4 Days Summer Trip in Kyushu : Kumamoto – Oita – Fukuoka 🚗 🇯🇵
ซัมเมอร์นี้เราขอพาทุกคนไปฮีลกายฮีลใจขับรถชมวิวเสพบรรยากาศสุดชิลให้ใจฟูที่คิวชูในแบบฉบับ 4 วัน 4 คืน เก็บครบทุกฟีล เริ่มตั้งแต่ไปเซฮายเจ้าคุมะมงสุดคิ้วท์ ชมปราสาทสุดอลังที่เมือง Kumamoto สูดอากาศสดชื่นที่ Yufuin เมืองสโลว์ไลฟ์กลางหุบเขา เดินถนนสายอาร์ตแวะถ่ายรูปคาเฟ่ชิคๆ พร้อมพักใจที่ Beppu เมืองแห่งออนเซ็น แวะชิมร้านขนมปังชื่อดังที่เปิดมา 100 กว่าปี และปิดจบที่ Fukuoka เมืองแห่งสีสันที่เราจะตามเช็กลิสต์ของกินอร่อย ๆ พร้อมนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่จะทำให้ทุกคนหลงรักที่นี่ยิ่งขึ้นไปอีก
ส่วนทริปคิวชูรอบนี้เราเลือกเดินทางกับ Thai Vietjet สายการบินคู่กายคู่ใจที่มีไฟลท์บินตรงช่วงกลางคืนจากสุวรรณภูมิถึงฟุกุโอกะช่วงเช้าแบบสดชื่น พนักงานยิ้มแย้มดูแลตลอดการเดิน เครื่องบินสะอาด เบาะนั่งสบาย มีอาหาร และเครื่องดื่มให้สั่งเติมความอร่อยระหว่างไฟลท์หลากหลายเมนูอีกด้วย





Flight Bangkok to Fukuoka
ทริปซัมเมอร์ซัมใจนี้เราเลือกเดินทางกับ Thai Vietjet สายการบินคู่กายคู่ใจที่มีไฟลท์บินตรงช่วงกลางคืนจากสุวรรณภูมิที่ทำให้้เราหลับบนเครื่องได้อย่างเต็มอิ่ม พอตื่นมาก็ถึงฟุกุโอกะช่วงเช้าแบบสดชื่น พร้อมเริ่มทริปได้ทันที แถมขั้นตอนเช็คอินก็รวดเร็ว พนักงานยิ้มแย้มดูแลตลอดการเดินทาง เครื่องบินสะอาด เบาะนั่งสบาย มีอาหารและเครื่องดื่มให้สั่งเติมความอร่อยระหว่างไฟลท์หลากหลายเมนูอีกด้วย ยิ่งปีนี้ Thai Vietjet เค้าเปิดเส้นทางการบินใหม่มากมายในแถบเอเชีย ใครสนใจเส้นทางไหน หรือจะตามรอยคิวชูของเรา
สามารถจองตั๋วได้ที่นี่เลย : https://th.vietjetair.com




My Itinerary
Day 1 : Fukuoka – Kumamoto
- Kumamon Port Yatsushiro
- Kumamoto Castle
- Kumamon Square
- Yamami Chaya
Day 2 : Ukiha – Bebpu
- Tanushimaru Station
- Yoshii Shirakabe-dori Street
- Tsuzura Rice Terrace
- Ukiha Inari Shrine
- Kamado Jigoku
- Oniyama Jigoku
- Okamotoya light meal restaurant
- Jigokumushikobo Kannawa
Day 3 : Bebop – Yufuin – Fukuoka
- Tomonaga Bakery
- Yufu Silky Road
- Yunotubo Street
- Kinrin Lake
- Yufuin Floral Village
Day 4 : Fukuoka
- Menya ISHII
- FUK COFFEE
- I’m Donut
- Momochi Seaside Park
- ShinShin KITTE Hakataten
Day 5 : Fukuoka – Bangkok

