทางออก 6
📍: https://j.map.baidu.com/bc/_9q



โดยที่นี่ไม่ใช่วัดธรรมดา ๆ แต่มีอายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง และเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่ยังมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนเมืองนี้อยู่เต็มเปี่ยม ภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานรูปปั้นพระอรหันต์ถึง 500 องค์ แถมใครชอบถ่ายรูปยังมีมุมเก๋ๆ ให้เราได้กดชัตเตอร์กันอีกด้วย




008 : Dazu Rock Carving
ที่สุดของความ Unseen เมืองฉงชิ่ง คงไม่พูดถึงที่นี่ไม่ได้แน่นอนกับ Dazu Rock Carvings เพราะนี่ไม่ใช่แค่งานแกะหินเก่า แต่คือ มรดกโลกโดยยูเนสโกที่บรรจงสร้างขึ้นมาตั้งแต่ กว่า 1,200 ปีก่อน ในยุคราชวงศ์ถัง และซ่ง ไฮไลต์ที่ทำให้ทุกคนมาเยือนที่นี่คือพระพุทธไสยาสน์ยาวกว่า 30 เมตร แกะจากหินก้อนเดียวนอกจากนั้นยังมีรูปแกะสลักกว่า 50,000 รูป และจารึกอักษรกว่า 100,000 ตัว กระจายอยู่ตามเขตเขาหลายแห่งใน Dazu
การเดินทาง : นั่งรถไฟความเร็วสูงจาก Chongqing West Station ไปลงที่สถานี Dazu Station (ประมาณ 1 ชม.ครึ่ง) จากนั้นต่อรถแท็กซี่แบบเหมาประมาณ 30 นาที
📍 : https://j.map.baidu.com/c6/_k





ติดคอนเทนต์ที่ฉงชิ่ง 📸
009 : Eling Park
หลังจากพาอินกับสาย Unseen ก็ได้เวลาสลับโหมดเข้าสู่โหมด สายคอนเทนต์ สายถ่ายรูปโลเคชั่นเก๋ ๆ กันบ้างและเราขอเปิดลิสต์นี้ด้วยโลเคชันที่เห็นวิวเมืองแบบพาโนรามาพร้อมแสงโกง ๆ ที่สวนบนสันเขาใจกลางเมืองฉงชิ่ง นอกจากนั้นภายในสวนยังมีความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ศาลาจีนโบราณที่เดินถ่ายรูปเล่นได้เพลิน ๆ ใครอยากหาที่สงบ ๆ ไว้พักใจพร้อมดูวิวเมืองยามพระอาทิตย์ตก เราแนะนำที่นี่เลย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Eling Park ทางออก 1
📍: https://surl.amap.com/37kdq0l181P6




010 : สวนสัตว์ฉงชิ่ง
ใครเป็นทาสต้าวแพนด้า เราขอมอบความน่ารักให้ที่นี่แบบเต็มสิบไม่มีหักไปเลยเพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สวนสัตว์ธรรมดา แต่คือ “แดนสวรรค์ของแพนด้า” ที่รวมความนุ่มกลม ขนฟู ความเอ๋อและความคิ้วท์ของน้องไว้หมด ที่ชอบมากคือเค้าออกแบบพื้นที่ให้เปิดโล่ง สามารถเห็นน้องได้แบบชัดๆ ไม่ต้องเบียดแย่งกันดู และเราสามารถดูพวกเขาใช้ชีวิตจริง ๆ ตั้งแต่เคี้ยวไผ่แบบจริงจังยันงีบหลับกลางแดดไปเลย แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ ก่อน 10 โมง น้องจะออกมานั่งกินไผ่ ถ้าไปช่วงบ่าย ส่วนใหญ่น้องจะหลับกันแล้ว
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Zoo ทางออก 1
📍: https://surl.amap.com/39uUVY9G6Rg






011 : JiaoChangKou
ย่านใจกลางเมืองฉงชิ่งที่ทั้งคึกคัก และเดินทางสะดวกสุด ๆ เพราะอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมีรถไฟฟ้าผ่านหลายสาย ที่นี่คือเหมาะมากสำหรับคนที่อยากพักในโซนที่มีครบทุกอย่าง ทั้งร้านอาหารท้องถิ่น คาเฟ่น่ารัก ๆ และห้างสรรพสินค้า แถมย่านนี้ยังมีที่พักให้เลือกหลายระดับ ราคาไม่แรง และเดินทางไปจุดถ่ายรูปดัง ๆ อย่าง “ตึกหงหยาต้ง” ก็ง่ายมาก เรียกได้ว่าเป็นโลเคชันที่ตอบโจทย์ทั้งสายกิน สายเที่ยว และสายช้อปจบในที่เดียวเลย
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Linjiangm ทางออก 1
📍: https://surl.amap.com/2XfBNs11q46U





