ช่วงนี้ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวญี่ปุ่น นักเดินทางอย่างเราต้องไม่พลาดที่จะเก็บโมเมนต์ดี ๆ และดื่มด่ำไปกับความงดงามของธรรมชาติ ชมวิวเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะสุดโรแมนติก ได้สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิม แถมตะลุยกินแบบไม่พัก ถ้าใครกำลังมองหาทริปแบบนี้อยู่ เราขอแนะนำภูมิภาค CHUBU เลย!
แน่นอนความสวยความปังอลังการไม่แพ้ภาคไหน ๆ ในญี่ปุ่นแน่นอน ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลกอย่างชิราคาวาโกะแล้ว มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ใช้เวลาเดินเล่นทั้งวันก็ไม่มีเบื่อ เท่านั้นยังไม่พอ แวะมาต่ออีกหน่อยกับเส้นทางนักกิน ยิ่งสายเนื้อยิ่งฟินไปอีก เพราะเราได้เพิ่มเนื้อชื่อดังอย่างเนื้ออิดะจากเมือง TAKAYAMA เข้าไปอยู่ในลิสต์ของทริปนี้เรียบร้อยและปิดท้ายด้วยเมืองนาโกย่า เช็กอินอควาเรียมเก๋ ๆ ที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่นอกจากความสดใสของน้อนปลาให้เหล่าทาสได้ยกกล้องขึ้นถ่ายแบบรัว ๆ ยังได้เห็นโชว์ความน่ารักของวาฬออร์ก้าอีกด้วย
กินเยอะแถมแวะเช็กอินบ่อยขนาดนี้ ต้องแบ่งเวลาดูแลตัวเองบ้าง แค่พก CURAPROX TRAVEL SET ติดกระเป๋า ไซส์เล็ก พกง่าย แวะแปรงฟันที่ไหนก็สะดวก เหมาะกับสายกินอย่างเรามาก ๆ ไหนใครพร้อมไปตะลุยกิน พร้อมเที่ยวแบบฟิน ๆ ที่ญี่ปุ่นกันแล้วบ้าง !
สามารถหาซื้อ CURAPROX TRAVEL SET ได้ที่ : https://bit.ly/curaprox_Chalee
เริ่มจากการจัดกระเป๋าไปเที่ยวญี่ปุ่นก่อนเลย สิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับทริปสายกินอย่างเรา นั่นคือ CURAPROX TRAVEL SET ที่ขนาดเล็กพกไปเที่ยวที่ไหนก็สะดวก ด้วยความเล็กกระทัดรัดทำให้เราสามารถพกใส่กระเป๋าใบเล็กติดตัวเวลาออกไปแวะตามร้านอาหารต่าง ๆ เห็นเล็ก ๆ แบบนี้แต่ด้านในครบครันมาก ภายในกล่องมีทั้ง แปรงสีฟันขนาดพกพาประกอบได้ง่ายนิดเดียวมาพร้อมกับยาสีฟัน และแปรงซอกฟัน ถือว่าครบ จบ ในกล่องเดียว เรียกได้ว่าเป็นของคู่กับนักเดินทางแบบเราสุด ๆ เลย
ก่อนเริ่มทริปตะลุยกิน เช้านี้เรามาเตรียมพร้อมกันก่อนด้วยการแปรงฟัน ส่วนการใช้งานก็ง่ายแถมสะดวกมาก ๆ เพียงแค่ประกอบแปรงสีฟันให้จับถนัดมือ บีบยาสีฟันลงบนขนแปรง แล้วทำความสะอาดช่องปากให้ทั่วถึง เท่านี้ก็พร้อมออกเดินทางแล้ว!