Day 1 : Fukuoa – Kumamoto
Kumamon Port Yatsushiro
เริ่มต้นทริปคิวชูของเราด้วยความน่ารักของเจ้าคุมะมงที่ Kumamon Port Yatsushiro แลนด์มาร์กที่เต็มไปด้วยรูปปั้นคุมะมงกว่า 80 ตัว ตั้งแต่เจ้าคุมะมงยักษ์สูง 6 เมตร ไปจนถึงแก๊งคุมะมงจิ๋วที่ยืนเรียงกันเหมือนคอรัสให้เราได้ถ่ายรูปเล่น ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปี 2020 เพื่อเป็นท่าเรือรับเรือสำราญและต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มของคุมะมง คาแรกเตอร์สุดขี้เล่นที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดคุมาโมโตะ โดยที่นี่จะช่วยโปรโมตเมืองดึงดูดคนมาเที่ยว และสร้างบรรยากาศสนุกตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงเรือหรือมาถึงเมือง บอกเลยว่าใครเป็นแฟนคุมะมงต้องกรี๊ดแบบเราแน่นอนเพราะทุกมุมคือน่ารักมากกกก
⏰ เปิดวันพุธ – วันจันทร์ (ปิดวันอังคาร) เวลา : 09:00 – 17:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9gfWP1qGpUT7zeVR8









Kumamoto Castle
ชมความน่ารักของเจ้าคุมะมงช่วงบ่ายเราจะไปต่อที่ ปราสาทคุมาโมโตะ แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง และเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยปราสาทแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยซามูไรคาโต คิโยมาสะและถือเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งของคุมาโมโตะ ตัวปราสาทใหญ่สง่างาม รายล้อมด้วยกำแพงหินสูงที่มีบรรยากาศดีจนเดินเพลินถ่ายรูปได้เป็นร้อยมุม แม้บางส่วนจะเคยเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะอย่างสวยงามและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว ใครชอบประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมต้องห้ามพลาดที่นี่เลยนะเพราะแค่เดินชมปราสาทยามบ่ายก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยุคซามูไรจริง ๆ
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:00 – 17:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/X7jM9Yp3xveYax4R7




Kumamon Square
หลังเดินชมปราสาทคุมาโมโตะเสร็จ แนะนำให้แวะพักเติมพลังที่ Kumamon Square หรือร้านขนมธีมคุมะมงใกล้ๆ ปราสาท ที่นี่มีทั้งของฝาก ขนมน่ารักๆ ลายคุมะมง และคาเฟ่ให้สั่งเครื่องดื่มหวานๆ มานั่งชิลเต็มไปหมด บางวันเราจะได้เห็นการโชว์หรือการแสดงของคุมะมงด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่แฟนคลับหมีดำต้องไม่พลาด
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:00 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/E2QUf2VuNJoc4NwT7



Yamami Chaya
มื้อบ่ายวันแรกเราขอเปิดด้วยข้าวหน้าเนื้อร้าน Yamami Chaya ร้านดังในย่านปราสาทคุมาโมโตะ ที่เสิร์ฟเนื้อคุณภาพดีนุ่มละลายในปาก ราดซอสสูตรพิเศษกลมกล่อมกินคู่กับข้าวร้อนๆ คือฟินสุดๆ บรรยากาศร้านอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม นั่งทานไปมองวิวเมืองไปยิ่งเพลิน ใครมาเที่ยวคุมาโมโตะแล้วอยากลองรสชาติท้องถิ่นแบบแท้ๆ ที่นี่คือหนึ่งในลิสต์ที่ต้องปักหมุดว่าห้ามพลาดเลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 11:00 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/kwYGxQZxJqATisj9A


Day 2 : Ukiha – Bebpu
Tanushimaru Station
เริ่มต้นวันที่สองด้วยการขับรถมาที่สถานี Tanushimaru โดยที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์สุดคิวท์เพราะทั้งสถานีออกแบบเป็นรูป “เจ้ากัปปะ” วิญญาณน้ำตามตำนานญี่ปุ่นที่มีเหมือนร่างเหมือนกบแต่ตัวเป็นคน ไฮไลต์คือด้านหน้ามีรูปปั้นกัปปะให้ถ่ายรูปเล่น และความสนุกของเมืองนี้คือที่นี่มีกิจกรรมให้เราเดินตามหากัปปะที่ซ่อนอยู่รอบเมืองด้วย ใครที่มีเวลาลองตามหาดูรับรองว่าแต่ละจุดคือน่ารักจริง ๆ ส่วนเราขอเก็บบรรยากาศรอบ ๆ สถานีพอ
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/edUqwcCQULpXDEUG6