012 : Ancient Town of Ciqikou
ชมความนุ่มนิ่มของแพนด้าเสร็จ ยังไม่ต้องวางกล้อง เพราะเราจะพาไปต่อที่โลเคชันสายคอนเทนต์สุดคลาสสิก ที่คนชอบเสน่ห์เมืองเก่าต้องหลงรัก โดย Ciqikou เมืองท่าริมแม่น้ำแยงซีมาก่อน มีประวัติยาวนานกว่า 1,700 ปี ที่ในอดีตขึ้นชื่อเรื่อง การทำเครื่องเคลือบดินเผา ปัจจุบันแม้ไม่เหลือโรงเผาเตาแบบสมัยก่อน แต่เสน่ห์ของตึกไม้โบราณ ศาลาแบบจีน ๆ และซอยแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า กลับยังอยู่ถ่ายรูปมุมไหนก็ยังดูมีเสน่ห์ ไฮไลต์คือทางเดินหินโบราณที่เรารู้สึกว่าได้ฟีลย้อนยุคยังไงอย่างงั้น แถมที่นี่ยังมีร้านชา และร้านขนมพื้นบ้านเยอะมาก ใครชอบบรรยากาศเมืองเก่าแบบนี้ ห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด!
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Ciqikou ทางออก 2
📍: https://j.map.baidu.com/d5/rk






013 : Yangtze River Cableway
มาฉงชิ่งแล้วไม่พูดถึงที่นี่ก็คือยังมาไม่ถึงจริง ๆ เพราะนี่คือแลนด์มาร์คสุดคลาสสิก และคอนเทนต์จึ้งมากกกก โดยเฉพาะสายถ่ายรูปต้องชอบมุมนี้แน่ ๆ มุมที่เห็นกระเช้าข้ามแม่น้ำแยงซีที่เป็นเหมือนไอคอนของเมืองนี้มาเกือบ 40 ปี แนะนำมาช่วงเย็น ๆ แสงสวยมากก
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี Shangxinjie ทางออก 2
📍: https://surl.amap.com/3dti6k51v2ip


จาก Yangtze River Cableway มาไม่กี่นาที เราจะเจอกับอีกโลเคชั่นสุดคลาสสิกที่ถ่ายรูปสวย และได้ฟีลย้อนยุคมาก โดยถนนเก่าใจกลางเมืองที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์ คาเฟ่ชิค และมุมถ่ายปัง ๆ โดยเฉพาะมุมที่ถ่ายรูปสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีสีแดงอันโดดเด่นนี้
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี Shangxinjie ทางออก 2
📍: https://surl.amap.com/3dti6k51v2ip


014 : Xiahaoli
ใกล้ๆ กัน ยังมีแลนด์มาร์คของวัยรุ่นสุดชิคที่ซ่อนอยู่บนเนินเขาที่ห้ามพลาดเด็ดกับเพราะที่นี่ย่านคาเฟ่ ย่านร้านอาหารของคนโลคอลที่เขาไปกัน และหนึ่งในแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดเลยคือมุมถ่ายรูปที่เราจะเห็นทั้งเวิ้งของที่นี่ แอบบอกว่ามุมนี้คนเยอะมากกช่วงกลางคืน
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี Shangxinjie ทางออก 2
📍: https://surl.amap.com/3eYKDvDOem4



ส่วนสายชิลล์เราแนะนำบาร์สุดคูลที่เริ่มเปิดช่วงเย็นที่มีทั้ง Rooftop Bar วิวดีๆ บาร์เรโทรที่เปิดแผ่น บอกเลยว่า Vibes ดีม๊ากก



ติดกินที่ฉงชิ่ง
015 : 郝山城
ถ่ายรูป เที่ยวกันจนฉ่ำ เราขอเอาใจสายกินบ้าง มาเริ่มต้นกันด้วยร้าน 郝山城火锅 (Haoshan Cheng Hotpot) ร้านหม้อไฟที่บรรยากาศแบบชุมชนบ้าน ๆ แต่บอกเลยรสชาติคือจัดจ้านเกินนน โดยที่ร้าน 郝山城 เค้าเสิร์ฟหม้อไฟแบบฉงชิ่งแท้ ๆ ที่เป็นหม้อแบ่งสองฝั่งได้ แต่ถ้าอยากสัมผัสความเผ็ดแบบต้นตำรับแนะนำให้เลือกหม้อแดง ๆ เดือด ๆ แบบเราที่อัดแน่นด้วยพริกแห้งซ้อนหลายชั้น, พริกสดหั่นล้นหม้อ, และเครื่องเทศอย่าง ฮวาเจียว ที่ทำให้ลิ้นชาจัดแบบหยุดกินไม่ได้
การเดินทาง : รถไฟสาย 10 ลงสถานี Liyuchi ทางออก 2A
📍 : https://j.map.baidu.com/3f/IAYi