Day 1
001 TAKAYAMA OLD TOWN
มาเริ่มเช็กอินกันที่แรกเลยที่กับย่านเมืองเก่าอย่าง TAKAYAMA OLD TOWN ย่านอาคารไม้โบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้ให้เป็นเมืองท่องเที่ยว มีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านขายของที่ระลึกมากมาย และเป็นย่านที่มีของกินเยอะมาก ๆ ทั้งของคาวและของหวาน มีทั้งร้านนั่งรับประทานและร้านสตรีทฟู้ดที่สามารถยืนรับประทานหน้าร้านได้เลย
ภายในซอกซอยที่ทอดยาวเพียงไม่กี่กิโล แต่ร้านอาหารเยอะจนเลือกลองไม่ไหว แต่ถ้าให้เลือกแนะนำเราอยากให้ทุกคนได้ลองโกเฮโมจิ (Goheimochi) ที่จะนำข้าวมาบดเสียบไม้ย่างทาด้วยซอสงากลิ่นหอม รสชาติหวานหอมกลมกล่อมและ Hida Beef Bun ซาลาเปาเนื้อฮิดะที่เป็นเนื้อวัวขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ ทานร้อน ๆ ตัวแป้งจะนุ่ม ซอดแทรกด้วยเนื้อรสชาติฉ่ำ ๆ เป็นอาหารที่แก้หนาวได้อย่างฟินเลยแหละ
002 HIDA KOTTEUSH
ที่สำคัญภายในซอย OLD TOWN นี้ยังมีร้านดังอย่าง HIDA KOTTEUSH ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้อีกด้วย ร้านนี้จะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเก่าที่ดูคลาสสิก ยิ่งมาเที่ยวช่วงฤดูหิมะตก ยิ่งได้ฟีลไปอีกแบบ
และเมนูเด็ดที่ถ้าไม่สั่งก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองนี้ นั่นก็คือ ซูชิเนื้อฮิดะบนแผ่นข้าวเกรียบ รสสัมผัสเนื้อนุ่ม ละลายในปาก ตามด้วยความกรอบ เคี้ยวเพลินที่ได้จากข้าวเกรียบ บอกได้คำเดียวว่า “ฟิน!”
003 Suzuya Restaurant
เนื้อฮิดะ!! สวรรค์ของคนรักเนื้อ นอกจากเนื้อโกเบกับเนื้อวากิวแล้ว ก็มีเนื้อฮิดะจาก เมือง TAKAYAMA นี่แหล่ะที่ทำให้พอได้ลองแล้ว รู้สึกอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกนาน ๆ เลย
จุดเริ่มต้นของการหลงใหลเมืองนี้ เกิดจากการได้เห็นเมนูเนื้อ HIDA ย่างบนใบโอบะ โอววววแม่จ้าวววว นั่นเนื้อหรือหินอ่อนนั่น! ลายเนื้อสวยงาม พร้อมสีขาวมันวาว และการย่างบนใบโอบะนั้นยิ่งทำให้ตัวเนื้อมีกลิ่นหอมน่ารับประทานเอามาก ๆ ยิ่งอยู่กับอากาศหนาวจัด ๆ แบบนี้ การได้มาเจออะไรร้อน ๆ เป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ
ไม่รอช้ารีบจัดเช็ต HOBA YAKI เป็นเนื้อ HIDA ย่างบนใบโอบะปรุงด้วยซอสมิโซะ และ SUKIYAKI เนื้อ HIDA มาซดน้ำร้อน ๆ ให้หายหนาว อย่าถามเลยครับว่าอร่อยมั้ย ความคิดเรื่องการถ่ายรูปกลับมารีวิวแทบจะหายไปทันทีที่อาหารมาวางอยู่ตรงหน้า เนื้อนุ่มมาก แทบละลายในปาก กลิ่นเนื้อหอม ๆ ชวนให้สั่งอีกเรื่อย ๆ น้ำจากผักที่ออกมารวมกันกับน้ำสุกี้หวาน ละมุนลิ้น ยิ่งได้รับประทานพร้อมเนื้อที่ลวกในระดับความสุกที่กำลังดี บอกเลยว่าฟิน!! ใครที่ไปเที่ยวเมือง TAKAYAMA แล้วเกิดหิวขึ้นมา ขอแนะนำเลยว่าร้านนี้คู่ควรกับการฝากท้องมาก ๆ