Yoshii Shirakabe-dori Street
หลังจากเพลินกับการตามหากัปปะ สาย ๆ เราก็ขับรถต่อมาที่ Yoshii Shirakabe-dori Street ย่านเก่าสุดคลาสสิกของเมือง Ukiha ที่มีบ้านเรือนผนังสีขาวและหลังคากระเบื้องเรียงรายกว่า 250 หลัง โดยที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมสำคัญของชาติ เสน่ห์ของย่านนี้เริ่มตั้งแต่ยุคเอโดะที่เคยเป็นเมืองพักระหว่างเส้นทางการค้า และหลังจากเกิดไฟไหม้ใหญ่ในสมัยเมจิ ชาวบ้านก็สร้างบ้านผนังขาวเพื่อป้องกันไฟจนกลายเป็นเอกลักษณ์มาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เราเดินเล่นบนถนนสายนี้เหมือนย้อนเวลากลับไปสมัยญี่ปุ่นโบราณเลย แถมที่นี่ยังมีคาเฟ่น่ารัก ๆ ขนมท้องถิ่น และบรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการถ่ายรูปมาก ๆ
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CeGMjbUK3yMvDaHz8





Tsuzura Rice Terrace
ถ้าทุกคนมาในช่วงเดือนกันยายน เราแนะนำให้ขับรถต่อไปชมทุ่งนาขั้นบันไดสุดจึ้งกันที่ Tsuzura Rice Terrace หนึ่งในวิวสุด Unseen ของเมือง Ukiha โดยที่นี่มีนาข้าวกว่า 1,000 ผืนเรียงตัวตามเนินเขาเป็นขั้นๆ มองลงมาเห็นวิวเขียวขจีสุดสายตา และช่วงปลายฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงจะได้เห็นรวงข้าวสีทองโอบล้อมด้วยทิวเขาและท้องฟ้าสีฟ้าที่สวยสุด ๆ
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/byDnNA1Mk83Kwids7





Ukiha Inari Shrine
หลังจากชมทุ่งนาขั้นบันได เราแวะต่อที่ Ukiha Inari Shrine ศาลเจ้าชื่อดังบนเนินเขาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 เพื่อประดิษฐานเทพเจ้าสำคัญ 3 องค์จากศาลเจ้าดังของญี่ปุ่น ไฮไลต์คือเสาโทริอิสีแดงกว่า 90 ต้นที่เรียงเป็นอุโมงค์ยาวขึ้นไปถึงตัวศาลเจ้า ด้านบนเราจะเห็นวิวเมือง Ukiha และทุ่งนา Chikugo กว้างสุดสายตา แถมที่นี่เค้ายังขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านความเจริญธุรกิจ ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ และสุขภาพแข็งแรง ใครอยากพักกายพักใจเราแนะนำให้ขับรถขึ้นมาที่ศาลนี้เลย
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EphsphzaevRBh4DN6







Kamado Jigoku
หลังจากเสพบรรยากาศธรรมชาติ และเมืองเก่ากันแบบชิลล์ ๆ ก็ถึงเวลาไปชมความอลังการของบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังที่ Jigoku Meguri กัน โดยช่วงบ่ายนี้เราจะเริ่มต้นที่ Kamado Jigoku หรือ “บ่อนรก” ไฮไลต์ของที่นี่คือบ่อสีฟ้าสวยราวกับสีของบ่อน้ำบลูลากูน โดยที่นี่เค้ามีหลายบ่อให้เราได้ชม บางบ่อมีควันพวยพุ่ง บางบ่อเป็นสีแดงอมส้มแปลกตา และมีมุมแช่เท้าออนเซ็นเล็กๆ ให้ผ่อนคลายอีกด้วย เป็นจุดเริ่มต้นของการทัวร์บ่อนรกที่ทั้งตื่นตา และสนุกสุดๆ
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 08:00 – 17:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ybgvbhd3rqWZNsoz7