ส่วนเมนูแนะนำเราขอเสนอเนื้อวัวสดหมัก ที่เนื้อนุ่ม เด้ง ไม่เหนียว จุ่มลงหม้อ 7 วิแล้วทานได้เลย และเนื้อวัวสไลซ์บาง ชิ้นใหญ่ ที่สดไม่มีกลิ่นเลย ไม่ใช่แค่เนื้อยังมีของเด็ดอีกเพียบทั้งลูกชิ้น, ปลาหมึกสด, เต้าหู้ปลา, และผักสดต่าง ๆ ที่บอกเลยว่าฟินแน่นอน



ตบท้ายด้วย ของหวานเย็น ๆ เนื้อนุ่มละมุนสุดฟินด้วย 布丁 (บู้ติง) หรือพุดดิ้งไข่แบบจีน ๆ ที่ทั้งเนียน หอม และอร่อยมาก ตัดกับความเผ็ด ความร้อนของหม้อไฟได้ดีสุด ๆ

016 : 洞山城·防空洞老火锅 (Dongshan Cheng Kongdong Old Hotpot)
ร้านหม้อไฟที่จะว่าลับก็ลับ ไม่ลับก็ไม่ลับเพราะที่นี่ตั้งอยู่ใต้ดิน หรือหลุมหลบภัยเก่า ใกล้กับย่าน Jiefangbei แต่เห็นแบบนี้อากาศร้านคือเย็นสบายมาก มาพร้อมไฮไลต์น้ำซุปเห็ดหอมที่รสชาติกลมกล่อม มีหม้อแบ่งสองฝั่ง ใครอยากใส่หมาล่าแบบฉ่ำ ๆ ก็ได้เช่นกัน โดยเมนูที่นี่จะมีให้เราเลือกมากมายทั้งเนื้อสัตว์ ลูกชิ้น เต้าหู้ ผักหรือเส้นต่าง ๆ ให้เลือกแบบจุใจ แต่ที่เราชอบร้านนี้คือตัวน้ำจิ้มที่มีให้เราเลือกเยอะมากกก
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Linjiangm ทางออก 1
📍: https://j.map.baidu.com/37/nnRi





017 : 姚脑壳乐山鲜烧牛肉
ถ้าเก็บคอนเทนต์หม้อไฟจนครบแล้ว เราขอแนะนำอีกหนึ่งร้านเอาใจสายหมาล่ากับเมนูหมูเปื่อยนุ่ม ตุ๋นมาอย่างดี จนเนื้อเปื่อยแทบละลายในปาก และเนื้อวัวสดฟิน ๆ ทานคู่กับข้าวเปล่าราดน้ำจิ้มแซ่บ ๆ มาพร้อมเมนูขนมจีบทอดไข่เค็มที่ด้านในอัดข้าวมาแบบแน่น ๆ เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายกินห้ามพลาดไปลองกันนะ
วิธีเดินทาง : รถไฟฟ้าสาย 2 ลงสถานี Xiaoshenzi Station ทางออก 6
📍 : https://j.map.baidu.com/dd/RilK



018 : 老麻抄手重庆小面 Laoma Meat Dumplings Chongqing Xiaomianguan
ร้านบะหมี่เจ้าดังที่จีนยืนต่อคิวแน่นทุกวัน โดยไฮไลต์ที่นี่เค้าจะเสิร์ฟบะหมี่เส้นเล็กเหนียวนุ่มสไตล์ “เสี่ยวเมี่ยน” แบบต้นตำรับ เริ่มด้วยเมนูเส้นบะหมี่แห้งเหนียวนุ่มคลุกซอสถั่วบดเข้มข้น ผสมหมูสับผัดซอสพริกที่รสชาติกลมกล่อม และหอมเครื่องเทศม๊าก ส่วนอีกหนึ่งเมนูอย่างบะหมี่เนื้อตุ๋นในซุปฉงชิ่ง อันนี้ก็ห้ามพลาดเลย ตัวเส้นบะหมี่เค้าจะเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปหอมเครื่องพริกแบบฉงชิ่งแท้ ๆ ภายในชามมีเนื้อตุ๋นชิ้นใหญ่ นุ่มเปื่อยแบบฟินๆ
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Linjiangmen ทางออก 2
📍 : https://surl.amap.com/32lUak51eXN