แน่นอนว่ารับประทานเนื้อมา ต้องกำจัดกลิ่นและเศษอาหาร เพื่อสุขภาพช่องปาก ด้วยการใช้แปรงซอกที่มีมาในเซ็ต กำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าจะไม่มีเศษอาหารมาคอยกวนใจระหว่างวัน เป็นเซ็ตที่พกพาไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย ใช้งานง่าย กล่องเล็ก ประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า ควรค่าแก่การมีไว้สักเซ็ตติดกระเป๋าเวลาออกทริปกินจุก ๆ แบบนี้
Day 2
Takayama to Shirakawago
เช้าวันที่ 2 เราเลือกนั่งบัสจากเมืองทาคายามะมายังเมืองมรดกโลกอย่างชิราคาวาโกะกันใช้เวลาเดินทางราว ๆ 1 ชั่วโมง หลับ ๆ ตื่น ๆ มาแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว แต่จะให้เที่ยวได้อย่างสบายใจ เราก็ขอแวะมาดูแลสุขภาพช่องปากกันก่อนด้วย CURAPROX TRAVEL SET พกง่าย เก็บง่าย ไม่หนักกระเป๋า จะพกไปแปรงหลังอาหารตื่นนอนบนรถบัส รถไฟหรือมื้อไหน ๆ ก็สะดวกสบายมาก ๆ
003 SHIRAKAWAGO
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายไฮไลต์ของทริปนี้กับหมู่บ้านมรดกโลกอย่าง SHIRAKAWAGO ยิ่งช่วงนี้ใครโชคดีมาตรงกับเทศกาล Shirakawago Light Up ที่จะจัดในช่วงเดือนมกราคาจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ภาพถ่ายมุมสูงตอนแสงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า บ้านเรือนเก่าแก่หลายหลังทยอยเปิดไฟสีส้มนวลตาตัดกับสีขาวโพลนจากหิมะ บวกกับแสงจันทร์ที่ทำให้เราได้มองเห็นหมู่บ้านได้ชัดเจนขึ้น มันคือความเหงาที่อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก จนใครหลาย ๆ คนต้องตามหาหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อให้เห็นความงดงามกัน ส่วนเรานั้นมาไม่ตรงกับวันที่จัดงานเลยขอเลือกมาชมความงามช่วงเช้ากัน
ความรู้สึกแรกที่แทรกเข้ามาคือบรรยากาศเมืองที่เหมือนกับซีรีส์ที่ชื่อ Kimetsu No Yaiba ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ใครหลาย ๆ คน น่าจะชอบกันมาก ๆ ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ภายนอกที่ทำให้หมู่บ้านนี้ดูขลังแต่ภายในก็ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่เอาไว้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยคือจุดชมวิวของที่นี่ ไม่ใช่แค่การมาตามรอยภาพถ่ายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการได้มาเห็นความงดงามอลังการของหมู่บ้านด้วยตาของตัวเองสักครั้ง ไม่มีอะไรจะฟินไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ยิ่งภาพตรงจุมดชมวิวของที่นี่ ทำให้เราได้เห็นหมู่บ้านนี้อย่างสุดลูกหูลูกตาและภายใต้หิมะที่เป็นภาพของสถาปัตยกรรมบ้านทรงหลังคาทรงมือพนมที่เรียกว่ากัชโชสุคุริ ยิ่งทำให้เราหลงรักที่นี่ขึ้นไปอีกเลย