Umi Jigoku
มาต่อกันที่บ่อที่ 2 ที่ถือว่าเป็นบ่อไฮไลต์ของเมืองนี้เลย โดยที่นี่มีจุดเด่นคือพูลน้ำสีฟ้าโคบอลต์ที่ส่องแสงวาวเหมือนทะเลร้อน ซึ่งเกิดจากอนุภาคแร่ซัลเฟต และการกระจายแสงแดด ทำให้น้ำคล้ายสีฟ้าที่ตระการตา น้ำร้อนจัดถึง 98 °C มีไอน้ำลอยคลอเหมือนหมอกเบา มีสวนญี่ปุ่นล้อมรอบอย่างร่มรื่น และมีกลีบดอกบัวยักษ์บานตั้งแต่ฤดูร้อนถึงใบไม้ร่วง เป็นบ่อที่มีมุมให้เราได้เดินไปดูเยอะมาก ถ้าใครมีเวลาไม่เยอะ เราแนะนำให้เที่ยวแค่บ่อนี้ก็พอแล้วนะ
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 08:00 – 17:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ixNaL3jf7XtFkdJE9








Jigokumushikobo Kannawa
มื้อเย็นวันนี้เราขอปิดท้ายด้วยร้านอาหารชื่อดังของเมือง Bebpu ที่ใช้ไอน้ำร้อนจากบ่อน้ำพุร้อนในการนึ่งวัตถุดิบแบบดั้งเดิมหรือที่เรียกว่า “Jigoku Mushi” โดยที่นี่เราสามารถเลือกผัก เนื้อ ซีฟู้ด หรือไข่มาใส่ตะกร้า แล้วนำไปนึ่งเองในเตาไอน้ำที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินด้วยตัวเอง ตัวความร้อนจะทำให้อาหารสุกแบบไม่ต้องปรุงเยอะ รสชาติออกมาหวานธรรมชาติและเฮลตี้สุด ๆ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สนุก ๆ แต่ถ้าใครชอบรสชาติที่จัดจ้านที่นี่อาจจะไม่เหมาะ (แนะนำให้เข้ามารับคิวก่อน)
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 10:00 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XSKWVYpXBimMRCEj9






Okamotoya Light Meal Restaurant
ถ้าใครคิดว่าจะจบวันง่าย ๆ ก็อาจจะยังนะ เพราะหลังอิ่มอร่อยที่ร้าน Jigokumushikobo Kannawa แล้ว เราก็ไปกันต่อที่ Okamotoya Light Meal Restaurant หรือร้านของหวานชื่อดังในย่าน Myoban ที่มีชื่อเสียงเรื่องสูตรพุดดิ้งนึ่งด้วยไอน้ำร้อนจากบ่อน้ำพุร้อน หรือที่เรียกว่าJigoku-mushi pudding โดดเด่นด้วยเนื้อเนียนละมุน รสเข้มหวานขมกลมกล่อม และเป็นต้นตำรับจานนี้ที่เสิร์ฟตั้งแต่ปี 1988 สืบทอดตั้งแต่ศิลปะการทำอาหารแบบ jigoku-mushi ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเบปปุมาตั้งแต่ยุคเอโดะ ใครเป็นสายของหวานนี่ห้ามพลาดที่นี่บอกเลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 08:30 – 18:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/bT2mJctL36SpDLpG6





Day 3 : Bebpu – Yufuin – Fukuoka
เช้าวันที่สามเราขอเริ่มต้นด้วยการไปต่อแถวซื้อขนมปังสุดหอมกรุนที่ Tomonaga Bakery ร้านเบเกอรีเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1916 และเป็นขวัญใจคนท้องถิ่นมายาวนานกว่าร้อยปี ตัวร้านตกแต่งสไตล์เรโทรให้ฟีลอบอุ่นเหมือนย้อนกลับไปยุคโชวะ กลิ่นขนมปังหอมฟุ้งตั้งแต่เดินเข้าไป เมนูห้ามพลาดคือ anpan ขนมปังไส้ถั่วแดงโฮมเมด และ butter roll กรอบนอกนุ่มใน ราคาน่ารักเพียงร้อยเยนกว่าๆ ทานคู่กับกาแฟเคล้ากลิ่นขนมปังสดใหม่ยามเช้าระหว่างขับรถ คือดีสุด ๆ ( แนะนำให้เราก่อนร้านเปิดสัก 30 นาที เพราะคนเยอะมากกกกก )
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 08:30 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LL81uHHyaE6K35Ny6