019 : FooFoopot
หลังจากวนอยู่กับหม้อไฟฉงชิ่งมาหลายมื้อ วันนี้เราขอเปลี่ยนบรรยากาศมาลองร้านอาหารฟิวชั่นที่แค่ชื่อก็น่าลองแล้ว โดยเมนูที่นี่เค้าจะเสิร์ฟอาหารสไตล์เอเชียแบบฟิวชั่นผสมผสานในบรรยากาศร้านที่ดูเรียบหรู แค่ยังไม่กินก็แอบเทคะแนนให้ที่นี่แล้วเนี่ย
มื้อนี้เราขอจัดเมนูชุดใหญ่มาลอง เริ่มด้วยมันบดโปะกากหมู หมึกย่างราดซอสเปรี้ยวเผ็ด และทีเด็ดคือตัวซี่โครงหมูใบมิ้นต์ และหอยนางรมตุ๋นซอสญี่ปุ่นที่นัวจนอยากซดหมดหม้อ ปิดท้ายด้วยข้าวสวยร้อน ๆ บอกเลยว่าฟิน ฟิน ฟิน
การเดินทาง : รถไฟสาย 6 ลงสถานี Huangnibang ทางออก 3B
📍 : https://surl.amap.com/2YviGH31s9wD





นอกจากอาหารที่รสชาติถูกจริตเรา ที่นี่เค้ายังเสิร์ฟคราฟต์เบียร์เย็น ๆ ให้ได้ตัดเลี่ยนอีกด้วย ตัวเบียร์มีให้เลือกหลายแบบ ยิ่งตอนเย็นที่แสงไฟในร้านเริ่มเปิด มู้ดในร้านนี้คือดีมาก


020 : 蔡润点心 (Cai Run Dim Sum)
ถ้ามาฉงชิ่งแล้วเริ่มคิดถึงความนุ่มนิ่มของติ่มซำแบบที่ทั้งน่ากินและน่าถ่ายรูป เราขอแนะนำให้แวะมาที่ร้าน 蔡润点心 (Cai Run Dim Sum) เพราะที่นี่เป็นร้านรวมติ่มซำสไตล์โมเดิร์นที่ยังคงกลิ่นอายจีนแบบคลาสสิก
การเดินทาง : รถไฟสาย 9 ลงสถานี Guanyinqiao ทางออก 7
📍 : https://surl.amap.com/36YQMdL1h0Br


ตัวเมนูก็มีหลากหลาย หน้าตาสวยทุกจานจนไม่รู้จะเริ่มถ่ายจากอะไร ทั้งซาลาเปาลาวาไข่เค็มสีดำแวววาว ขนมจีบหน้ากุ้งโปะโฟมไข่ขาว ฮะเก๋ากุ้งแป้งบางกรอบและเกี๊ยวนึ่งหลากสีที่จัดเรียงมาในเข่งไม้ได้อย่างละมุน ใครเป็นสายติ่มซำ เราแนะนำร้านนี้เลย ทั้งรสชาติและราคาคือคุ้มมาก!



021 : JiaoChangKou Night Market หลังมื้อหนักทั้งหม้อไฟและฟิวชั่น มื้อนี้ขออยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นชิล ๆ ย่าน JiaoChangKou Night Market สถานที่ฮิตของชาวฉงชิ่ง ถนนคนเดินทอดยาวเต็มไปด้วยร้านปิ้งย่างสตรีทฟู้ดที่กลิ่นหมาล่าลอยมาแต่ไกล หนึ่งเมนูที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองคือ 冷啖杯 (หนิงตันเป่ย) หรือที่บางคนเรียกแบบไทยว่า “หมาล่าเย็น“ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอาหารให้เราเลือกชิมเยอะมากทั้งหมาล่าไม้ย่าง เต้าหู้ทอด มาพร้อมบรรยากาศแบบครึกครื้น ใครชอบสไตล์นี้ต้องห้ามพลาดที่นี่เลย
การเดินทาง : รถไฟสาย 2 ลงสถานี Linjiangm ทางออก 1





022 : 熨斗糕老烧饼
ใครอยากลองชิมขนมโบราณ ที่ด้านนอกเคลือบกรอบมีกลิ่นหอมฉุยจากเตาถ่าน ด้านในมีความเหนียวนุ่มใส่ไส้หวานด้วยแยมสตอเบอรี่ บูลเบอรี่ และอีกมากมายให้เราได้ลองชิมในราคา 1-2 หยวนเท่านั้นเอง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Jiaochangkou ทางออก 4
📍: https://surl.amap.com/2ZKK3oF1s21R