หลังจากเต็มอิ่มบนจุดชมวิวก็ถึงเวลามาเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศในเมืองกันต่อ เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องถ่ายรูปคู่กับบ้านเก่าสุดแกร่ง ที่ว่ากันว่าถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันพายุหิมะและป้องกันความหนาวเย็นไม่ให้ผ่านเข้ามาในตัวบ้าน ใครที่ชอบเดินเล่นท้าลมหนาว แนะนำให้ลองมาเดินชิล ๆ ในเมืองดูซักรอบ รับรองว่ามีมุมถ่ายรูปให้เลือกเยอะมาก
เดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยก็ขอแวะทานเนื้อฮิดะเสียบไม้ย่างกันหน่อย ความดีงามของ CURAPROX TRAVEL SET ที่ชอบมาก ๆ อย่างที่บอกไปแล้ว ก็คือนอกจากมีแปรงสีฟันแล้วยังมีแปรงซอกฟันให้เราอีกด้วย จะเศษเนื้อหรือเศษอาหารอะไรก็ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย โดยที่ใช้เวลาไม่นานและทำให้เราพร้อมที่จะลุยที่ต่อไปแบบมั่นใจ
Day 3
005 NAGOYA CASTLE
ชมความสวยงามของธรรมชาติมา 2 วันก็ถึงเวลานั่งรถไฟยาว ๆ มายังเข้าเมืองกันหน่อยและแลนด์มาร์คอีกแห่งของเมืองนาโกย่าที่ห้ามพลาด นั่นคือปราสาทนาโกย่า หรือ NAGOYA CASTLE ที่มีกลิ่นอายความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ แม้อาคารส่วนใหญ่จะถูกทำลายไป แต่ตอนนี้ก็มีการฟื้นฟูภายกันจนถึงปัจจุบัน ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิต เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ เพราะมีพระราชวัง นิทรรศการ และพิพิธภัณฑ์ให้เดินชมกันแบบเพลิน ๆ กัน
สำหรับสายชิล ที่นี่ก็มีสวนหย่อมและจุดชมวิวธรรมชาติสวย ๆ ให้ได้เดินเล่นอีกเช่นกัน ด้วยการจัดตกแต่งอย่างมีศิลปะ ทำให้ตัวปราสาทและบรรยากาศโดยรอบผสมผสานกันได้อย่างลงตัว จนออกมาสวยงามแบบญี่ปุ่น
สำหรับคนที่แวะมาเที่ยวที่นี่ อาจจะต้องเผื่อเวลาเดินสักหน่อย เพราะมีจุดให้เดินเยี่ยมชมหลายโซน แต่ละโซนจะถูกแบ่งออกเป็นห้อง ๆ ซึ่งดูงดงามแตกต่างกันออกไป ใครที่เป็นสายอาร์ต ชอบชมงานศิลปะ หรือสถาปัตยกรรมโบราณ ต้องลองแวะมาเที่ยวที่ปราสาทนาโกย่าแห่งนี้เลย
เดินกันจนเพลินแนะนำให้แก้เหนื่อยด้วยไอศรีมชาเขียวที่มาพร้อมไทยากิไส้ถั่วแดงมันฟินไม่ไหวเลย
006 HITSUMABUSHI HANAOKA
แน่นอนว่ามาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องจัดข้าวหน้าปลาไหล ยิ่งมาเที่ยวนาโกย่ายิ่งต้องลอง เพราะที่นี่เป็นสูตรข้าวหน้าปลาไหลที่มีเฉพาะในเมืองนาโกย่านี้เท่านั้น!
ความพิเศษของข้าวหน้าปลาไหลร้าน HITSUMABUSHI HANAOKA คือการที่ใช้ถ่าน Bincho ในการย่างปลาไหล ใส่ใจกับการใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าว น้ำซอส ทุกอย่างล้วนเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน หลังจากที่ได้ลองรับประทานดูแล้ว สัมผัสได้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบ และความพิถีพิถันในขั้นตอนการทำตั้งแต่การย่างจนถึงการเสิร์ฟเลยทีเดียว
วิธีรับประทานของร้านนี้ สามารถทำได้หลายวิธี จะลองกินแบบเปล่า ๆ เพื่อสัมผัสรสชาติแบบเน้น ๆ หรือจะกินคู่กับผักต่าง ๆ แล้วเพิ่มรสชาติให้จัดขึ้นด้วยวาซาบิก็ได้ ส่วนใครที่อยากรับประทานคล่องขึ้น สามารถเติมซุปลงไปได้ด้วย ใครที่ลองแวะร้านนี้จะต้องประทับใจกับความหอมของกลิ่นถ่านที่ใช้ย่าง สัมผัสเนื้อปลาไหลที่นุ่ม ละมุน และชุ่มซอส ไม่มีกลิ่นคาวเลย
จะทานอาหารแบบไหนก็สบายใจหายห่วงเพราะเรามี CURAPROX TRAVEL SET ที่สามารถทำความสะอาดช่องปากของเราได้แบบสะดวกสบาย จะไปเที่ยวไหนต่อก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นปากเลย
007 NABANA NO SATO WINTER ILLUMINATION
ตกดึกหากมาเที่ยวนาโกย่าในช่วงงานประดับไฟสุดอลังการ ก่อน 31 พฤษภาคม 66 ในจังหวัดมิเอะใกล้ ๆ กัน จะได้พบกับความงดงามในยามค่ำคืนของงานประดับไฟที่จัดขึ้นในสวนดอกไม้ NABANA NO SATO ซึ่งเป็นงานประดับไฟที่จัดขึ้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละปี ซึ่งปีนี้มาในธีม TENKU NO FUNE หรือ Sky sailing Ship
นอกจากนี้ยังมีมุมอื่น ๆ ที่ถูกประดับตกแต่งด้วยดวงไฟกว่าล้าดวง เป็นรูปทรงต่าง ๆ ทั้งภูเขาไฟฟูจิ แม่น้ำ ทุ่งหญ้า และมุมถ่ายรูปยอดฮิตอย่างอุโมงค์ไฟ หรือ Tunnel of Light ในระยะทางกว่า 200 เมตร ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมความงดงามอลังการกันได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีมุมถ่ายรูปเพราะในพื้นที่สวนแห่งนี้ มีการประดับดวงไฟไว้หลายจุด และมีเทคโนโลยีทันสมัย นำเสนอได้น่าสนใจอยู่ตลอด รับรองว่ามาแล้วไม่ผิดหวัง
Day 4
008 Port of Nagoya Public Aquarium
ปกติถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์อาจฟังดูธรรมดา แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นบอกได้เลยว่าประเทศนี้พิถีพิถันกับการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์อย่างมาก ขนาดพิพิธภัณฑ์ที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกก็มีที่ประเทศนี้ ยิ่งถ้าเป็น “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ” ยิ่งมีอะไรตื่นเต้นให้เราได้เห็นมากมายเลย
พอร์ท ออฟ นาโกย่า แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในมีถูกแบ่งออกเป็น 2 อาคาร มาเริ่มต้นที่อาคารแรกกันก่อน ช่วงที่เราไปตรงกับเวลาจัดแสดงโลมา วาฬออก้า พอดี โดยการแสดงนี้จะเป็นการโชว์ความน่ารักและแสนรู้ของน้อง ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดพ่นน้ำหรือขึ้นมาอ้อนขออาหารบนเวที จะโมเมนต์ไหนก็ดูน่ารักไปหมด ส่วนตารางการแสดงต่าง ๆ สามารถดูได้ในพิพิธภัณฑ์เลย
นอกจากนั้นภายในอาคารแรกยังมีน้อนโลมาที่ฉลาด แสนรู้ ดูน่ารักขี้เล่น เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี เจอดาเมจความน่ารักแบบนี้ว่ารู้สึกแพ้แล้ว แต่ก็ต้องยอมแพ้ยิ่งกว่าเมื่อได้เจอกับเจ้าวาฬออก้าที่ขนาดแตกต่างกันมาก แต่ความแบ๊ว น่ารักใส ๆ ที่มีให้กับเรา ไม่แพ้เจ้าโลมาเลยทีเดียว ยิ่งมาเจอกับวาฬเบรูก้าอีก บอกเลยขออยู่ตรงนี้นาน ๆ เลยได้มั๊ย
มาถึงอาคารที่สองกันบ้าง สัตว์ทะเลน้ำลึกกับฝูงปลาซาดีนหลายร้อยตัวแหวกว่ายผ่านตา แสงไฟกับตัวปลาที่ตกกระทบเปล่งประกายระยิบระยับ ทำให้ยิ่งดูสวยงามอีกเป็นเท่าตัว ต้องขอขอบคุณเจ้าบ้านที่ทำให้ค่าเข้าของเรานั้นคุ้มค่ากับทุกเยนที่จ่ายไป เพราะที่นี่นอกจากจะมีโชว์เหล่าน้อน ๆ แล้ว ยังมีระบบการ
009 YAMACHAN เมนูไฮไลต์คือปกไก่ทอด
ปิดทริปสวย ๆ ด้วยร้านไก่ทอดชื่อดังของเมืองนี้อย่าง YAMACHAN ที่น่ารักสมชื่อร้าน เพราะของตกแต่งส่วนใหญ่ในร้านจะเป็นภาพการ์ตูนยามะจัง ที่เป็นโลโก้หรือมาสคอตของที่นี่
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของพริกไทยและเกลือที่คลุกเคล้าจนเข้าเนื้อไก่ หนังไก่ที่กรอบกำลังดี ทำให้รสชาติของปีกไก่ร้านนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แนะนำเลย ถ้าใครแวะมาเที่ยวที่นาโกย่า นอกจากข้าวหน้าปลาไหลแล้วก็มีเจ้าไก่ทอดยามะจังนี่แหละที่ต้องมาลองให้ได้
ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ทำให้เป็นร้านที่เหมาะกับวันพักผ่อนชิล ๆ อยากแวะรับประทานอะไรง่าย ๆ แต่รสชาติดี บอกเลยว่าร้านนี้ตอบโจทย์มาก เพราะมีเมนูให้เลือกหลากหลาย มีทั้งอาหารจานหลัก และอาหารทานเล่น แต่หนึ่งในเมนูเด็ดที่ใครมาก็ต้องสั่งนั่นก็คือเมนูปีกไก่ทอด ด้วยซอสต้นตำรับสไตล์นาโกย่า ทำให้ปีกไก่ที่ดูเหมือนธรรมดา กลายเป็นเมนูยอดฮิตของนักท่องเที่ยวและเมนูซุปกิมจิราดด้วยไข่ออนเซ็นก็เป็นอีกเมนูโปรดที่ทานกับเครื่องเย็น ๆ ปิดท้ายทริปวันสุดท้ายได้แบบสวย ๆ เลย
จบทริปตะลุยกินที่ญี่ปุ่น ได้ลิสต์ที่เที่ยวใหม่กลับไปกันอีกแล้วใช่มั๊ย ใครที่ไปเที่ยวเมืองอื่นแล้ว แต่ยังไม่ได้มาเก็บโซนนี้ต้องรีบตามมาเก็บให้ครบ สุดท้ายจะแวะกี่ที่ จะกินกี่ร้านก็ไม่ต้องเกรงใจปาก เพราะมีตัวช่วยที่ทำให้เราทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น จะแปรงฟันก่อนออกจากที่พัก หลังมื้ออาหาร หรือจะแปรงบนเครื่องระหว่างเดินทางกลับ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่พก CURAPROX TRAVEL SET ติดกระเป๋า รับรองชีวิตสบายขึ้นเยอะ!