Yufu Silky Road
อิ่มท้องจากขนมปังหอมๆ เราขับรถต่อบนเส้นทาง Yufu Silky Road ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนชมวิวสวยที่สุดสายหนึ่งของคิวชู ไฮไลต์คือจุดชมวิวระหว่างทางที่สามารถมองเห็นภูเขา Yufu ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่งเขียวขจี มุมนี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตเพราะเห็นทั้งเส้นถนนคดโค้งตัดกับวิวภูเขาแบบพาโนรามาเหมาะแก่การจอดแวะถ่ายรูปก่อนเข้าเมือง Yufuin สุด ๆ
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CSVjek9Udyr2jPXA7




Yunotsubo Street
สาย ๆ วันนี้ขอเอาใจนักกิน นักช้อปของน่ารัก ๆ ด้วยการมาเดินเล่นที่ Yunotsubo Street ถนนสายช้อปปิ้งสุดน่ารักของเมือง Yufuin ที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ และร้านขนมเรียงรายสองข้างทาง เดินไปชิมไป ทั้งไอศกรีมซอฟต์ครีมรสนมสด ขนมชีสทาร์ตหอม ๆ และของท้องถิ่นอีกเพียบ บรรยากาศสโลว์ไลฟ์สุด ๆ มองไปไกล ๆ เห็นภูเขา Yufu เป็นฉากหลัง เอาจริงที่นี่เราใช้เวลาไปค่อนวันเพราะทุกอย่างมันเพลินไปหมด
⏰ เปิดทุกวัน ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดเวลา : 09:00 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jzVGyhMHo3NJSQHj6






Miffy Mori no Bakery
เริ่มต้นการเดินเล่นที่ Yunotsubo Street เราขอแวะร้านแรกสุดคิ้วท์อย่าง Miffy Mori no Bakery คาเฟ่และเบเกอรีธีมกระต่าย Miffy ที่ตกแต่งน่ารักจนใจเจ็บ ทั้งตัวร้านและขนมปังทุกชิ้นเต็มไปด้วยหน้ามิฟฟี่ให้ถ่ายรูปเพลิน เมนูแนะนำคือขนมปังรูปร่างมิฟฟี่ไส้คัสตาร์ดหอมหวาน กินคู่กับเครื่องดื่มร้อน ๆ คือน่ารักไปหมด
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:30 – 17:30 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jEoeY8PhmWZJbCmw9





湯布院 Shiitake Monster
อีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาดบน Yunotsubo Street คือ 湯布院 Shiitake Monster ร้านเห็ดชิอิตาเกะย่างชีสหอมกรุ่นจากเตา เห็ดสด ๆ ย่างจนผิวด้านนอกกรอบนิด ๆ แต่ด้านในฉ่ำหวาน ท็อปด้วยชีสยืด ๆ คือไม่คิดว่าจะอร่อยแบบนี้ นอกจากนี้ถนนเส้นนี้ยังมีของกินอีกเพียบบบ แนะนำให้ทำท้องให้ว่างเพราะทุกร้านคืออร่อยไปหมด
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 11:00 – 17:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/K2DbSBZRs6JvSN6D8







Yufuin Floral Village
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่เราชอบมากคือ Yufuin Floral Village หมู่บ้านเล็ก ๆ สไตล์ยุโรปที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเทพนิยาย แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษคือมุมร้านและของที่ระลึกธีม Studio Ghibli ทั้ง My Neighbor Totoro และ Kiki’s Delivery Service มีทั้งตุ๊กตา ของใช้ และมุมถ่ายรูปสุดคิวท์กับเจ้าเหมียว Jiji ที่แฟนๆ Ghibli ต้องไม่พลาด บรรยากาศของหมู่บ้านเต็มไปด้วยดอกไม้และดีเทลน่ารัก ๆ เดินเล่นเพลิน ซื้อของฝาก หรือแวะจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ คือดีสุด
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:30 – 18:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/F4NGTcNhHguCN3Xw6








Kinrin Lake
ก่อนโบกมือลา Yufuin เราแวะปิดท้ายที่ Kinrin Lake ทะเลสาบเล็ก ๆ ที่รายล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้เขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบสุดโรแมนติก เดินเล่นรอบทะเลสาบหรือแวะคาเฟ่เล็ก ๆ ริมน้ำก็เพลินสุด ๆ โดยรอบทะเลสาบมีเส้นทางเดินเล่นยาวประมาณ 400 เมตร และที่นี่น้ำใสเพราะเกิดจากการผสมกันของน้ำแร่ร้อนกับน้ำเย็น ทำให้เกิดหมอกลอยคลอเหนือผิวน้ำในยามเช้าโดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วง บรรยากาศเงียบสงบโรแมนติกสุด ๆ ไฮไลต์อีกอย่างคือเสาโทริอิของศาลเจ้า Tenso ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ เป็นมุมถ่ายรูปสุดปังที่ใครมาเยือนนี้ต้องห้ามพลาดที่นี่เลย
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Y9dDWKGPDJJHjFcTA




Day 4 : Fukuoka
Menya ISHII
เริ่มต้นวันสุดท้ายของทริปด้วยการต่อคิวแต่เช้าที่ Menya ISHII ร้านอุด้งชื่อดังที่ครองใจทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวแบบเราได้อย่างสนิท โดยเมนูไฮไลต์คืออุด้งเส้นทำสดวันต่อวัน เหนียวนุ่มกำลังดีจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน กินร้อน ๆ ยามเช้าคือฟินที่สุด บรรยากาศร้านเล็กอบอุ่น ได้ฟีลโลคอลแท้ ๆ แนะนำให้มาก่อนร้านก่อนสัก 30 นาที รับรองคุ้มค่าการแก่รอแน่นอน
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 09:30 – 16:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Gnq7JQTycA5GM5ph7


เมนูยอดนิยมที่ห้ามพลาดคือ Mentaiko Kamatama Butter Udon ที่ผสมซอสไข่ปลาเมนไทโกะรสเข้มเข้ากับไข่และเนย ทำให้อุด้งมีความละเมียดละไม กลมกล่อมและหอมมันสุดๆ อีกเมนูขึ้นชื่อคืออุด้งเบคอนกรอบ เพิ่มชีสและไข่รสเค็มนัวๆ ตัวเส้นอุด้งเหนียวนุ่มสดใหม่วันต่อวัน ทำให้ทุกชามคือความใส่ใจ และรสชาติแท้สไตล์ฟุกุโอกะแท้ ๆ ถึงแม้ร้านจะเล็กและต้องต่อแถว แต่ความคุ้มค่าแก่การรอมาก



FUK COFFEE
หลังจากอิ่มอร่อยกับอุด้ง เราขอหลบแดดมานั่งพักที่ FUK COFFEE คาเฟ่สุดเท่ประจำฟุกุโอกะที่ดีไซน์มินิมอลคูลๆ มีโลโก้ FUK อันเป็นเอกลักษณ์ โดยเมนูกาแฟหอมเข้มคัดสรรเมล็ดอย่างดี แถมมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง FUK Latte ที่ทั้งถ่ายรูปสวยและอร่อย จนกลายเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตของสายคาเฟ่ ตัวร้านก็นั่งสบายเดินเข้ามาแล้วฟีลเหมือนได้พักใจ พักขาจากการเดินเที่ยวเลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 08:00 – 20:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/V5m7tqtRe1VdDJJQ6




ที่นี่ไม่ใช่แค่กาแฟดีเท่านั้น แต่เมนูของหวานอย่าง พุดดิ้งเนื้อเนียน ก็เป็นไฮไลต์ที่หลายคนตามมาลอง รสชาติหวานกำลังดี มาพร้อมคาราเมลขมเล็กน้อยออนท็อปด้วยไอศกรีมวนิลาลูกโต กินคู่กับ FUK Latte คือเข้ากันสุด ๆ



I’m Donut?
ถ้ายังไม่หายอยากของหวาน เราขอแนะนำให้ต่อคิวที่ I’m Donut? ร้านโดนัทชื่อดังที่คนฟุกุโอกะและนักท่องเที่ยวพร้อมใจกันยืนรอกันแน่น ไฮไลต์ของที่นี่คือโดนัทเนื้อนุ่มฟูเคลือบด้วยน้ำตาลบาง ๆ หรือราดไอซิงรสต่าง ๆ ที่หน้าตาน่ารักและอร่อยมาก เมนูฮิตคือชูการ์โดนัทคลาสสิกกับรสมัทฉะที่หอมเข้มกำลังดี กินคู่กับกาแฟหรือชานมคือฟินสุด ๆ เอาเป็นว่าใครอยากเพิ่มน้ำตาลที่นี่คือตอบโจทย์พวกแกเลย
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 07:00 – 19:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/66T3MagmTq2p9Qq37






Momochi Seaside Park
หลังจากช้อปปิ้ง เดินเล่นและตะลุยกินของอร่อย ๆ ที่ย่านเทนจินกันเสร็จ ช่วงเย็นเราขอนั่งรถออกมาเสพบรรยากาศชิลๆที่ชายหาดชื่อดังของฟุกุโอกะที่มีไฮไลต์สุดว้าวคือวิวพระอาทิตย์ตกที่ดีและโรแมนติกมาก ๆ เดินเล่นบนชายหาดรับลมทะเลเย็น ๆ มองเห็น Fukuoka Tower ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง และวันที่เรามาคือโชคดีฟ้าระเบิด แสงพระอาทิตย์สีทองระยิบระยับดีต่อใจสุด ๆ ที่นี่ยังร้านค้า ของกินเล่น รวมถึงคาเฟ่ให้เราได้นั่งจอย ๆ กันอีกด้วย
⏰ เปิดทุกวัน 24 Hr.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/sSqA4oGbCd8vg8yZ6









ShinShin KITTE Hakataten
ปิดทริปมื้อดึกที่ ShinShin KITTE Hakataten สาขาน้องใหม่ในห้าง KITTE ใกล้สถานี Hakata กับร้านโทงคตสึราเมงชื่อดังของเมืองนี้ที่ผู้คนนิยมมากขนาดต้องต่อแถวยาวตั้งแต่เช้ายันดึก ไฮไลต์คือซุปกระดูกหมูเข้มข้นครีมมี่ที่ต้มด้วยกรรมวิธีพิเศษนานหลายชั่วโมง จนได้รสและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟพร้อมเส้นเล็กเหนียวนุ่ม และหมูชาชูชิ้นโตที่เปื่อยนุ่มละมุนใจ บรรยากาศร้านแม้คนจะเยอะแต่ก็อบอุ่นแบบ Hakata เป็นการปิดทริปที่ฟินสุด ๆ
⏰ เปิดทุกวัน เวลา : 11:00 – 23:00 น.
📍พิกัด : https://maps.app.goo.gl/gjJ4fG9cZxN3FbZS9





จบทริปคิวชู 4 วัน 4 คืนแบบฉบับอิ่มใจ อิ่มท้อง ตั้งแต่คุมะมงสุดคิวท์ที่คุมาโมโตะ เดินเล่นเมืองเก่าที่ Yoshii สูดอากาศบริสุทธิ์ที่ทุ่งนาขั้นบันไดและศาลเจ้า Ukiha Inari ชิลใน Yufuin ชมบ่อนรกสุดอลังใน Beppu ไปจนถึงวันสุดท้ายที่ Fukuoka ที่จัดเต็มทั้งอุด้ง กาแฟ ของหวาน ช้อปปิ้ง และนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ Momochi ใครกำลังมองหาทริปรีเฟรชใจสั้น ๆ แต่ได้ครบทุกฟีล คิวชูคือคำตอบที่ใช่แน่นอน