023 : Set Coffee
ขอเปิดด้วยร้านวัยรุ่นเทสดีด้วยคาเฟ่ร้านฮิป ๆ กัน เริ่มต้นด้วยร้านแรกในย่าน Nan’an ที่ให้ฟีลโมเดิร์นแบบ Dark-Japanese มีที่นั่งทั้งด้านนอก และด้านใน แต่ไฮไลต์ของที่นี่คือเมนูที่มีให้เราเลือกเมล็ดพร้อมบาริสต้าจะชงและเสิร์ฟอย่างพิถีพิถัน และที่ Set Coffee ไม่ได้แค่มีบรรยากาศดี แต่มันคือหนึ่งในคาเฟ่ที่คนรักกาแฟต้องชอบแน่นอน นอกจากกาแฟดำก็ยังมีเมนู espresso-based, dirty, oat latte ให้เราเลือกเยอะมาก
การเดินทาง : รถไฟสาย 10 ลงสถานี Nanhu ทางออก 2
📍: https://surl.amap.com/343OkiF1u1gP






024 : Sixth Sense Cafe
สายคาเฟ่ในฉงชิ่งต้องไม่พลาดร้านเท่ ๆ อย่าง Sixth Sense Cafe ที่ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศคูล ๆ และกาแฟคุณภาพดีมาก ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านนั่งชิลล์ แต่เป็นร้านที่มีดีไซน์เรียบเท่ ถ่ายรูปมุมไหนก็คูลไปหมด ภายในตกแต่งด้วยโทนดำตัดกับผนังปูนเปลือยแบบเท่ ๆ ส่วนเมนูของร้านคือกาแฟดริปที่มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ บาริสต้าก็พิถีพิถันทั้งรสและการเสิร์ฟ ส่วนใครไม่ดื่มกาแฟก็มีชาเบลนด์พิเศษและขนมหวานที่หน้าตาดีให้เราได้ชมกันอีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟสาย 13 ลงสถานี Guangdianyuan ทางออก 3A
📍: https://surl.amap.com/3bICKoZH69C







025 : swimin (Houbao Community Shop)
ร้านคาเฟ่ในสวนสาธารณะ Houbao Park ย่าน Nan’an ที่ตั้งอยู่บนไหล่เขาเล็ก ๆ ฝังตัวอยู่ในชุมชนที่มีวิวสุดจึ้งสามารถมองไปยังแม่น้ำ และสะพานของฉงชิ่งแบบเต็มตา ยิ่งช่วงเย็นคือ Vibes ดีมากแก และนอกจากวิวที่ว่าดีแล้ว เมนูเครื่องดื่มเค้าก็จัดเต็มไม่แพ้กันนะ เริ่มตั้งแต่กาแฟคั่วอ่อนจนไปถึงคั่วเข้ม หรือใครร้อน ๆ เค้าก็มีเมนูสดชื่น ๆ อย่างพวกโซดาซ่า ๆ อีกด้วยนะ
การเดินทาง : รถไฟสาย 10 ลงสถานี Houbao ทางออก 2
📍: https://surl.amap.com/348d3LLR2qj






026 : Coffee Ladder
ขอปิดท้ายด้วยคาเฟ่สุดคิ้วท์ที่เสิร์ฟเมนูสุดแปลกมาให้ลองอย่าง Rice Americano ที่เป็นกาแฟดำผสมข้าว ข้าวที่แปลว่าข้าวจริง ๆ แปลกแต่ลองก็ไม่แย่นะ ส่วนความน่ารักร้านนี้เรายกให้มุมทางเข้าเลย ถ่ายมุมไหนก็ชิค ก็เก๋ มาฉงชิ่งอย่าลืมแวะมาลองร้านนี้กันนะ
การเดินทาง : รถไฟสาย 1 ลงสถานี Jiaochangkou ทางออก 11
📍: https://j.map.baidu.com/98/lbpk





ฉงชิ่งคือเมืองที่รวมทุกอย่างไว้ครบในทริปเดียว ทั้งความล้ำแบบไซไฟ ความ Unseen ที่ว้าวได้จริง คาเฟ่ดีไซน์เท่ อาหารจัดจ้านแบบยอมเหงื่อออก และมุมถ่ายรูปที่แทบไม่ต้องหาแสง เพราะทุกที่คือฉาก พร้อมให้ลงฟีดแบบไม่ต้องแต่งเยอะ ยิ่งสบายขึ้นไปอีกถ้าบินตรงกับแอร์เอเชีย นั่งชิลไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง พร้อมลุยเมืองสุดคูลที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจทุก
